คอลัมน์ : โต๊ะข่าวประชาทรรศน์
ไม่สิ้นหวัง แล้วล่ะท่านผู้ชม...ต่อไปนี้ ใครที่เคยปรามาส ตราหน้า ว่า “กฎหมายไทย” ไร้ความศักดิ์สิทธิ์... อ่อนปวกเปียกนุ่มและอ่อนยวบ เป็น “ขนมเปียกปูน” ไม่ได้เหมือนเก่า กันอีกแล้ว
บัดนี้ มีผู้ที่ลุกขึ้นมาจุดประกายไฟ เพื่อทำให้ “กฎหมาย” เป็น “กฎหมาย”...ไม่ใช่เป็น “ไม้หลักปักขี้เลน”
ที่ใครจะกระทืบซ้ำ เหยียบย่ำ ตามอำเภอน้ำใจ กันต่อไป ไม่ได้แล้วนะ!!
เพราะการ “ฝ่าฝืนกฎหมาย” ด้วยคนหมู่มาก.. เป็นชนวน “มหาภัย” ทำให้คนไทย ถึงกาล ที่จะทำ“สงครามกลางเมือง” เพื่อล้างเผ่าพันธุ์ให้ “สิ้นสูญ” ...ดับและตาย วอดวาย หายนะ กันไปข้างหนึ่ง เมื่อ, “ท่านพีรพล ไตรทศาวิทย์” ปลัดกระทรวงมหาดไทย ส่งซิก เป่านกหวีด ไปถึงผู้ว่าราชการ ที่อยู่ใต้อาณัติ การคอนโทรล ของกระทรวงมหาดไทย ทุกหัวเมือง ให้ดำเนินการ ใช้กฎหมายอย่างเฉียบขาด ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ อย่างอ้อยอิ่ง เป็นลิงป่วยเชียวนะเออ
ว่าด้วย ในขณะนี้, มีคณะบุคคล ปรักปรำ ใส่ไคล้ ให้ร้ายเผยแพร่ข้อความ และแนวคิด ผ่านสถานีวิทยุชุมชน ระบบอินเตอร์เน็ต รวมทั้งเอกสารแผ่นปลิว อีกทั้ง มีการสร้างกระแสในแง่ลบ จงใจพาดพิง หมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์!!
เป็นความฮึกเหิม อันไม่บังควร..อีกทั้งผิดเต็มเป้า ในข้อหาเกี่ยวกับความมั่นคงภายใน!!
ดังนั้น, เป็นหน้าที่ อันชอบธรรม ที่ “พ่อเมือง” ที่ได้รับการอวยยศ อวยชัย ต้องดำเนินการจับกุม “วิทยุชุมชน” และ “เว็ปไซด์”
นอกรีต นอกรอย นอกเทือกเถาเหล่าก่อ อันเป็นคนไทยที่ดี??
เพราะความเป็นคนไทยนั้น....
มีความจงรักภักดี เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างเปี่ยมล้นเสมอมา
ใคร? ที่บังอาจก้าวล่วงละเมิด เราต้องใช้กฎหมายกำราบ ปราบ อย่างไม่รอช้า
การที่, ท่านปลัดกระทรวงมหาดไทย “คุณพีรพล ไตรทศาวิทย์” มีคำสั่ง ด่วนจี๋ไปรษณีย์จ๋า ให้กวาดล้าง และ เช็คบิล “สถานีวิทยุชุมชน” และ “เวปไซด์” นอกแถว!!
เป็นสิ่งที่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง และ ต้องรวดเร็วยกกำลังสอง อีกเสียด้วย
โดยเฉพาะ, ความผิดเกี่ยวกับ “ความมั่นคงภายใน” เป็นข้อหารุนแรง ร้ายแรงเป็นอันมาก
ดังนั้น, “วิทยุชุมชน” และ “เว็ปไซด์” นอกคอก..น่าเลิกทำตัวเป็น “หัวหอก”นอกรีตเสียที
ขณะเดียวกัน, อยากเห็น “ท่านปลัดพีรพล ไตรทศาวิทย์” ข้าราชราชการเบอร์หนึ่ง เกณฑ์หนึ่ง แห่งกระทรวงคลองหลอด....
