ที่มา บางกอกทูเดย์
พูดตามภาษามวย รถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คันหรือ “รถเมล์สายพันธุ์ใหม่ 2009” ยังไม่แพ้น็อกเป็นเพียงถูกนับ 8 สองครั้ง เหลืออีกครั้งเดียวก็คงถูกจับแพ้ตามกติกาปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นใน ครม. เมื่อวันพุธที่ผ่านมาชี้ให้เห็นว่าปัจจุบันนี้ของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั้นเขากลายสภาพมาเป็น “หมูที่ไม่กลัวน้ำร้อนแล้ว”??จึงทำให้รถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน เกิด “ยางแตก”พร้อมกันในทำเนียบรัฐบาล ทำให้ โสภณ ซารัมย์และใครบางคนเกิดอาการ “เครียดหนัก” “อย่างนี้. . . มัน
แข็งเมืองกันแล้วนี่หว่า ”(เสียงคล้ายเสียงพี่เน?)แม้ว่า...ชั้นเชิงระดับประชาธิปัตย์ จะจัดในระดับ“จับก็ไม่ได้ ไล่ก็ไม่ทัน” แต่ฝ่ายพรรคภูมิใจไทยตั้งแต่หัวหน้าหน้าใหญ่ลงมาถึงสมุนปลายแถว ก็พออ่านเกมออกแล้วว่าการส่งรถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน ไป “จอดป้าย”สภาพัฒน์อีก 1 เดือน เพื่อศึกษาข้อดีข้อด้อยให้
ละเอียดกว่านี้คือการประกาศเปิดศึกกับ “ภูมิใจไทย”แน่นอน!! แกนนำพรรคภูมิใจไทยต่างฮึดฮัดไม่พอใจกันถ้วนหน้า!!
แต่...ปัญหามีว่า เมื่อไม่พอใจแล้วจะทำอะไรเขาได้??เพราะในประดามนุษย์เขี้ยวตันทั้งหลาย ประชาธิปัตย์ติดอันดับ “ท็อปทรี” อยู่แล้วงานนี้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พัฒนาฝีมือและชั้นเชิงตัวเองขึ้นได้อย่างแปลกตา??รัฐมนตรีที่คัดค้านหนักกว่าคนอื่น คือ อลงกรณ์พลบุตร รมช.พาณิชย์ แย้งสุดตัว...ยืนยัน!! กระทรวงคมนาคมไม่ควรเช่า แต่ควรซื้อเครื่องยนต์เอ็นจีวีรุ่นใหม่มาใส่แทนรถเก่าที่ ขสมก.มีอยู่ 2,000 คัน เฉลี่ยต้นทุนคันละ 500,000 บาทเท่านั้น ซึ่งสามารถลดค่าใช้จ่ายลงได้มากกว่าเช่ารถแต่ที่น่าแปลกใจที่สุดและน่าจะถือเป็น “ประเด็นการเมือง” ที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องหันมามองและใคร่ครวญให้ละเอียด คือ การแสดงความเห็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แสดงความเห็นว่า...“การคำนึงถึงกระแสสังคมเป็นเรื่องดี แต่ไม่อยากให้ครม. ห่วงกระแสสังคมจนลืมข้อเท็จจริง หากโครงการโปร่งใสควรให้เดินหน้าต่อไป ถ้ามั่นใจว่าโครงการนี้โปร่งใส”แปลว่า...พล.อ.ประวิตร เห็นด้วยกับโครงการรถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน อย่างชัดเจนแล้ว พล.อ.ประวิตร เป็นใคร?ก็คือคนที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ได้มีโอกาสเป็นรัฐบาล อยู่ในขณะนี้ความเห็นในห้องประชุม ครม. ของ พล.อ.ประวิตรจึงไม่ได้มีความหมายแค่ความเห็นของรัฐมนตรีคนหนึ่งเท่านั้นแต่มันสะท้อนให้เห็นถึงการเมืองใน 2-3 แง่มุมรวมทั้งเสถียรภาพของรัฐบาลประชาธิปัตย์ว่าจะอยู่อีกนาน หรือจะล่มสลายเพราะ “รถเมล์เป็นพิษ”?? ■