“ความจริงวันนี้” ตีแสกหน้าม็อบถ่อย เกิดมาค้านทุกเรื่องโดยไม่สนใจทำบ้านเมืองเสียหาย แตกแยก ขายหน้าไปทั่วโลก ระบุดาวกระจายไปเรียกร้องสถานทูตอังกฤษส่งตัว “ทักษิณ” กลับ รับรองไม่ได้กินแน่เพราะมีกติกาชัดเจน ส่วนที่จ้องปลุกระดมเด็กนักเรียนโยธินบูรณะ ก็เอาข้อมูลมาอ้างอย่างไร้เหตุผลทั้งที่เตรียมการกันมา 16-17 ปี เผยเตรียมเปิดโปงหมดเปลือก “สันติอโศก” สำนักเถื่อนนอกศาสนา ตามด้วยการเปิดรากเหง้า “สนธิ ลิ้มทองกุล” หัวหน้านักเลงมัฆวานฯ
พฤติกรรมของม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่นำโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อค่ายผู้จัดการ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง อดีตนายทหาร จปร.7 และเคยมีบทบาทต้านเผด็จการมาในอดีต นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยหนีการประชุมสภาฯ เพื่อมาขึ้นเวทีพันธมิตรฯ และแกนนำตัวประกอบอีก 2-3 คน เป็นที่รู้กันดีว่ามีแนวทางในการชุมนุมขับไล่รัฐบาลเป็นหลัก โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยความสมเหตุสมผล รวมไปถึงไม่เคยคำนึงถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ไม่เคยคำนึงถึงความแตกแยก วุ่นวายที่จะเกิดขึ้นในประเทศชาติ และที่สำคัญไม่เคยคิดถึงความเสียหายของบ้านเมือง โดยเฉพาะในสายตาชาวโลก
นอกดจากนี้กลุ่มพันธมิตรฯ ยังพยายามฉกฉวยสถานการณ์ต่างๆ เข้าไปปลุกระดม สร้างเงื่อนไข เพื่อหาแนวร่วมในการต่อต้านรัฐบาล อย่างล่าสุดในกรณีของโรงเรียนโยธินบูรณะ ที่จะต้องมีการย้ายโรงเรียน เพื่อนำสถานที่ไปก่อสร้างอาคารรัฐสภา ทั้งที่มีสถานที่กว้างขวางขึ้น และมีการป,กสร้างอาคารใหม่ให้ครบถ้วน และอยู่ห่างจากจุดเดิมไปเพียง 1.7 กิโลเมตร ซึ่งบางคนกลับได้รับประโยชน์เพราะใกล้บ้านมากขึ้น ด้วยซ้ำไป และที่สำคัญกลุ่มครู นักเรียน และผู้ปกครอง ต่างก็เข้าใจและไม่ได้มีท่าทีต่อต้านรัฐบาลอย่างรุนแรง
แต่ที่ผ่านมากลับพบว่ามีคนออกใบปลิว และพยายามยุยงเด็กนักเรียนให้ออกต่อต้าน รวมไปถึงพฤติกรรมเด่นชัดของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่จะดาวกระจายไปยังโรงเรียนโยธินบูรณะ จนเห็นถึงเจตนาสร้างความวุ่นวายได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
รวมถึงกรณีที่จะดาวกระจายไปยังสถานทูตอังกฤษ ก็เป็นที่วิ พากษ์วิจารณ์กันอย่างกว่างขวางว่าจะมีแต่ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศชาติเกิดความเสียหาย และยังเป็นการไม่เคารพกระบวนการยุติธรรม ที่มีหน้าที่ในการดำเนิการเรื่องดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย
