วันพุธที่ 20 สิงหาคมนี้ กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย นำโดย สมยศ พฤกษาเกษมสุข นัดหมายรวมตัวกันในเวลา 10 โมงเช้า ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ตั้งใจจะเดินไปถึงหน้าที่ทำการ ป.ป.ช. ให้ทันเวลา 11 โมง เพื่อทำพิธีขับไล่กรรมการ ป.ป.ช. ทั้ง 9 คน เป็นครั้งที่ 4
โดยได้ออกแถลงการณ์ย้ำกันชัดๆ อีกครั้งมีใจความสำคัญสรุปได้ว่า...
“การรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ได้ฉีกรัฐธรรมนูญ 2540 ทำลายประชาธิปไตย ทำให้ประเทศไทยตกต่ำ เสียหาย...นำมาสู่ความแตกแยกในสังคมอย่างรุนแรง เศรษฐกิจตกต่ำย่ำแย่ สร้างความทุกข์ยากเดือดร้อนมาสู่ประชาชนไทยแสนสาหัส
การกระทำของคณะรัฐประหาร เป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 มีโทษถึงประหารชีวิต แต่กลับใช้อำนาจเถื่อน ออกกฎหมายรัฐธรรมนูญ 2550 นิรโทษกรรมให้กับตนเองและพวกพ้อง
และยังหมายรวมถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชุดปัจจุบัน ที่ถูกแต่งตั้งจากคณะรัฐประหาร ถือเป็นการใช้อำนาจเถื่อนในการแต่งตั้ง เป็นการขัดต่อพระราชบัญญัติการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 12 ที่ได้บัญญัติไว้ว่า กรรมการมีวาระการดำรงตำแหน่งเก้าปีนับแต่วันที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง และขัด พ.ร.บ.เงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง พ.ศ.2541 ที่บัญญัติให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งตั้งแต่วันที่มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งเช่นกัน
ป.ป.ช. ชุดปัจจุบันนี้จึงไม่ใช่องค์กรอิสระอย่างแท้จริง แต่เป็นกลไกของระบอบเผด็จการทหาร เพื่อสืบทอดอำนาจของเผด็จการทหาร การปฏิบัติหน้าที่ในขณะนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรเถื่อนเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นเครื่องมือของกลุ่มอำนาจการเมืองเผด็จการทหาร ที่ต้องการทำลายล้างระบอบประชาธิปไตย
ดังนั้น เพื่อระงับความแตกแยกของคนในชาติ สร้างจริยธรรม ความถูกต้อง สร้างสรรค์ความถูกต้องในระบอบประชาธิปไตย ไม่ควรปล่อยให้ ป.ป.ช. ทำหน้าที่ต่อไป”
ข้อความตามที่ปรากฏในแถลงการณ์ดังกล่าว ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นประเด็นที่หลายฝ่ายมีความเห็นตรงกันว่า ป.ป.ช. ชุดปัจจุบันขาดความสง่างาม และขาดความชอบธรรมมาตั้งแต่เริ่มต้นรับตำแหน่ง
จึงเป็นที่มาของความพยายามจากหลายๆ ฝ่ายที่จะสร้างความถูกต้องให้เกิดขึ้น ด้วยการเรียกร้องให้ ป.ป.ช. ทั้ง 9 คนออกจากตำแหน่งเสีย และกลับเข้ามาใหม่ด้วยกระบวนการสรรหาอย่างถูกต้องตามกฎเกณฑ์กติกา
เพราะนอกจากว่าการเข้ามาโดยขัดต่อกฎหมายจะสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดข้อโต้แย้งทางกฎหมายจากการทำหน้าที่ในวันข้างหน้า หรือการส่อว่าจะละเมิดพระราชอำนาจดังที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันไปอย่างกว้างขวางแล้ว
ยังอาจหมายถึงการขาดความน่าเชื่อถือในการปฏิบัติหน้าที่ ขององค์กรอิสระที่ต้องมากไปด้วยความโปร่งใส และเป็นที่น่าเชื่อถือศรัทธา
แต่การเรียกร้องตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็ดูท่าจะไม่เป็นผล และไม่สามารถปลุกสำนึกใดๆ ของ ป.ป.ช. ทั้ง 9 คนได้เลย
ไม่ว่าจะเป็นการเผาโลงศพประจานหน้าที่ทำการ ป.ป.ช.
จุดประทัดขับไล่
ตามมาด้วยการทุบบ้าง กระทืบบ้าง โดยใช้กระเบื้องอย่างหนา 9 แผ่น
รวมไปถึงล่าสุดที่มีการปล่อยเหี้ย 9 ตัว ไปหน้า ป.ป.ช. และมีการปล่อยลอดรั้วเข้าไป 2 ตัว จนเป็นเรื่องที่มีการแจ้งความดำเนินคดีอยู่ในขณะนี้
โดยที่เหี้ยอีก 7 ตัว กลุ่มผู้ชุมนุมขับไล่ได้เอาไปขอความอนุเคราะห์จากเขาดินให้ช่วยเลี้ยงไว้อย่างดี ไม่ให้ออกเพ่นพ่านทำร้ายผู้คน โดยเฉพาะคนบริสุทธิ์
มาถึงสัปดาห์นี้มีการนัดหมายกันในวันพุธ เพื่อร่วมชุมนุมขับไล่ 9 ป.ป.ช. เป็นครั้งที่ 4 พร้อมกับนัดหมายร่วมกันทำพิธีสะกดวิญญาณลงหม้อแล้วนำไปถ่วงน้ำ โดยผู้ที่เชี่ยวชาญทางพิธีกรรมจากภาคเหนือและอีสาน
ก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้ผลแค่ไหน
และก็คงต้องปักหลักขับไล่กันต่อเนื่องไปอย่างนี้ หากใครมีความคิดความอ่านเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จะไปร่วมแสดงพลังก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี...
งานนี้น่าเห็นใจกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย และบรรดาแนวร่วม เพราะหาก ป.ป.ช. ยังดื้อดึงทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ปกป้องผลประโยชน์ตัวเองเหนือสิ่งอื่นใด ไม่สนใจเสียงก่นด่าสาปแช่งอยู่อย่างนี้
มีหวังหมดมุกซะก่อนเป็นแน่...!!