ช่วยชะเง้อแล แชร์สายตา มองดู พฤติการณ์ สถานีโทรทัศน์ “เอเอสทีวี”กระบอกเสียง กลุ่มพันธมิตรฯ ที่ทำตัวเป็นอันธพาล ยึดทำเนียบ มายาวนาน กว่า ๑๖๐ วันเข้าไปแล้ว
เขาแพร่ภาพ กระจายเสียง... รับใช้คนบางคน ที่สรรหาคำพูด “สุดถ่อย” มาประดิดประดอยได้ทุกวัน??
และแต่ละถ้อยคำ ล้วนโกหกหน้าตาย ฉีกประเทศไทย แบ่งเป็นฝั่งฝ่าย ริ้วปลาแห้งเลยล่ะ
จนบัดนี้ “สยามเมืองยิ้ม” ที่อิ่มและพิมพ์ใจ ได้กลายเป็น “ไทยเหนือ”และ “ไทยใต้”?
พร้อมที่จะลุกมา “ฆ่าฟัน” กันเองได้ทุกเมื่อ!!
ที่เป็นเช่นนั้น สถานีโทรทัศน์ “เอเอสทีวี” เป็นต้นกำเนิด...ให้คนไทยเกิดการแบ่งขั้ว กันซะเสร็จสรรพ
ด้วยการกระทำ อันโจ่งแจ้ง ทั้งยุ ทั้งเสี้ยม ทั้งจูงจมูก ขาดไร้ซึ่งเหตุและผล บนสมุฏฐานแห่งความเป็นจริง
ฉะนั้น, เพื่อดับต้นเหตุแห่งชนวน, กระทรวงมหาดไทย อย่าได้มองข้าม เลยช็อต ต่อการกระทำ ของ “เอเอสทีวี” ที่ได้สร้างมลพิษ แห่งการเลือกข้าง แบ่งฝ่าย กันเชียวนะ??
เพราะถ้า “เอเอสทีวี”ไม่ ได้ก่อหวอด...สร้างจุดบอด ให้คนไทย “ขาดความสามัคคี” กันแล้วไซร้??
“ไทยต่อไทย” จะมีกินเลือด กินเนื้อ หาวิมานกันทำไม!!
ตรงนี้, น่าเป็นหน้าที่ ของ “กระทรวงมหาดไทย” เพื่อแจงจารนัย ไปถึง “ศาลปกครอง” ที่คุ้มครอง “เอเอสทีวี” มาหลายปีดีดัก
ควรเลิกคุ้มครอง เป็นไข่ในหินได้แล้ว
นั่น, ขึ้นอยู่ว่า “กระทรวงมหาดไทย” จะรวบรวม “ความเป็นจริงวันนี้” ไปชี้ให้ “ศาลปกครอง” เห็นข้อเท็จจริง ได้มากน้อยเพียงใด
สุดท้ายนี้, เมื่อวิเคราะห์เจาะประเด็นกันดูแล้ว “สถานีวิทยุชมชุม” และ “เวปไซด์” ที่กล่าวและพาดพิงสถาบันฯ ...คนไทยที่ล้วนแล้วมีจิตใจ ที่ “จงรัก-ภักดี” ไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้อง
ขณะเดียวกัน สถานีโทรทัศน์ “เอเอสทีวี”ที่ดูประหนึ่ง เป็นบ่อน้ำทิพย์ ในการหยิบ ข้อเท็จจริงด้านเดียว ให้หมู่มวลสมาชิกสาวกพันธมิตรฟัง
ก็มีความร้ายกาจ ต้องกำจัดจุดนี้ไปเหมือนกัน??
เพราะการถ่ายทอด และ แพร่ภาพ ด้วยการให้ความจริงครึ่งเดียว “เป็นยาพิษ”กลาย..กลาย
ฉะนั้น, ต้องหามาตรการ สั่งปิด “เอเอสทีวี”..ควบคู่กับ “วิทยุชุมชน”และ “เวปไซด์”
ปิด “เอเอสทีวี” เมื่อไหร่...ประเทศไทยก็ผ่องแผ้ว!!
“ความสามัคคี” จะกลับมาแจ่มแจ๋ว...เลยล่ะจะบอกให้???
โดย “กะพรุนไฟ”