ทั้งนี้ในรายการ “ความจริงวันนี้” เมื่อคืนวันที่ 17 สิงหาคม ที่ผ่านมา ก็ได้หยิบยกเรื่องดังกล่าวสู่การสนทนา โดย นายวีระ มุสิกพงศ์ ผู้ดำเนินรายการได้เปิดประเด็นว่า “การที่กลุ่มพันธมิตรฯ จะดาวกระจายไปสถานทูตอังกฤษ เรื่องคุณทักษิณ เพื่อให้อังกฤษส่งตัวมา ฐานเป็นผู้ร้ายข้ามแดน เป็นอาชญากร ผมเรียนว่า พ.ต.ททักษิณ มีความชอบธรรมในการลี้ภัย ต้องดูที่มาที่ไป 19 กันยายน 2549 บ้านเมืองเป็นเผด็จการ และก็มีการสร้างองค์กรเผด็จการ 17 เดือน พอแม้มีการเลือกตั้ง แต่การณ์กลับตรงกันข้าม ในแถลงการณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ บอกชัดว่า หวังว่าระบอบประชาธิปไตยจะเป็นไปตามหลักสากล แต่มันเป็นไปไม่ได้ เพราะกฎหมายและองค์กร บุคคล เป็นเผด็จการตั้งไว้
ที่บอกว่ากระบวนการยุติธรรมที่ไม่มีความยุติธรรมก้เป็นด้วยเหตุนี้ จึงมีการลี้ภัยทางการเมือง นี่จัดว่าเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการต่อสู้ เพื่อให้เกิดกระบวนการประชิปไตยของบ้านเมืองนี้ การที่คนไทยจะไปชุมนุม เพื่อบีบรัฐบาลอังกฤษ ผมเรียนว่าไม่ได้กินหรอกครับ เขามีมาตรฐาน เขามีหูมีตา ไม่มีใครเชื่อหรอกครับว่าระหว่างวันที่ 19 กันายน 2549 กับ 23 ธันวาคม 2550 บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย
นอกจากนี้จะดาวกระจายไปโรงเรียนโยธินบูรณะ เรื่องสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ซึ่งมีการจัดการไว้เรียบร้อยแล้ว การนัดกันไปดาวกระจายที่โรงเรียนโยธินบูรณะ ที่เขาตกลงว่าจะขอที่มาสร้างรัฐสภา ที่รอคอยมา 16- 17 ปีแล้ว เงินทองพร้อม รอแค่จัดการ แต่ทีนี้มีใครก็ไม่รู้ยุแหย่ อาจมีคนคิดค้านโดยบริสุทธิ์ใจก็มี
ก่อนหน้านี้เราชมเด็กนักเรียนที่เดินหน้ามาเรียกร้องที่รัฐสภา ว่ามีความเป็นประชาธิปไตย แต่ขออย่างเดียวอย่าไปรวมกับคนที่มัฆวานฯ และก็เดาไม่ผิด เรื่องนี้ถึงสะพานมัฆวานแล้ว ทั้งๆที่เขาย้ายให้ไปอยู่ที่ใหม่ ที่กว้างกว่าเดิมตั้ง 16 ไร่ ไม่ไกลจากเดิม กระทรวงการศึกษาก็รับผิดชอบ แต่เรือ่งนี้ตกมาถึงนักเลงโตของประเทศไทยแล้ว
เอาล่ะครับ ไม่เป็นไร จะทำให้บ้านเมืองวุ่นวายไปกว่านี้ก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องมีการสร้างรัฐสภาก็ได้ ติดว่าคงกลัวมีค่านายหน้านายหลังกัน เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง เขามีการตรวจสอบได้ไม่ต้องห่วง ปัญหาคือคนอย่างผมที่เขาคอย คนที่เขามีความเป็นประชาธิปไตยเขารอคอย อยากมีอาคารของรัฐสภา เป็นสัญลักษณ์ของระบอบประชาธิปไตย แต่พวกคุณเป็นอะไรคัดค้านทุกเรื่อง ก่อปัญหากันทุกเรื่อง เมื่อเป้ฯอย่างนี้ก็ดี จะได้เปิดกันให้ชัดๆ เสียที
ขอเปิดเลยนะครับ วันจันทร์ จะพูดเรื่องสันติอโศก ไม่จบต่อวันอังคาร จากนั้นเป็นเรื่องของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ว่าเป็นใคร มีฐานะอย่างไร ที่จะมาตั้งตนเป็นผู้สถาปนาตัวเอง มาเป็นประเทศอย่างที่เห็นทุกวันนี้ ไม่มีใครพูดความจริง แต่เราจะพูดความจริงกัน”