จากกรณีที่เครือข่ายปัญญาชนสยามนำโดยผศ.นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์ประจำคณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ รศ.ดร.พอพันธ์ วัชจิตพันธ์ พร้อมด้วยนิสิตจุฬาลงกรณ์วิทยาลัย 100 คน เข้ายื่นหนังสือขอ ผบ.ทบ. พลเอกอนุพงศ์ เผ่าจินดา ออกมายุติความรุนแรงต่อสถานการณ์ดังกล่าว พร้อมทั้งไฟเขียวให้ทหารปฏิวัตินั้น
เมื่อวันที่ 26 พ.ย. นายคารม พลทะกลาง เลขาธิการชมรมนักกฎหมายเพื่อประชาชน เปิดเผยว่า รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย และตามเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญ ดังนั้น การกระทำการใดๆ ต้องเป็นไปตามกฎระเบียบที่ถูกต้อง
ทหารมีหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาล ซึ่งการดำเนินการของทหารผิดพลาดมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีในช่วงเวลานั้นที่ได้มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และให้ทาง ผบ.ทบ.เขามาดูแลเรื่องดังกล่าว แต่เท่าที่สังเกตกลับเห็นว่าทาง ผบ.ทบ.ไม่ได้ปฏิบัติในภารกิจที่ได้รับมอบหมายเลย ทหารจึงดูเหมือนว่าหมดมนต์ขลังไป
“ถ้าทางรัฐบาลมีความเข้มแข็งมากกว่านี้ น่าจะดำเนินการปลด ผบ.ทบ. ในฐานะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” นายคารมกล่าว
นายคารมกล่าวไปว่า การออกมาเรียกให้ทหารออกมาปฏิวัติ ไม่เป็นไปตามหนทางและวิธีการของระบอบประชาธิปไตย ถ้าทหารออกมาทำการปฏิวัติตามคำเรียกร้องดังกล่าว เชื่อว่าจะต้องมีประชาชนที่ออกมาคัดค้านและไม่เห็นด้วยเป็นจำนวนมาก ส่วนการกระทำของนักวิชาการกลุ่มนี้ถือว่าเป็นกบฏ เพราะถือว่าออกมาเรียกร้องให้กระทำการปฏิวัติโดยไม่เป็นไปตามระบอบกฎหมายในรัฐธรรมนูญ
“การออกมายื่นจดหมายอาจจะตีความตามเจตนารมณ์ตามพฤติกรรมหรือเนื้อความของจดหมายที่ต้องการออกมาเรียกร้องการทำปฏิวัติ ถือว่ากลุ่มนักวิชาการดังกล่าวไม่มีความน่าเชื่อถือ เพราะว่าออกมาเรียกร้องให้สนับสนุนคนทำผิด แทนที่จะออกมาเรียกร้องให้ไปปราบปรามกลุ่มคนดังกล่าว ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยน่าจะตรวจสอบตัวบุคคลดังกล่าว เพราะว่าไปสอนคนอื่นอาจจะนำความรู้ที่ผิดๆ ไปสอนได้”
ส่วนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นของการออกมาป่วนเมืองของกลุ่มพันธมิตรนายคารมกล่าวว่า ตนไม่อาจเดาได้ว่าสถานการณ์ต่อจากนี้ไปจะเป็นอย่างไร แต่เชื่ออย่างหนึ่งว่าประชาชนเริ่มจะไม่เห็นด้วยกับการกระทำของกลุ่มพันธมิตร และรู้สึกเห็นใจรัฐบาลที่มีอำนาจแต่ไม่สามารสั่งการอะไรได้ อยากเห็นรัฐบาลมีความเด็ดขาดใครที่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้รับมอบหมายก็ควรพิจารณาปลดออกให้คนอื่นที่มีความสามารถได้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่แทน ถ้ารัฐบาลยังอยู่นิ่งเฉยไม่จัดการอะไรสักอย่าง ก็จะเป็นอย่างที่นายวีระ มุสิกพงษ์ที่กล่าวในรายการความจริงวันนี้ ว่าถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ว ประชาชนก็จะไม่เอารัฐบาลเหมือนกัน
