WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, June 1, 2009

Silence of the Lamp: คำตอบที่ผมได้จากนายกสมาคมนักข่าวฯ กรณีเสถียร จันทิมาธร

ที่มา ประชาไท

เมื่อวันที่28 .. ผู้เขียนได้รับเชิญไปร่วมเสวนาเรื่องสื่อและประชาธิปไตยในวิกฤต: บทบาทและความรับผิดชอบของสื่อซึ่งที่นั้นผู้อภิปรายชาวเยอรมันชื่อดร.วูลฟ์เกง ชูลส์ผู้ เชี่ยวชาญทางด้านสื่อจากมหาวิทยาลัยฮัมบวร์ก ได้พูดถึงกรณีเหตุการณ์ในเยอรมันว่าเมื่อไม่นานมานี้มีบรรณาธิการของสถานี โทรทัศน์เยอรมันช่องหนึ่งได้ถูกกดดันให้ออกเพราะจุดยืนทางการเมืองซ้ายจัดแต่ในที่สุดก็รอดเพราะมีการรณรงค์เพื่อปกป้องเขาซึ่งในที่นี้รวมถึงบรรณาธิการและนักข่าวที่มีจุดยืนขวาจัดเข้าร่วมรณรงค์ด้วยซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความตระหนักเรื่องสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกโดยคนที่มีความเห็นทางการเมืองแตกต่างกันแต่ก็ยังยอมรับว่าสิทธิในการแสดงออกเป็นเรื่องสำคัญและจำต้องปกป้องสิทธิของผู้ที่เห็นต่างจากตนเองด้วย
ได้ยินเช่นนี้ผู้เขียนจึงนึกถึงกรณีข่าวจากเว็บไซต์เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ว่าด้วยการปลดนายเสถียรจันทิมาธรออกจากตำแหน่งเพียงเพราะมีจุดยืนทางการเมืองสนับสนุนฝ่ายแดงพอตอนท้ายรายการ ผู้เขียนจึงถือโอกาสถามนายประสงค์เลิศรัตนวิสุทธิ์บรรณาธิการจากเครือมติชนและนายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมอภิปรายว่านายประสงค์คิดอย่างไรกับกรณีข่าวปลดนายเสถียรเมื่อเทียบกับกรณีเยอรมันที่ได้ฟังมา
นายประสงค์ได้ตอบผู้เขียนว่าข่าวนั้นไม่จริงจึงไม่จำเป็นต้องตอบอะไร แถมนายประสงค์ตั้งข้อกังขาถึงเจตนาของผู้เขียนว่าทำไมถึงถามเช่นนั้นและพูดต่อไปว่าแล้วคุณเชื่อผู้จัดการหรือผู้เขียนไม่ได้ตอบแต่ได้ถามย้อนกลับไปว่าหากเป็นเช่นนั้นทำไมมติชนจึงไม่มีการแก้ข่าวหรือชี้แจงต่อสาธารณะ
ไม่ต้องแก้ข่าวคือคำตอบของนายประสงค์ซึ่งท่าทางไม่พอใจต่อผู้เขียนพอสมควรและยกตัวอย่างอีกว่าหลายฉบับ รวมทั้งหนังสือพิมพ์อย่างคมชัดลึกก็เขียนคอลัมน์ให้ข้อมูลอย่างผิดๆแต่ก็ไม่เห็นมีใครแก้ข่าวและบอกว่าให้ประชาชนตัดสินว่าใครน่าเชื่อถือกันเอง
(นายกสมาคมนักข่าวฯดูไม่แฮปปี้กับคำถามทั้งๆที่เมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้เขาพูดเองในช่วงอภิปรายว่าสื่อควรได้รับการตรวจสอบจากกลุ่มอื่นๆอย่างเช่นกลุ่มมีเดียมอนิเตอร์มากขึ้นและสื่อควรรับฟังเผยแพร่ผลของการตรวจสอบ ... มันจึงทำให้ผู้เขียนรู้สึกว่านี่เป็นตลกร้าย)
ผู้เขียนพยายามจะถกต่อแต่ก็ถูกตัดบทโดยผู้ดำเนินการอภิปรายและด้วยความเคารพต่อผู้ดำเนินการอภิปรายก็จึงหยุดแต่ก็อดคิดต่อไปไม่ได้และถ้าหากพูดต่อไปได้ก็คงจะพูดว่าคุณเป็นนายกสมาคมนักข่าวฯแต่กลับรู้สึกว่าเวลามีการให้ข้อมูลผิดกลับไม่ต้องแก้ข่าวและถ้าการไม่แก้ข่าวเป็นเรื่องปกตินั้นผมก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรเพราะสังคมจะไปหวังเรื่องความโปร่งใสและการตรวจสอบและความน่าเชื่อถือของข้อมูลได้อย่างไรในเมื่อสื่อเองไม่ให้ความสำคัญกับความผิดพลาดของข้อมูลซึ่งผู้เขียนเช็คทางอื่นก็ยังคงมีการยืนยันว่ามีการจัดการกับฝ่ายซึ่งสนับสนุนหรือเห็นใจเสื้อแดงในเครือมติชน
