WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, August 18, 2008

ปัญหาที่ทำกินปะทุ ราษฎรกกตูมค้านโครงการปลูกป่า

ความต้องการที่สวนทางกันระหว่างคนยากจนที่ต้องการที่ทำกิน กับหน่วยงานรัฐที่ต้องการเพิ่มพื้นที่ป่า มีมาโดยตลอด คนจนดูจะไม่พอเพียงในที่ดินทำกิน ขณะที่โครงการปลูกป่าก็ดูจะไม่รู้จักเพียงพอ ความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับรัฐจึงปะทุลุกลาม ยากหาข้อยุติ
12 สิงหาคม 2551 ราษฎร ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ประมาณ 100 คน รวมตัวกันเดินทางไปขอเข้าพบหัวหน้าโครงการพัฒนาลุ่มน้ำห้วยบางทรายฯ ที่ศูนย์เพาะชำกล้าไม้ ห้วยไผ่ ต.กกตูม เพื่อขอให้ยกเลิกการปลูกกล้าไม้ในที่ทำกินของราษฎร จำนวน 300 ไร่
หลังจากเดินทางถึงศูนย์เพาะชำกล้าไม้ ห้วยไผ่ ในเวลาประมาณ 10.40 น. ด้วยรถกระบะและมอเตอร์ไซค์จำนวนหนึ่ง ราษฎรที่รวมตัวกันมาจาก 4 หมู่บ้าน จึงได้แจ้งความจำนงให้ นายปรีชา สิงคเสลิต หัวหน้าโครงการพัฒนาลุ่มน้ำห้วยบางทรายตอนบนฯ ออกมาพบราษฎรที่รอคอยอยู่ด้านหน้าสำนักงานศูนย์ เพื่อรับฟังข้อเรียกร้องของราษฎร แต่นายปรีชาต้องการให้จัดตัวแทนเข้าพบ ทำให้ราษฎรเกิดความไม่พอใจ แต่ในที่สุดก็ได้จัดตัวแทนราษฎรรวมทั้งสิ้น 14 คน เข้าพบนายปรีชา บนสำนักงานศูนย์ ในเวลาประมาณ 12.30 น.
จากนั้นตัวแทนจึงได้แจ้งนายปรีชาว่า ราษฎรทั้งหมดที่รวมตัวกันมานั้น เพื่อมาคัดค้านการปลูกกล้าไม้ในที่ทำกินของราษฎรบริเวณดงด่านฮัก รวมทั้งบริเวณอื่นๆ ตั้งแต่บ้านนาหินกอง-สุขสวัสดิ์ จนถึงบ้านคำผักกูด ต.กกตูม เนื่องจากมีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่ทำการผลิต ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ของโครงการได้เข้าไปถางต้นไม้ในบริเวณดงด่านฮักเพื่อทำการปลูกกล้าไม้ โดยไม่ได้แจ้งให้ราษฎรที่ทำกินอยู่ในบริเวณนั้นทราบ ทำให้ราษฎรวิตกกังวล กลัวว่าทางราชการจะยึดพื้นที่ซึ่งเคยทำกินมาแต่เก่าก่อน โดยขยายเขตพื้นที่ป่าออกมา
ทางด้านนายปรีชาได้ชี้แจงว่า พื้นที่ที่จะทำการปลูกป่าดังกล่าวซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงภูพาน อุทยานแห่งชาติภูผายล ได้ตรวจยึดโดยทำการฝังหลักไว้ตั้งแต่ปี 2540 แล้ว จึงคิดว่าเป็นพื้นที่ของทางราชการ ไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่เมื่อมีปัญหาเช่นนี้ ก็ขอให้ร่วมกันแก้ปัญหา โดยในวันนี้ได้ทำบันทึกชี้แจงวัตถุประสงค์การฟื้นฟูพัฒนาป่าเสื่อมโทรม ซึ่งโดยสรุปคือ เพื่อปลูกไม้ไผ่และหวายเป็นพืชอาหารให้ราษฎรได้บริโภคและใช้ประโยชน์ร่วมกัน และปลูกต้นขี้เหล็กบ้านและพันธุ์ไม้ป่าอื่นๆ ซึ่งพื้นที่เป้าหมาย 300 ไร่นี้หลังจาก 3 ปี จะส่งมอบให้หมู่บ้านและราษฎรรับผิดชอบดูแลต่อไป ส่วนพื้นที่ข้างเคียงอื่นๆ จะร่วมกับราษฎรแก้ไขปัญหาข้อกฎหมาย ออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ตามระเบียบและข้อกฎหมายที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้ ขอให้ราษฎรที่มาในวันนี้นำบันทึกนี้ไปศึกษาให้เข้าใจ แล้วค่อยกลับมาคุยกันใหม่ในวันหน้า
