เลวทรามไปทั้วทุกหย่อมหญ้า ลิ้วล้อพันธมารฯ ป่วนประชาธิปไตย กระโดดชกหมอเหวง-สันต์ กลางห้องแถลงข่าวสภา ขู่อาฆาตจะกุดหัวแกนนำนปช. อ้างทำพ่อมันตาย!! เผยส.ว.ลากตั้งตัวดีเซ็นปล่อยหมาบ้าเข้ามาก่อวิวาทในที่ราชการ ด้านประธานสมาพันธ์ประชาธิปไตยย้ำประชาชนต้องต้านรัฐประหารแบบสันติ ร้องขอพันธมิตรฯคืนสนามบิน-ทำเนียบคืนโดยเร็ว
ที่รัฐสภา วันนี้ (28 พ.ย.) น.พ.สันต์ หัตถีรัตน์ ประธานสมาพันธ์ประชาธิปไตย นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้เข้ายื่นแถลงการณ์ต่อนายวิทยา บุรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) นายนิสิต สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกิจการสภา ได้ร่วมกันแถลงข่าวโดย น.พ.สันต์ อ่านแถลงการณ์เรียกร้องให้ประชาชนต่อต้านรัฐประหารอย่างสันติวิธี โดยระบุว่าสถานการณ์ปัจจุบันมีสิ่งบอกเหตุหลายประการที่อาจจะเกิดการรัฐประหารยึดอำนาจ ดังนั้นในฐานะประชาชนมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 63 จึงมีสิทธิจะต่อต้านโดยสันติวิธี ซึ่งการกระทำใด ๆที่เป็นไปเพื่อให้ได้มา ซึ่งอำนาจในการปกครอง โดยวิธีการซึ่งไม่ได้เป็นไปตามวิถีทางที่ไม่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
นพ.สันต์ กล่าวว่า ขอฝากไปยังประชาชนว่าหากเกิดการรัฐประหารขอให้ประชาชนต่อต้านโดยสันติวิธีทุกรูปแบบเพื่อยับยั้งไม่ให้ทหารเข้ามายึดอำนาจได้สำเร็จ โดยขอให้ประชาชนำสิ่งของทุกชนิดมาขวางถนนที่เป็นเส้นทางผ่านของรถถัง รถบรรทุกกำลังพลของทหาร หรือรวมตัวกันไปล้อมสถานีโทรทัศน์ทุกแห่ง เพื่อไม่ให้ทหารเข้าไปยึดสถานีทุกแห่งได้สำเร็จ และรวมตัวกันในจังหวัดของตัวเองโดยไม่ใช้อาวุธต้านรัฐประหาร
เช่นเดียวกับนพ.เหวง กล่าวเสริมว่า ประชาชนต้องช่วยกันต่อต้านยึดอำนาจได้สำเร็จไม่ให้กลุ่มบุคคลนี้เข้ามาปกครองประเทศอีก รวมทั้งส.ส.รัฐบาลและฝ่ายค้านต้องช่วยกันทำความเข้าใจกับประชาชนให้ต่อต้านการรัฐประหาร ทั้งนี้ทางสมาพันธ์เชื่อว่าหากมีการต่อต้านเกิดขึ้นจะทำให้การยึดอำนาจไม่สามารถทำได้สำเร็จ และกลุ่มผู้ที่คิดยึดอำนาจจะยอมถอยไม่กล้าทำ
พร้อมกันนี้ตนขอเรียกร้องให้กลุ่มประชาชนที่ไปยึดสนามบิน และทำเนียบรัฐบาลคืนสถานที่ทั้งหมดให้กับประชาชน ไม่ใช่คืนให้กับรัฐบาล และภายหลังจากคืนสถานที่ทั้ง 3 จุดยืน กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยสามารถชุมนุมได้ตามกฎหมายปราศจากอาวุธ ขอเรียกร้องให้เคารพนิติรัฐและนิติธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานระหว่างการแถลงข่าวได้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้น โดยนายเทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา แนวร่วมพันธมิตรฯ จ.เชียงใหม่ ซึ่งมานั่งรออยู่ในห้องแถลงข่าว เพื่อรอยื่นหนังสือต่อนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน วุฒิสภา และนายสมัคร เชาวภานนท์ ส.ว.สรรหา ประธานคณะกรรมาธิการการยุติธรรม และการตำรวจ วุฒิสภา ได้เดินปรี่เข้าไปชี้หน้าด่าและปรี่จะชกหน้า น.พ.เหวงและน.พ.สันต์ พร้อมกับตะโกนด่าทอหลายครั้งว่า “ทีพวกมึงรุมฆ่าพ่อกู มึงยังทำได้ ให้พวกมึงระวังไว้” ขณะที่รปภ.สภาพยายามเข้ามาล็อคตัวนายเทอดศักดิ์ แต่ไม่สำเร็จ
ด้านนายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชน ที่เข้ามายืนดูการแถลงข่าวได้ชี้หน้าต่อว่ากลับอย่ามีอารมณ์ และสั่งให้รปภ.รีบนำตัวออกไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็รีบเข้ามาล็อคเทอดศักดิ์ออกไป เพื่อมาสงบสติอารมณ์ในห้องนักข่าวรัฐสภา โดยมีกลุ่ม 40 ส.ว.อยู่ด้วย ซึ่งการเข้ามายื่นหนังสือภายในรัฐสภาของนายเทอดศักดิ์ มีเป็นผู้รับรองคือนายสมชาย แสวงการนั่นเอง ขณะเดียวกันรปภ.ได้นำตัวนายเทอดศักดิ์ ไปสอบปากคำที่กองรักษาการพร้อมกับแจ้งไปยังสน.ดุสิต เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
อย่างไรก็ตามก่อนที่รปภ.จะนำตัวนายเทอดศักดิ์ไปสอบปากคำนั้นนายเทอดศักดิ์ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับนายสมชาย และนายสมัคร โดยนายเทอดศักดิ์ อ้างว่า ตนไม่ใช่พวกพันธมิตรฯ แต่ตตนเป็นหนึ่งในแกนนำกลุ่มทหารเสือพระราชา ต้องการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ที่ผ่านมาถูกกระทำด้วยความรุนแรง และโดนทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธหลายชนิด 15 ครั้ง จนครั้งสุดท้ายพ่อของตนคือนายเศรษฐา เจียมกิจวัฒนา ถูกรุมทำร้ายด้วยอาวุธมีดจนเสียชีวิตเมื่อคืนวันที่ 25 พ.ย. โดยระหว่างเกิดเหตุกลุ่มเสื้อแดงได้เริ่มชุมนุมโดยมีเจ้าหน้าที่สภ.อ.เมืองเชียงใหม่ รักษาการอยู่ แต่กลับไม่ได้ห้ามปราม จึงขอให้คณะกรรมาธิการฯตรวจสอบเหตุการณ์และพิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการตรวจสอบข้อเท็จจริงอันเป็นปัญหาว่าด้วยการละเมิดสิทธิมนุษยชน การไม่บังคับหรือละเว้นการใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นเหตุให้ตนและกลุ่มหทารเสือพระราชาให้ได้รับความเสียหาย