แทนที่จะบอกว่ามาตรฐานต่ำๆของสื่อที่ไม่ยอมแก้ข้อมูลหรือชี้แจงนั้นควรเปลี่ยนและปรับปรุงได้แล้วแต่นายกสมาคมนักข่าวฯกลับอ้างว่าในเมื่อสื่อหลายฉบับก็ปฏิบัติเช่นนี้โดยไม่ยอมชี้แจงหรือแก้ข้อมูลจึงเป็นเรื่องที่ยอมรับได้และถ้าเกิดข้อมูลเอเอสทีวีผู้จัดการผิดจริงทำไมสมาคมฯไม่ออกมาตรวจสอบและวิจารณ์
และอีกประการหนึ่งคุณประสงค์ไม่คิดเหรอว่าคนเสื้อเหลืองจำนวนมากย่อมเชื่อข้อมูลของเอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์อย่างมิต้องสงสัยนี่ยังไม่รวมถึงคนเสื้อแดงอีกไม่รู้กี่แสนที่ทราบข่าวนี้แล้วคงรู้สึกสะเทือนใจและโกรธแค้นและถ้าคุณประสงค์คิดว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ต้องชี้แจงหรือแก้ไขผมว่าก็คงปฏิเสธได้ยากว่าสื่อกระแสหลักอย่างมติชนและความคิดอย่างนี้ในกลุ่มผู้นำสมาคมนักข่าวฯก็เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาความยุ่งเหยิงขัดแย้งทางการเมืองที่มีอยู่ในปัจจุบัน
และอีกอย่างการที่คุณประสงค์พูดว่าแล้วคุณเชื่อผู้จัดการหรือเป็นการพูดเหมารวมที่น่าสะเทือนใจมากเสมือนว่านักข่าวและบรรดาบรรณาธิการในเึครือผู้จัดการทั้งหมดเสนอแต่สิ่งที่เป็นเท็จถ้าผู้เขียนเข้าใจไม่ผิดผู้จัดการก็เป็นสมาชิกสมาคมนักข่าวฯด้วยมิใช่หรือการพูดเช่นนี้รู้สึกจะหยาบเหมารวมและไม่ให้เกียรติเป็นอย่างยิ่ง
00000
ป.ล.1 และมันก็น่าเสียดายที่คุณประสงค์คิดได้แต่เรื่องว่าใครที่ถามคำถามเช่นนี้มีเจตนาแอบแฝงหรือไม่เพราะในโลกที่คนคิดเช่นนี้ย่อมหนีไม่พ้นการที่จะมีคนตั้งคำถามว่า แล้วการที่คุณประสงค์ไปเป็นนายกสมาคมนักข่าวฯนั้นมีเจตนาอะไรแอบแฝงหรือไม่ หรืออาจสรุปไปว่าคุณประสงค์ตอบเช่นนี้มีเจตนาปกปิดอะไรหรือเปล่า
ผู้เขียนก็แค่เป็นห่วงมติชนและสื่อมวลชนโดยรวมเท่านั้นแหละแต่คำตอบที่ได้รับจากคุณประสงค์ก็ยิ่งทำให้ผู้เขียนกังวลยิ่งขึ้น เพราะ บรรดาสื่อที่เรียกร้องความโปร่งใส เรียกร้องให้มีการตรวจสอบองค์กรและกลุ่มคนต่างๆ ในสังคมกลับดูเหมือนจะทำตัวเป็นข้อยกเว้นเสียเอง
ถ้าคิดเช่นนี้ก็มิจำเป็นต้องมีข่าวสืบสวนสอบสวน มิจำเป็นต้องมีการตรวจสอบองค์กรสถาบันอื่นๆ แบบสื่อ เพราะใครจะเชื่ออะไรก็เชื่อไป
ป.ล.2 หลัง จากเหตุการณ์ซักถามคุณประสงค์ได้จบลง ผู้เขียนก็ได้พยายามถามนักข่าวที่เชื่อถือได้ว่าความจริงเรื่องคุณเสถียร เป็นอย่างไรกันแน่ นักข่าวบางกอกโพสต์ระดับแนวหน้าผู้เคยได้รับรางวัลระดับนานาชาติผู้หนึ่งบอก ผู้เขียนว่า ก็จริงอย่างที่เป็นข่าวน่ะแหละ เพราะตัวเธอนั้นมีเพื่อนอยู่ที่มติชนและก็คอนเฟิร์มเรื่องนี้ ส่วนนักข่าวรุ่นพี่อีกคนที่สอบถามไป ถึงขนาดกล่าวหาว่า นายประสงค์์ “ตอแหล” ต่อหน้าสื่อหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุจำนวนมากในวันนั้น
ผู้เขียนแทบไม่อยากเชื่อว่าคนที่เป็นนายกสมาคมนักข่าวฯ จะสามารถโกหกซึ่งๆ หน้าต่อหน้าผู้คนจำนวนมากได้อย่างหน้าตาเฉย
ใน ขณะเดียวกันผู้เขียนก็คิดว่า คงถึงเวลาแล้วที่คนอย่างคุณเสถียร จันทิมาธร ผู้ถูกพาดพิงจะออกมาชี้แจง แน่นอนผู้เขียนตระหนักดีว่าเคยมีคนบอกผู้เขียนว่าที่มติชนเขาอยู่กันอย่าง “พี่น้ิอง” ซึ่งหมายถึงวัฒนธรรมระบบอุปถัมภ์ที่ฝังรากลึก จึงไม่แน่ใจว่า จะรู้ความจริงเรื่องนี้อย่างแท้จริงได้อย่างไร
แล้ว อีกอย่างสังคมไทยมักชอบพูดอย่าง แต่ทำอีกอย่าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติในหลายวงการ ผู้เขียนจึงไม่แน่ใจว่าใครโกหกกันแน่ระหว่างข่าวผู้จัดการหรือนายประสงค์
…………………………………
ข่าวที่เกี่ยวข้อง