ที่มา thaifreenews
โดย ป้าพลอย
เมื่อวานนี้ป้าและลุงเดินทางไปเมืองที่ลุงเกิดเมืองนี้ตั้งอยู่ในหุบเขาล้อมรอบด้วยภูเขา ซึ้งเป็นที่เลื่องลือของผู้
คนในยุโรปเพราะเป็นเมืองประวัติศาสตร์ เมื่อวานนี้เพื่อนฝรั่งสองสามีภรรยาที่เราเพิ่งรู้จักกันที่เมืองไทยคราวนี้ตอนไปเที่ยวเกาะช้างและพักอยู่โรงแรมเดียวกัน รู้จักกันที่ชายหาดหน้าโรงแรมนั่นแหละ เนื่องจากเราต่างมานอนตากแดดตากลมใกล้กัน และใช้ภาษาต่างประเทศพูดภาษาเดียวกันก็เลยคุยกันรู้เรื่อง สองสามีภรรยาคู่นี้มาเที่ยวประเทศไทยหลายครั้งแล้ว เคยไปเที่ยวยัง เกาะสมุย ภูเก็ต กระบี่ เกาะพีพี แต่มาติดใจชอบเกาะช้าง
เพราะมีธรรมชาติมีภูเขาและสงบเงียบเนื่องจากยังไม่มีทัวร์ริสมากนักและยังไม่มีสิ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยว
ลำคาญคือมีจำพวกบาร์เบียรที่เปิดเพลงหนวกหูชาวบ้าน สองสามีภรรยานี้ชอบท่องเที่ยวในเอเซียเมื่อคราวนี้ก่อนที่เขาจะมาเกาะช้าง เขาเข้าไปเที่ยวยังกัมพูชาไปที่นครวัตร และกรุงพนมเปนฯรวมทั้งไปสุสานกระดูกและหัวกระโหลกของชาวเขมรที่ถูกเขมรแดงฆ่าตายเอามาใว้ที่พิพิธภัณฑ์ให้ชาวโลกได้ดูถึงความอำมหิตผิดมนุษย์ประจานให้ชาวโลกได้เห็นว่าคนเขมรชาติเดียวกันแท้ๆยังฆ่าคนของตนเองได้อย่างป่าเถื่อนขนาดนี้ เขาเล่าให้ฟังว่าบางหัวกระโหลกถูกตีจนกระโหลกแตกร้าวซึ่งเห็นแล้วเศร้าใจ เมื่อวานนี้เรามาพบกันอีกครั้งโดยป้าและลุงเป็นเจ้ามือเลี้ยงอาหารกลางวันที่ร้านอาหารเมืองบ้านเกิดของลุงนั่นละ แล้วเราก็คุยกัน
หลายเรื่องสุดท้ายก็ไม่พ้นเมืองไทยเพราะสองสามีคู่นี้กลับก่อนสงการนต์เลือด ลุงก็ได้เล่าเรื่องราวความเป็นจริงให้เขาฟังตามที่ลุงได้รู้ได้เห็นในประเทศไทย เขาก็ได้แต่สั่นศรีษะไปมาและบอกว่าหวังว่าในเมืองไทยคงไม่ทำเรียนแบบในกัมพูชาที่ฆ่าล้างโครตกันเองเช่นเขมรแดงพอลพตได้กระทำอย่างป่าเถื่อน ป้าเลยบอกเขาว่าก็ไม่แน่เพราะตอนวันมหาสงการนต์ของไทยรัฐบาลก็ยังใช้ปืนเอ็ม 16 กราดยิงผู้คนบนถนนแล้วจะการันตีว่าจะไม่ทำเยี่ยงเขมรแดงพอลพตใครจะเชื่อ ทุกวันนี้พฤติการณ์ส่อเข้าไปทุกขณะในทำนองระบบเขมรแดงที่ฆ่าคนที่ฉลาดๆฆ่าคนที่มีความรู้ความสามารถให้หมดไล่จับทุกคนที่เป็นปรปักษ์ ให้เหลือใว้แค่คนโง่ๆที่สามารถปั่นหัวให้เข้าเป็นสาวกได้เท่านั้น ป้าได้อธิบายอีกหลายๆเรื่องให้เขาได้รับรู้แต่เชื่อมั๊ยว่าเขาก็รู้เท่าๆ
