WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, August 18, 2008

คอลัมน์ : สวัสดีวันจันทร์

“...วันนี้เราเป็นประชาธิปไตย เพียงแต่เครื่องมือร้ายๆ ของเผด็จการและสมุนเผด็จการตามมาทำลายความสงบสุขของบ้านเมืองเรื่อยไป เราจะปล่อยให้มันเป็นไปเช่นนั้นตามลัทธิสยบ สมยอม หรือจะกล้าหาญพอที่จะแก้ไขมันเสียให้เป็นประชาธิปไตย เริ่มต้นชีวิตกันใหม่ด้วยหลักเสรีภาพ–เสมอภาค และภราดรภาพ...”
ความตั้งใจของคณะปฏิวัติรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ที่จะทำให้พรรคการเมืองและการเมืองทั้งระบบอ่อนแอ กำลังออกฤทธิ์ให้เห็นอยู่ในขณะนี้
ด้วยเครื่องมือของเผด็จการนับตั้งแต่รัฐธรรมนูญ 2550 ไปจน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญต่างๆ รวมทั้งองค์กรและตัวบุคคลซึ่งเป็นสมุนเผด็จการ ทำให้พรรคการเมืองหลายพรรคต้องเข้าคิวรอการถูกยุบ แม้ตัวนายกฯ และรัฐมนตรีบางคนก็กำลังรอการถูกพักงาน หรือการถอดถอนอยู่หน้าดำคร่ำเครียด
ความเข้าใจผิดว่า ถ้ากำจัด พรรคไทยรักไทย เสียได้ การเมืองไทยจะดีขึ้น
(คือทำให้อำมาตยาธิปไตยดีขึ้น) พอไทยรักไทยหายไปก็เกิด พลังประชาชน ก็คิดกันต่อไปว่า ถ้ากำจัดพลังประชาชนเสียได้ การเมืองไทยจะดีขึ้น หารู้ไม่ว่าถ้าพลังประชาชนแตกดับไป ก็จะมีพรรคการเมืองใหม่ชื่ออะไรไม่รู้เกิดขึ้นมาแทนอีก
ยิวกับโรมันร่วมมือกันกำจัดพระเยซู เพราะคิดว่าถ้าเอาไปตรึงกางเขนให้ตายเสียได้ สาวกพระเยซูก็จะเลิกนับถือ แต่ครั้นพระเยซูสิ้นชีพไปจริงๆ สาวกพระเยซูกลับลงใต้ดินและแพร่ขยายเข้มแข็งจนมีศูนย์กลางอยู่กลางกรุงโรม และทำให้พระเยซูเป็นอมตะตราบเท่าทุกวันนี้
ศาสนาพุทธเราอุบัติขึ้นในชมพูทวีป แต่ต่อมาถูกทำลายด้วยวิธีการต่างๆ จนสูญหายไป แต่ สัจธรรม ที่พระพุทธองค์ประกาศไม่ยอมตายตาม กลับไปเจริญงอกงามในลังกาและสุวรรณทวีป คือ พม่า ไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ดังที่เราได้เห็นกัน
อะไรที่เป็นสัจธรรม-ความจริง และเป็นวิทยาศาสตร์ ย่อมดำรงคงอยู่และเจริญงอกงามหมุนไปตามกงล้อประวัติศาสตร์ ระบอบประชาธิปไตยอุบัติขึ้นในประเทศไทยเมื่อปี 2475 แม้จะถูกเผด็จการและอำมาตยาธิปไตยร่วมกันกลบฝังเท่าไรๆ ก็ไม่สำเร็จ ในที่สุดก็แตกหน่อต่อยอดงอกงามขึ้นมาอีกจนได้
พวก อวิชชา ทางการเมือง คิดว่าตนเองและหมู่คณะสามารถจัดการกับการเมืองได้ตามใจชอบ เพราะประชาชนส่วนใหญ่ไม่สนใจว่าประชาธิปไตยจะมีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่แท้จริงเป็นอย่างไร ดังนั้นพวกเขาจึงทำตัวเป็นสถาปนิก ออกแบบประชาธิปไตยมาให้
แต่ในเมื่อนั่นไม่ใช่ประชาธิปไตยแท้ ประชาชนก็รับไม่ได้ การต่อสู้ ต่อต้าน จึงเกิดขึ้นจนหาความสงบสุขได้ยาก การดื้อแพ่ง แข็งข้อ ก่อกบฏ จะติดตามมาราวกับว่าบทละครที่ถูกผู้เขียนบทหรือผู้กำกับกำหนดไว้ล่วงหน้า
แท้จริงมันคือบทบาทของสัจธรรมทางการเมืองนั่นเอง
พรรคการเมืองของประชาชนจะไม่มีวันตาย!