นายถนัด ชาวเขา สมาชิก อบต.กกตูม ตัวแทนราษฎรผู้เดือดร้อนกล่าวว่า ทางราชการบอกว่าจะร่วมกันแก้ปัญหา แต่ไปถางป่าโดยไม่แจ้งให้ชาวบ้านทราบเลย อย่างนี้จะถือว่ามีความจริงใจได้อย่างไร
ส่วน นายธนากร มงคลเกตุ กำนันตำบลกกตูม กล่าวว่า นายปรีชาทำงานโดยไม่คุยกับชาวบ้านก่อน การตรวจยึดพื้นที่ในปี 2540 ไม่มีชาวบ้านรู้สักคน การทำโครงการปลูกป่าในวันนี้ก็เช่นกัน ไม่ได้ปรึกษาหารือและแจ้งให้ชาวบ้านทราบก่อน ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจ และออกมาคัดค้าน ต้องถือเป็นข้อบกพร่องของนายปรีชา
ตัวแทนราษฎรผู้หนึ่งกล่าวว่า เมื่อก่อนชาวบ้านก็อยากจะให้ความร่วมมือกับโครงการ แต่ที่ผ่านมา นายปรีชาและลูกน้องทำให้ชาวบ้านหวาดระแวง และไม่มีความเชื่อถือ เช่น คอยตรวจจับชาวบ้านที่เข้าไปทำกินในที่ดิน ซึ่งแม้จะเป็นเขตป่า แต่ก็เป็นที่ดินที่ทำกินมาแต่เก่าก่อน ทำให้ชาวบ้านหวาดกลัว ไม่กล้าเข้าไปทำประโยชน์ และต้องปล่อยให้ที่ดินกลายเป็นที่รกร้าง หรือบางครั้งก็มีการรีดไถ ถ้ามีความจริงใจจะร่วมกันแก้ปัญหาจริงก็ต้องไม่ทำแบบนี้
นอกจากนี้ ได้มีตัวแทนราษฎรเสนอให้ปลูกป่าในบริเวณป่าชุมชนที่ชาวบ้านได้กันพื้นที่ไว้แล้ว หรือไม่ก็ให้ราษฎรดำเนินการปลูกป่าเอง ไม่ต้องเปลืองงบประมาณ แต่นายปรีชาได้ปฏิเสธข้อเสนอของราษฎร และยืนยันให้นำบันทึกที่ตนเขียนกลับไปศึกษาให้ดี แล้วค่อยมาพูดคุยกันอีกครั้ง
ที่ประชุมจึงสรุปว่า จะนำบันทึกดังกล่าวกลับไปให้ชาวบ้านผู้เดือดร้อนพิจารณาตัดสินใจ และนัดหมายให้นายปรีชาไปประชุมร่วมกับราษฎร เพื่อรับฟังการตัดสินใจในวันที่ 19 สิงหาคมที่จะถึงนี้
นายถนัด ชาวเขา ส.อบต.กกตูม ตั้งข้อสังเกตหลังการเข้าพบนายปรีชาว่า บันทึกที่นายปรีชาทำมานี้ ไม่ได้มีผลในทางปฏิบัติเลย นายปรีชาบอกว่าจะทำในสิ่งที่ตนเองไม่มีอำนาจหน้าที่ เช่น เรื่องการแก้ไขกฎหมาย ออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ การบอกว่าจะไม่ขยายพื้นที่ปลูกป่าออกไปอีก ก็ไม่สามารถรับประกันได้ในอนาคต นอกจากนี้ การดำเนินโครงการนี้ก็มีลักษณะไม่โปร่งใส ประชาชนไม่ได้รับรู้ข้อมูลของโครงการทั้งหมด ซึ่งเรื่องนี้จะได้เรียกร้องให้มีการเปิดเผยข้อมูลของโครงการในการประชุมในครั้งหน้า
อนึ่งในพื้นที่ที่เกิดกรณีปัญหาดังกล่าว เป็นพื้นที่ทำกินของราษฎรที่ถูกประกาศเขตป่าสงวนดงภูพานและเขตอุทยานแห่งชาติซ้อนทับ โดยปัญหาดังกล่าวได้ดำเนินยืดเยื้อมากว่า 20 ปี โดยยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้