กับป้าและลุงรู้ ตอนท้ายเพิ่งมาทราบว่าเขาเป็นตำรวจ5555 ตอนที่รู้จักกันที่เกาะช้างทราบเพียงว่ามีอาชีพรับราชการแต่ไม่ได้ถามซักไร้ว่ารับราชการในตำแหน่งอะไรเพราะตามมารยาทคนต่างประเทศจะไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวต่อกัน เมื่อวานนี้เขาก็ได้แสดงตัวอย่างชัดเจนว่าเป็นตำรวจ FBI โดยส่วนใหญ่ตำรวจที่ทำหน้าที่นี้จะทราบเรื่องต่างๆได้อย่างละเอียด มารู้จักตำรวจอีกคนที่มีตำแหน่งสูงอีกด้วยแล้วก็เดินทางไปต่างประเทศด้อมๆมองๆทั้งประเทศไทยประเทศเขมรและเมื่อวานบอกว่าปีหน้าจะเดินทางเข้าเขมรและมาเลย์เซียจากนั้นไปสิงค์โปรแล้วบินกลับ แต่ป้าไม่กล้าถามว่าไปทำธุระอะไร คราวหน้าเจอจะถามเรื่องแก็สน้ำตาว่าทำให้คนตายได้ป่าว? เพราะตำรวจธรรมดาที่เป็นเพื่อนคอไวน์บอกเป็นไปไม่ได้ทีนี้จะถามตำรวจ FBI บ้างว่าแก็สน้ำตาที่เมื่อปีที่แล้วตำรวจยิงใส่สลายม๊อบเสื้อเหลืองถึงตายว่าอนุภาพของมันร้ายแรงขนาดนั้นเชียวหรือ?
ที่ขนาดแขนขาด เท้าขาด สีข้างเวอะวะตายอย่างน้องโบว์ได้ แต่เอแล้วทำไมเมื่อวันสงการนต์เลือดก็ใช้แก็สน้ำตายิงใส่ม๊อบเสื้อแดงไม่เห็นมีใครขาขาด มือขาดรุ่งริ่ง สีข้างเวอะวะให้เห็นสักคน? หรือว่าแก็สน้ำตาคนละยี่ห้อ? แต่ป้าว่าคนเสื้อแดงไม่ได้สะพายย่ามเหมือนม๊อบเสื้อเหลืองเห็นมีลูกกลมๆอยู่ในกระเป๋าทุกคน แก็สน้ำตาที่ยิงใส่คนเสื้อแดงจึงระเบิดแค่มีควันออกมา ไม่เหมือนแก็สน้ำตาที่ยิงเสื้อเหลืองมันระเบิดเฉือนเนื้อคนให้มือขาดเท้าขาดได้ก็ตลกดีกับเหตุการณ์คล้ายกันแต่ผิดกันที่ม๊อบเสื้อแดงไม่มีใครขาขาดมือขาดทั้งที่ใช้แก็สน้ำตาเช่นเดียวกัน ฉะนั้นเรื่องราวในเมืองไทยใครได้ฟังทุกๆคนในต่างประเทศได้แต่สั่นศรีษะ ที่เขาศรีษะก็เพราะคนไทยเราสร้างสถานการณ์ใส่ร้ายอีกฝ่ายหนึ่งได้อย่างแยบยลและเก่งมากๆไม่มีใครเทียบความคิดของคนไทยที่ชอบเอาความดีใส่ตัวเอาความชั่วโยนใส่คนอื่น วันนี้เรื่องเล่าก็มีแค่นี้แหละจ๊ะ