“หากเรามองย้อนไปก่อนหน้านี้ มักมีคนบอกว่าที่บ้านเมืองเป็นแบบนี้เพราะอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สิ่งที่เกิดขึ้นจากตัวท่านอาจจะมีส่วนทำให้บ้านเมืองเสียหาย 10 % แต่ภายหลังจากเหตุการณ์ของวันที่ 19 กันยายน 2549 เป็นต้นมาจนถึงวันนี้บ้านเมืองไม่รู้ว่าเสียหายไปมากเท่าไร ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม เสียหายกว่ากันมากไม่รู้เท่าไร”
นายคารมกล่าวต่ออีกว่า ทางพันธมิตรอย่าคิดว่าประชาชนโง่ ไม่มีความคิด คิดว่าจะเป่าหูอย่างไรก็เชื่อ ตอนนี้โลกมันเปลี่ยนไปแล้วไม่ใช้ว่าเขาจะรับข่าวสารเพียงด้านเดียว เขารับข่าวสารจากด้านอื่นด้วย
“ผมเชื่อว่าการออกมาเรียกร้องหรือกระทำการใดๆ ก็ตามเพื่อต้องการให้ทหารออกมาทำการปฏิวัติจะไม่เป็นผล เพราะผมยังเชื่อว่าทหารไม่กล้าออกมากระทำการดังกล่าว หรืออยู่ในช่วงของการตัดสินใจว่าจะอย่างไรดี ไม่ว่าทหารจะอ้างว่ามาจากไหนหรือจะปกป้องใครก็แล้วแต่ ประชาชนเขารู้หมดทุกอย่าง เพียงแต่ว่าหากจะกระทำการใดๆ ทหารไม่ปกป้องประชาชนหรือ”
ส่วนประเด็นเรื่องที่ทางนักวิชาการจากจุฬาลงกรณ์ทำจดหมายเปิดผนึกถึง ผู้บัญชาการทหารบกเรียกร้องให้ออกมาทำการปฏิวัติ โดยช่วงบ่าย วันที่ 27 พ.ย. ตนจะมีการศึกษาข้อกฎหมายและร่างหนังสือเพื่อยื่นทำเนินคดีกับนักวิชาการกลุ่มดังกล่าว โดยเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวจะเข้าข่ายเป็นกบฏผิดประมวลกฎหมายอาญาในมาตรา 113 และ 114
ทางด้านนายพิชา วิจิตรศิลป์ ทนายความ กล่าวในทำนองเดียวกันว่า การกระทำของนักวิชาการกลุ่มดังกล่าวที่ออกมาทำหนังสือถึงผู้บัญชาการทหารบก เพื่อให้ทหารออกมาทำการปฏิวัตินั้น เป็นการกระทำที่เข้าข่ายการเป็นกบฏ เพราะว่าบ้านเมืองอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ การกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และข้าข่ายผิดกฎหมายประมวลอาญาในมาตรา 113 ที่ว่า"ผู้ใดใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อ (1) ล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ (2) ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญ หรือให้ใช้อำนาจดังกล่าวแล้วไม่ได้ หรือ (3) แบ่งแยกราชอาณาจักรหรือยึดอำนาจปกครองในส่วนหนึ่งส่วนใดแห่งราชอาณาจักร ผู้นั้นกระทำผิดฐานเป็นกบฎ ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต"
เพื่อไทย
Thursday, November 27, 2008
นักกฎหมายจี้จับอาจารย์จุฬาฯยุทหารปฏิวัติเข้าข่ายเป็นกบฏ
“นักกฎหมาย” ดาหน้าเสนอปลด ผบ.ทบ. ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ จนทำให้สถานการณ์บานปลายมาจนถึงทุกวันนี้ พร้อมทั้งจ่อแจ้งความดำเนินคดี กลุ่มอาจารย์-นักศึกษา จุฬาฯที่ออกมาเรียกร้องทหารปฏิวัติ เข้าข่ายกบฏชัดเจน พร้อมจี้มหาวิทยาลัยพิจารณาความผิดด้วย