ที่มา ข่าวสด
คอลัมน์ เหล็กใน
โล่งใจไปอย่างน้อยก็ชั่วคราว หลังครม.แตะเบรกโครงการเช่ารถเมล์ 4,000 คัน พร้อมโยนเผือกร้อนไปให้สภาพัฒน์ ทบทวนและเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียระหว่างการเช่าและการซื้อ
ครม.ให้เวลา 1 เดือนพิจารณาก่อนกลับมารายงานผลให้ทราบ
ไม่ต่างจากเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่
แต่ก็เป็นการดีที่อย่างน้อยนำไปทบทวนอีกรอบ ยืดเวลาความวุ่นวายออกไประยะหนึ่ง
นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ยังเสียงแข็งว่าการเช่านั้นเหมาะสมกว่าการซื้อ
ไม่เถียง คงไม่มีใครเถียงประเด็นนี้
เพราะที่ผ่านมาขสมก. ประสบผลขาดทุนอย่างย่อยยับ ส่วนหนึ่งเพราะปัญหาการบริหารงาน และอีกส่วนคือการรั่วไหล!!
ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน อะไหล่ซ่อมแซม ฯลฯ
การเช่าอย่างน้อยก็สามารถป้องกันปัญหาตรงนี้ได้ระดับหนึ่ง
แต่ที่สังคมประสานเสียงรับไม่ได้อย่างพร้อมเพรียงกัน
คือราคาค่าเช่าที่แพงมหาศาลต่างหาก
ที่ไม่น่าเชื่อก็คือโครงการนี้แต่เดิมเข้าใจว่านักการเมืองอยากผลักดันเพื่อผลบางอย่าง กระทั่งเมื่อมติครม.ออกมา ปรากฏว่าฝ่ายขสมก.เองก็แสดงอาการเช่นกัน!?
เห็นได้จากอาการฟึดฟัดของนายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานคณะกรรมการ ขสมก.
นายปิยะพันธ์ แสดงท่าทางเหมือนเป็น"คอหอย-ลูกกระเดือก"กับนายโสภณ
ให้สัมภาษณ์ที่ไหน พูดไปพูดมาก็จะให้เช่ารถในราคาแพงมหาโหดเหมือนทั่นเสนาบดีนั่นเอง
แต่เมื่อถูกไล่ถามจี้หนักๆ ถึงราคาที่มากเกินไปหรือไม่ ก็อ้างว่าเป็นราคากลางที่ตั้งเอาไว้
อาจจะต่ำกว่านี้ก็ได้!?
โดยหลักการนั้นใช่ แต่ข้อเท็จจริงก็คือที่ผ่านมาไม่มีโครงการไหนของภาครัฐประมูลต่ำกว่าราคากลาง
ยิ่งมีตัวอย่างจากรถร่วมขสมก.แบบปรับอากาศ ซึ่งใช้รถสเป๊กใกล้เคียงกับที่ขสมก.ต้องการเช่า สามารถเช่าในราคาวันละ 2,500 บาทเท่านั้น โดยรวมค่าใช้จ่ายทุกอย่างแล้ว
แถมเป็นการเช่าในปริมาณน้อยไม่ได้มากมายเหมือนที่ขสมก.ต้องการเสียด้วย
ถ้าเอกชนสามารถเช่ารถในราคาวันละ 2,500 บาท
ขสมก. ที่ต้องการเช่ารถถึง 4,000 คัน ต้องได้ในราคาต่ำกว่านี้แน่ๆ
ถึงจะอ้างว่าเป็นแค่ราคากลาง แต่ในข้อเท็จจริงเป็นอย่างนั้นหรือไม่ทุกฝ่ายรู้อยู่แก่ใจดี!?
ถ้าเป็นราคากลางจริงๆ อย่างที่อ้าง คงต้องถามคนที่คิดราคานี้ออกมาว่าเอกชนเช่ารถแค่ 2,500 บาท/วัน
แต่ทำไมถึงตั้งราคากลางเช่ารถสเป๊กใกล้เคียงกันถึง 4 พันกว่าบาท/วัน แบบนี้
โง่จริงๆ หรือแกล้งโง่กันแน่!?