WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, August 22, 2008

คอลัมน์: โต๊ะข่าวประชาทรรศน์

เรื่องราวของ คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการ สตง. ที่ว่าด้วย ม.301 ซึ่งระบุถึงการสรรหาผู้ว่าการคนใหม่ ภายใน 120 วัน นับแต่วันที่มีประธานสภาผู้แทนราษฎร และมีผู้นำฝ่ายค้านในสภา หลังจากการเลือกตั้งเป็นครั้งแรกตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ 2550 นั้น

เป็นประเด็นที่ชวนให้เชื่อได้ว่า จนถึงวันนี้ที่เกินเวลามานับร้อยวัน สถานภาพของคุณหญิงจารุวรรณ ในฐานะผู้ว่าการ สตง. ได้หมดลงแล้วตั้งแต่วันที่ครบกำหนดตามเงื่อนไข

หรือหากจะตะแบงว่าทำหน้าที่ผู้ว่าการ รักษาการ ตามที่รัฐธรรมนูญ ม.301 เขียนเอาไว้ในวรรคสอง ในการลงนามก็จะต้องระบุให้ชัดว่าทำหน้าที่รักษาการ ไม่ใช่ตัวจริง

นอกจากนี้หากพิจารณาตามเจตนารมณ์ของบทเฉพาะกาล ที่กำหนดให้มีการรักษาราชการแทนในช่วงเวลา ที่ยังไม่มีผู้ว่าการ สตง. คนใหม่ ตามนัยดังกล่าว ก็เจตนาที่จะหมายถึงการรักษาราชการในระหว่างกระบวนการสรรหา เพราะสาระสำคัญก่อนหน้านั้นในวรรคแรก ก็ล้วนเป็นการพูดถึงการได้มาซึ่งผู้ว่าการ สตง. คนใหม่ ทั้งกระบวนการ ขั้นตอนต่างๆ

ทั้งหลายทั้งปวงนี้ ไม่น่าเชื่อว่าคุณหญิงจารุวรรณจะไม่รู้เงื่อนไข และข้อบ่งชี้ถึงสถานภาพของตัวเองตามรัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รธน.50 ที่คนกลุ่มหนึ่งยกย่องเชิดชูกันเหลือเกินว่า เป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ดีที่สุด ดียิ่งกว่า รธน.40 ที่เคยได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็น รธน. ฉบับประชาชน เป็น รธน. ที่คนไทย มีสิทธิมีเสียง มีส่วนร่วมในการบริหารบ้านเมืองชัดเจนยิ่งกว่ายุคใด

และในกลุ่มผู้ที่ชื่นชมรัฐธรรมนูญฉบับดังว่า ยังอาจหมายถึงคุณหญิงจารุวรรณ ด้วยอีกคนก็เป็นไปได้

ขณะเดียวกันนอกจากไม่เชื่อว่าคุณหญิงจารุวรรณจะไม่รู้เงื่อนไขในรัฐธรรมนูญ ก็ยังไม่เชื่อว่าการเป็นผู้บริหารสูงสุดในองค์กรใหญ่โต ที่มีนักกฎหมายมากมายรายรอบ จะไม่มีใครออกมาตักเตือนหรือให้คำแนะนำ

จนชวนให้คล้อยตามประเด็นที่มีคนตั้งข้อสงสัยว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่มี “ใคร” ยังไม่อยากให้มีการเปลี่ยนตัวผู้ว่าการ สตง. เพราะยังไม่เสร็จสิ้นภารกิจเช็กบิล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยครอบครัวและคนใกล้ชิด

หรือจะเพราะว่าในช่วงเกือบ 2 ปี ที่คุณหญิงจารุวรรณมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ทั้งใน สตง. และในบอร์ด ที่มีตัวเองเพียง 1 เดียว ชนิดที่เรียกว่าตั้งเอง ชงเอง ตรวจสอบเองเสร็จสรรพ จะมีงานที่คั่งค้าง และดำเนินการให้เรียบร้อย มิดชิดเสียก่อนอย่างนั้นหรือไม่

เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ ความพิลึกพิลั่นขององค์กรอิสระที่เกิดขึ้นในยุคเผด็จการยึดอำนาจไม่ว่าจะเป็น ที่มาของ ป.ป.ช. กกต. ย้อนไป คตส. รวมถึงล่าสุดที่ สตง. จึงอดที่จะถูกมองเป็นเรื่องราวหนึ่งเดียวกัน และมองลึกไปถึงความเชื่อมโยงเป็นขบวนการไม่ได้

นอกจากนี้วิธีคิดที่เอาแต่ “ตัวกูและพวกพ้อง” เป็นที่ตั้งก็ยังมีให้เห็น

เรื่องราวของวิธีคิด 2 มาตรฐาน ยังคงมีอยู่ ไม่เว้นแม้แต่กับคน หรือกลุ่มคนที่พยายามแสดงภาพความเป็นเจ้าหลักการ หรือพยายามบอกเล่าว่าตัวเองเป็นคนดี มีคุณธรรมสูงส่ง

