“สดศรี” ตัดพ้อรธน.ฉบับทำพรรคการเมืองอ่อนแอ ยอมรับเป็นเสียงข้างน้อยตอนยกร่าง หวั่นเกิดสุญญากาศหากทุกพรรคโดนยุบหมด แขวะ “พรรคมัฆวานฯ” ควรโดดมาเล่นการเมืองในสภา
นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวผ่านรายการ “เจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์” ถึงสำนวนยุบพรรคพลังประชาชน (พปช.) ว่า จะเข้าสู่การพิจารณาของกกต.ในวันนี้เป็นครั้งแรก เพราะเพิ่งได้คำวินิจฉัยของคณะอนุกรรมการฯ เมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีการฟันธงมาแล้ว ด้วยเสียงเอกฉันท์ แต่เป็นความลับ
เมื่อถามถึงข่าวเรื่องอนุกรรมการเสียงแตก นางสดศรี กล่าวว่า คงเป็นเรื่องอื่น เพราะเรื่องนี้เสียงเป็นเอกฉันท์ เรื่องนี้มีกรณีตัวอย่างอยู่แล้ว ก็ขึ้นกับนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต. ที่เป็นนายทะเบียนพรรคการเมมือง เพราะหากวันนี้จะพิจารณายุบพรรค ท่านก็ต้องเสนอเข้ามาก่อน เพราะหากเสนอไม่ควรยุบ ทุกอย่างก็จบ กกต.ท่านอื่นไม่มีสิทธิโต้แย้ง แต่หากบอกว่าให้ยุบ ถึงจะลงมติกัน
เมื่อถามว่า นายอภิชาตเคยบอกจะใช้มาตรฐานเดียวกันกับพรรคมัชฌิมาธิปไตย (มฌ.) และพรรคชาติไทย (ชท.) ก็ต้องยุบอยู่แล้ว นางสดศรี กล่าวว่า แต่คณะอนุกรรมการเป็นคนละชุดกัน
นางสดศรี กล่าวด้วยว่า สำนวนยุบ 2 พรรค (มฌ.-ชท.) ขณะนี้ไปอยู่ที่อัยการสูงสุด แต่ไม่ได้กำหนดเวลาว่าจะฟ้องเมื่อใด จึงยังไม่ได้ยื่นฟ้องต่อศาล จะปีนี้หรือปีหน้าก็ได้ เพราะไม่มีกฎหมายเขียนไว้ ทางสื่อก็ต้องไปถามอัยการสูงสุดเองว่า ดึงเวลาทำไม เพราะกกต.ถือว่าหมดหน้าที่แล้ว หลายเรื่องที่เรายื่นให้อัยการ กรณีพรรคการเมืองบางพรรคไม่ได้แจ้งค่าใช้จ่าย เราก็ส่งให้ แต่หลายเรื่องท่านก็ไม่ได้ฟ้อง เรื่องพวกนี้ไม่มีอายุความ ก็ต้องตีความว่า เหมือนคดีทั่วไปหรือไม่ เพราะเรื่องยุบพรรคก็ไม่มีอายุความเช่นกัน ส่วนพรรคเพื่อแผ่นดิน (พผ.) นั้น เราต้องยื่นฟ้องกับศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง เพื่อยืนยันการให้ใบแดง ก่อนจะกลับมาที่กกต.อีกครั้งว่าจะยุบพรรคหรือไม่
เมื่อถามว่า โครงเรื่องเดียวกันระหว่างพรรคเพื่อแผ่นดินกับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นางสดศรี กล่าวว่า ก็คงใกล้เคียงกัน โดยสถานะของปชป. เคยมีการเสนอเข้ามาเดือนก.พ. ซึ่งกกต.ก็ให้ไปสอบเพิ่มเติม เพราะมีประเด็นเรื่องฝ่ายสืบสวนบางคน นามสกุลเดียวกับนักการเมืองของพรรคปชป. ระดับกรรมการบริหารพรรค คือนายสุทัศน์ เงินหมื่น เราก็ให้เปลี่ยนพนักงานสอบสวนคนนั้น ซึ่งมีนามสกุลเดียวกัน เพราะเป็นญาติกันกับนายสุทัศน์
เมื่อถามว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของอนุกรรมการฯ นางสดศรี กล่าวว่า ก็มีข่าวว่าเสียงแตกกัน ความจริงชุดที่เสียงแตกคือชุดนี้ ยังไม่ทราบว่าจริงหรือไม่ เพราะฟังข่าวจากสื่อที่รู้เรื่องดีกว่ากกต.อีก ทั้งนี้คณะอนุกรรมการยุบพรรคปชป.ได้ขอขยายเวลา แต่เราจะไม่ให้เกิน 3 ครั้ง ก็เห็นว่าจะสรุปให้ได้ภายในเดือนนี้ โดยชั้นนี้เป็นเรื่องใบแดงของนายวิฑูรย์ นามบุตร และส.ส.เขตอีก 2 คน
เมื่อถามว่า เท่าที่ฟังก็คือยุบพปช.-มฌ.-ชท.-ปชป. แล้วจะเหลืออะไร นางสดศรี กล่าวว่า “ก็นั่นนะสิ ต้องถามคนยกร่างรัฐธรรมนูญ ดิฉันอยู่ในเสียงข้างน้อย 35 คนของคนยกร่างฯ ก็เห็นว่าถ้าหมดทุกพรรค เชื่อว่าจะทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอ ทำให้ไม่มีพรรคไหนอยู่ยั่งยืน คิดว่าโอกาสที่จะมีสุญญากาศเป็นไปได้สูง ไปๆ มาๆ จะเหลือพรรคการเมืองในสภาฯหรือไม่ ก็ไม่รู้”
เมื่อถามว่า อาจเหลือพรรคมัฆวานฯเพียงพรรคเดียว นางสดศรี กล่าวตอบว่า “ก็ดีเหมือนกัน มาเล่นการเมืองในสภากัน เดี๋ยวก็โดนวิจารณ์อีก”