คอลัมน์ : ละครชีวิต
โดย ลวดหนาม
ยิ่งนานวัน คนก็เริ่มหมั่นไส้ม็อบพันธมิตรฯ ที่ออกมาประกาศ “สงครามครั้งสุดท้าย” แบบม้วนเดียวจบ นี่ก็ปาไป 3-4 วันแล้ว ยังไม่จบเลย
ป่วนชาติมาเกือบ 3 ปี ประกาศชัยชนะอยู่เรื่อยๆ แต่ประชาชนส่วนใหญ่ก็ “เลือกข้าง” ชัดเจนแล้วว่าอยู่ “ฝ่ายประชาธิปไตย”
ล่าสุดกับปฏิบัติการ “ม้วนเดียวจบ” ที่ดาวกระจายไปปิดล้อมสถานที่ราชการ จนชาวบ้านเดือดร้อนกันเป็นแถวก็เสียรังวัดไปไม่ใช่น้อย
หรือเหตุการณ์พันธมิตรฯ ปะทะ กลุ่มชุมชนคนแท็กซี่ ที่ถนนวิภาวดี ซอย 3 ที่ภาพประจานไปทั่วโลก ว่าพันธมิตรฯ ทำร้ายคนเสื้อแดง
กระทั่งนักวิชาการ อย่าง ดร.สุขุม นวลสกุล นักวิชาการทางรัฐศาสตร์ ยังบอกเลยว่าตอนนี้กระแสตีกลับเพราะภาพของพันธมิตรฯ มันออกมากลายเป็น “ผู้รุกราน”
อย่างการปิดล้อมที่ทำเนียบชั่วคราวที่ดอนเมือง ถือว่าหมิ่นเหม่มากในสายตาของคนทั่วไป โดยเฉพาะ “คนเป็นกลาง” ที่ไม่ได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ก็หันไปเข้าข้างรัฐบาลกันมากขึ้น
แต่นาทีนี้หลายคนเป็นห่วงว่าจะเกิดเหตุการณ์รัฐประหาร เพราะประเมินจากสถานการณ์แล้วดูรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้นจึงต้องเตือนสติ และรำลึกถึงบทเรียน การทำปฏิวัติรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง
ถ้าเราพูดถึงทางออกประเทศไทยขณะนี้ หรือ ชั่วโมงนี้ ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่คงจะพูดถึงด้วยความรู้สึกที่ “หดหู่ใจ”
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในนาทีนี้ ที่บ้านเมืองกำลังถึง “ทางตัน” หลายฝ่ายเรียนร้องให้ทหารออกมาปฏิวัติรัฐประหาร
ในอดีตประเทศไทยเผชิญกับ “การปฏิวัติ” ที่ซ้ำซาก การปฏิวัติเกือบทุกครั้งอยู่ภายใต้วงจรอุบาทว์
หากประเทศไทยไม่สามารถหลุดออกจากกับดักของวงจรอุบาทว์นี้ ประเทศก็จะไม่มี “เสถียรภาพ” เมื่อไม่มีเสถียรภาพ ความเชื่อมั่นก็จะไม่เกิด
เมื่อขาดความเชื่อมั่น โอกาสที่จะนำพาประเทศไทยไปสู่การพัฒนา ก็เป็นไปได้ยากหรือเป็นไปไม่ได้เลย
พวกเราไม่ค่อยใส่ใจอย่างจริงจังในความพยายามที่จะตัดวงจรอุบาทว์นี้ บางคนกลับมองว่าวงจรอุบาทว์นี้เป็นสัจธรรมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของการเมืองไทยด้วยซ้ำไป
นิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ระบุว่า ตลอดช่วงอายุกว่า 60 ปี ผ่านเหตุการณ์การรัฐประหารมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่มีการรัฐประหารครั้งใดที่สร้างความเสียหายให้มากเท่า 19 กันยายน 2549
เพราะเป็นการทำลายกระบวนการสร้างการเรียนรู้ทางประชาธิปไตยของประชาชนทุกอย่างลงอย่างสิ้นเชิง
ดังนั้น วิกฤติการเมืองครั้งนี้จะเป็นแบบทดสอบประชาธิปไตยได้เป็นอย่างดีว่าผู้มีอำนาจจะเลือกการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีใด
หากเลือกการปฏิวัติรัฐประหาร ประเทศไทย คงได้ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์โลกว่าเป็นประเทศที่เผด็จการที่สุด
ดังนั้น ผู้รักประชาธิปไตยต้องช่วยกันรักษาประชาธิปไตย และให้กำลังใจรัฐบาลต่อสู้กับอันธพาลด้วยความอดทน !