ไม่ว่าคุณจะใช้อาวุธชนิดใดเข่นฆ่า ทำลายมัน
ยิ่งคุณทำลายหัวใจ คือ ผู้นำพรรคที่ประชาชนศรัทธา คุณก็จะได้รับการตอบโต้จากประชาชนด้วยการโอบอุ้ม หรือปฏิบัติตรงข้ามกับแนวทางที่คุณต้องการ
พูดให้เป็นรูปธรรม คุณใช้อำนาจเผด็จการจัดการกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มากเท่าไร พรรคการเมืองที่สืบทอดแนวคิด พ.ต.ท.ทักษิณ จะเติบโตขึ้นมากเท่านั้น
คุณใช้อำนาจเผด็จการจัดการกับพรรคการเมืองที่สืบทอดแนวคิด พ.ต.ท.ทักษิณ หนักเท่าใด คุณจะพบว่าพรรคการเมืองนั้นจะได้รับการโอบอุ้มมากเท่านั้น
ยิ่งคุณใช้อำนาจไม่เป็นธรรมรังแกเขาบนดินมากเท่าใด เขาจะหลบลงสู้คุณใต้ดินลึกเท่านั้น
มีแต่หนทางประชาธิปไตยและหลักนิติรัฐ นิติธรรม เท่านั้น ที่จะแก้ปัญหาความสงบหรือไม่สงบของการเมืองไทยได้ ไม่มีหนทางที่สอง ไม่ว่าหนทางนั้นจะได้แก่ เผด็จการ หรือ อำมาตยาธิปไตย ก็ตาม
การนั่งกระหยิ่มยิ้มย่องว่า พวกคุณทำงานได้สำเร็จ คือทำลายฐานทางเศรษฐกิจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ลงได้ด้วยการอายัดทรัพย์ และกำลังจะกลายเป็นยึดทรัพย์ รวมทั้งการทำลายหัวใจของพรรคคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ลงได้ด้วยวิธีการบีบให้เขาต้อง ลี้ภัยการเมือง นั้นเป็นความเข้าใจผิดพอๆ กับจักรพรรดิโรมันและชาวยิวบางส่วน พึงพอใจที่จับพระเยซูตรึงกางเขนสำเร็จ
จริงอยู่ พรรคการเมืองไม่ใช่ศาสนา
แต่พรรคการเมืองก็มีลักษณะหลายอย่างสอดคล้องกับศาสนา
พรรคการเมืองที่ดีจะต้องมีนโยบายสอดคล้องกับความต้องการของประชาชน
พรรคการเมืองที่ดีจะต้องมีทรัพยากรบุคคล (ระดับนำ) จำนวนมาก และกระจายครอบคลุมพื้นที่ของประเทศ แต่ละคนต้องมีความรู้ความสามารถเป็นที่ศรัทธาของชาวบ้าน
พรรคการเมืองที่ดี (ควร) ต้องมีเวลาทำงาน และมีผลงานพิสูจน์ฝีมือ เพราะไม่มีอะไรเป็นหลักประกันว่าพรรคการเมืองนั้นสามารถทำงานได้ ไม่ใช่เก่งแต่พูด เก่งแต่วิจารณ์เท่ากับผลงานที่มีโอกาสได้ทำขึ้นไว้
พรรคการเมืองใหญ่ๆ ของไทยทุกวันนี้ เคยมีโอกาสทำงานแสดงฝีมือกันมาแล้วทุกพรรค ไม่ว่าจะเป็น ประชาธิปัตย์ ชาติไทย หรือ พลังประชาชน (ซึ่งมองกันว่าสืบเชื้อสายมาจากไทยรักไทย) ผลงานในอดีตจึงเป็นตัวฟ้องว่าใครมีฝีมือแค่ไหน และพรรคใดอยู่ในหัวใจของคนทั้งแผ่นดิน
ในหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมานี้ ต้องยอมรับว่าไม่มีพรรคการเมืองใดมีผลงานยิ่งใหญ่เท่ากับ พรรคไทยรักไทย นโยบายแก้ปัญหาความยากจน เรื่องกองทุนหมู่บ้าน 30 บาทรักษาทุกโรค SML OTOP การปราบปรามยาเสพติด การปราบปรามผู้มีอิทธิพล ฯลฯ เหล่านี้คือสิ่งที่ประชาชนชาวรากหญ้าตอบรับและถวิลหา
ส่วนหัวใจของพรรคคือ หัวหน้าพรรคนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ประกาศแล้วว่า ตัวท่านไม่ใช่คนดีสมบูรณ์ แต่รับรองได้ ไม่เลวร้ายดังคำกล่าวหาของเผด็จการและเหล่าปฏิปักษ์อนาธิปไตย บนสะพานมัฆวานฯ และ ASTV แน่นอน
พ.ต.ท.ทักษิณ จึงยังเป็นผู้นำทางการเมืองที่ ส.ส. ส่วนใหญ่ยอมรับและประชาชนส่วนใหญ่ก็ไม่ปฏิเสธ เมื่อเทียบกับผู้นำพรรคต่างๆ เท่าที่มีอยู่ เห็นจะยังไม่มีใครได้รับการยอมรับเทียบเท่า
การปฏิบัติการใดๆ ที่มีลักษณะเป็นการข่มเหงรังแก โดยใช้กฎหมายเผด็จการและองค์กรเผด็จการเป็นเครื่องมือ รวมตลอดถึงกระบวนการยุติธรรมที่ไม่เป็นสากล จึงเท่ากับเป็นการส่งเสริมบารมีของ พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคไทยรักไทย ให้สูงเด่นยิ่งขึ้น และเป็นอันตรายต่อความสงบสุขของสังคมและประเทศชาติมากยิ่งขึ้น
สำนวนจีนว่า ‘เบื้องหน้าคือทะเลลึก หันหลังกลับก็เจอฝั่ง’ อธิบายขยายความว่า การตัดสินใจผิดที่นำมาแต่ความทุกข์และความยุ่งยากจนมองไม่เห็นทางออกนั้น เพียงแต่หันกลับมาเดินทางถูกเสียก็จะง่ายดาย และประสบความสำเร็จ ปลอดภัย
ประเทศไทยในเวลานี้ไม่ได้อยู่ในยุคเผด็จการแล้ว
เผด็จการจากไปตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2550
วันนี้เราเป็นประชาธิปไตย เพียงแต่เครื่องมือร้ายๆ ของเผด็จการและสมุนเผด็จการ ตามมาทำลายความสงบสุขของบ้านเมืองเรื่อยไป เราจะปล่อยให้มันเป็นไปเช่นนั้นตามลัทธิสยบสมยอม หรือจะกล้าหาญพอที่จะแก้ไขมันเสียให้เป็นประชาธิปไตย เริ่มต้นชีวิตกันใหม่ด้วยหลัก เสรีภาพ-เสมอภาค และภราดรภาพ
โปรดใช้สติปัญญาตรองดู