(18ส.ค.)เวลา 12.30 น. นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคพลังประชาชน ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมถึงความคืบหน้าในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้วิปรัฐบาลได้รวบรวมผลการศึกษาประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญจากคณะกรรมาธิการส่วนใหญ่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ขาดแต่เพียงบางส่วนที่ยังไม่ส่งผลศึกษา และไม่มีการประชุมหารือกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเจตนาที่ต้องการให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญล่าช้า ส่วนจะขยายเวลาให้คณะกรรมาธิการชุดดังกล่าวหรือไม่นั้นก็คงต้องหารือกันอีกครั้ง
ทั้งนี้ยังไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการยื่นผลสรุปการศึกษาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยจะพยายามยื่นต่อสภาให้ทันเวลาที่กำหนดไว้ เพราะถือว่าข้อมูลที่ได้ขณะนี้มีความสมบูรณ์เพียงพอมากที่สุดแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าในที่ประชุมวิปรัฐบาลได้ประเมินสถานการณ์ของรัฐบาลเกี่ยวกับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่ กกต.จะลงมติเรื่องคดียุบพรรคพลังประชาชน รวมทั้งกรณีรัฐมนตรีหวยบนดินหรือไม่ นายไพจิต กล่าวว่า ก็มีการพูดคุยกันอยู่ ในส่วนของวิปรัฐบาลจะพยายามประคองสถานการณ์ในสภาให้ดำเนินต่อไป ทำงานที่ค้างไว้ให้สำเร็จลุล่วง ส่วนงานนอกสภาถือว่าเป็นเรื่องของพรรคที่จะต้องแก้ปัญหาให้ผ่านพ้นไป ส่วนกรณีการยุบสภายังไม่ได้หยิบขึ้นมาเป็นประเด็นการหารือ เพราะยังไม่ถึงเวลา
เมื่อถามว่าสมาชิกพรรคยังยืนยันที่จะรวมตัวกันอยู่ในพรรคเดียวกันหรือไม่ นายไพจิต กล่าวว่า เราจะอยู่ในพรรคที่มีทิศทางไปในทางเดียวกัน ไม่ใช่นำเรื่องที่ชอบหรือไม่ชอบการทำงานของใครมากดดัน แต่จะมองภาพรวมในการบริหารงานของนายสมัคร ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ว่ามีความสัมพันธ์กับลูกพรรค และคนรากหญ้าที่เลือกพวกเราเข้ามาทำงานหรือไม่
เมื่อถามถึงกรณีที่ ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชนออกมายอมรับว่ามีการเตรียมพรรคเพื่อไทยไว้รองรับ ส.ส.แล้ว นายไพจิต กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าการยุบพรรคคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นหน้าที่ของ ส.ส.ต้องหาพรรคสังกัดภายใน 60 วัน ซึ่งการเตรียมพรรคเพื่อไทยไว้ ก็ถือว่าเป็นการเตรียมพร้อม หากถูกกระทบถึงขั้นยุบพรรค และมองว่าพรรคดังกล่าวที่ตั้งขึ้นมาก็มีความเป็นกลาง ส่วน ส.ส.จะตัดสินใจอย่างไรก็ถือเป็นสิทธิ์ ซึ่งหากถูกยุบพรรคจริงและต้องมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น แต่ละคนก็คงจะพิจารณาว่าจะลงเรือการเมืองเดียวกันหรือไม่ และไม่สามารถประเมินแนวโน้มล่วงหน้าได้ว่าใครจะมาอยู่กับเรา หากความสัมพันธ์ยังแนบแน่นไม่เป็นศัตรูทางการเมืองก็คงไม่น่าจะมีปัญหาหากจะมาอยู่ด้วยกัน
เมื่อถามถึงกรณีที่สมาชิกพรรคพลังประชาชนลงชื่อเรียกร้องให้นายสมัครชีแจงกรณีที่ปล่อยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายไพจิต กล่าวว่า เป็นเรื่องภายในพรรค ไม่ได้เป็นการกดดันนายสมัคร แต่เรื่องดังกล่าว ส.ส.ต้องการคำชี้แจง เพราะจากการลงพื้นที่ก็มีเสียงสะท้อนจากประชาชนว่าเหตุใดต้องออกหมายจับไปทั่วประเทศ ในเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไปอยู่ต่างประเทศแล้ว ดังนั้นในฐานะหัวหน้าพรรคก็ควรจะพูดคุยและชี้แจงอย่างจริงใจ เพื่อให้สมาชิกพรรคไม่เข้าใจผิด