เหมือนอย่างกรณีของ คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา อย่างน้อยเราก็ได้รู้ว่าตัวคุณหญิงเอง ที่เคยเที่ยวไล่คนโน้นคนนี้ที่มีข้อกังขาในการปฏิบัติหน้าที่ ให้หยุดการทำงานเอาไว้ชั่วคราว เมื่อถึงทีตัวเองกลับทำเป็นทองไม่รู้ร้อน

ทั้งที่ตัวเองอยู่ในกระบวนการตรวจสอบชาวบ้าน การทำให้ผู้คนกังขาอาจส่งผลให้เกิดข้อโต้แย้งในการทำหน้าที่ได้ในวันข้างหน้า

ที่สำคัญยังอยู่ในฐานะที่จะต้องทำตัวเป็นบรรทัดฐาน ให้ข้าราชการได้เอาเป็นตัวอย่าง

หรือแม้แต่กลุ่มคนที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลไม่เว้นแต่ละวัน แต่เมื่อถึงคราวพรรคพวกก็กลับทำปิดปากเงียบ

ในขณะที่เรื่องเล็กเรื่องน้อยทุกเรื่องที่รัฐบาลคิดอ่าน ล้วนถูกจับผิดทั้งหมด แต่ถ้าเป็นเรื่องของคนคุ้นเคย แม้จะมีลายลักษณ์อักษรเขียนไว้ชัดเจนในรัฐธรรมนูญก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น

เหมือนอย่างประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ที่มีหน้าที่ในการดำเนินการสรรหา ผู้ว่าการ สตง. ก็ออกมาพูดเหมือนเรื่องการปล่อยปละละเลยให้เรื่องดังกล่าวเลยเวลามาเนิ่นนานเป็นเรื่องเล็กน้อย

ทำเหมือนการละเลยไม่กระทำตามเงื่อนไขรัฐธรรมนูญ เหมือนกับการลืมแปรงฟันก่อนนอน

และยังมีหน้าพูดได้หน้าตาเฉยว่าไม่ใช่เรื่องที่มีความผิด อย่างมากก็แค่โดนตำหนินิดหน่อย เรียกว่าไม่ได้รู้สึกสะดุ้งสะเทือนเลยกับความบกพร่องผิดพลาดของตัวเอง

แถมข้ออ้างที่ว่าติดขัดเพราะยังไม่มีกฎหมายลูก นักกฎหมายหลายคนก็ออกมาตอกกลับไปเป็นที่เรียบร้อยว่าไม่จำเป็น และยังสามารถใช้กฎหมายฉบับลูกเดิมไปก่อนได้

เพราะฉะนั้นเหตุผลในเรื่องนี้เป็นอย่างไร นายประสพสุข รู้ดีอยู่แก่ใจ

รวมไปถึงเรื่องราวที่ส่อเค้าว่าจะกลายเป็นเรื่อง 2 มาตรฐาน ที่พรรคประชาธิปัตย์ โดย พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เคยซักฟอก สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ยุติธรรม บกพร่องต่อหน้าที่ ที่สรรหากรรมการ ปปท. ล่าช้าไป 5 วัน ก่อนหน้านี้

เพราะถึงวันนี้ที่การสรรหาผู้ว่าการ สตง. ล่วงเลยเวลามานับเดือน พีระพันธุ์ปฏิเสธไม่ขอพูด เช่นเดียวกับคนพูดเก่งในพรรคประชาธิปัตย์คนอื่นๆ ที่ต่างปฏิเสธ เป็นเสียงเดียวกัน อย่างเช่นสาทิตย์ วงศ์หนองเตย

หรือเมื่อถาม อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็โบ้ยให้ไปถาม อลงกรณ์ พลบุตร ที่สุดท้ายก็ได้คำตอบแค่ว่าไม่มีข้อมูล

อย่างนี้ไม่รู้จะให้สรุปว่าคนพรรคการเมืองนี้เก่งเฉพาะในเรื่องเล่นงานฝ่ายตรงข้ามแต่เพียงอย่างเดียว ส่วนเรื่องอื่นไม่ได้เรื่องอย่างนั้นหรือเปล่า

ท่านผู้อ่านตัดสินเอานะครับ...ขบวนการจ้องทำลาย พวกเอาดีใสตัวเอาชั่วให้คนอื่น และพวก 2 มาตรฐาน คิดเอาตัวเองและพวกพ้องเป็นใหญ่ มีอยู่จริงและเป็นภัยกับบ้านเมือง...!?

บิ๊กโบ้ท