WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Saturday, June 6, 2009

R3..‘เหวย จี’!!

ที่มา บางกอกทูเดย์

เคยรู้บ้างหรือไม่ว่า…ผักสด ดอกไม้สวย ที่ “ตลาดไท”มีแหล่งที่มาจากที่ใด??ผักปวยเล้งยาวๆ อวบๆ..กะหล่ำปลีอ้วนๆ ขาวๆใหญ่ๆ..ดอกเบญจมาศ ดอกกุหลาบ ฯลฯ หลากหลายสีสันมีที่มาจากแดนไกล“ผมไปคุนหมิงเพิ่งกลับมา ดอกกุหลาบใหญ่หยวนเดียวเท่ากับ 5 บาท แต่ดอกกุหลาบดอกเดียวมันวิ่งมาไกลถึง 2,000 กิโลเมตร จากคุนหมิงไปถึงกรุงเทพฯ 2,000กิโลเมตร”คำบอกเล่าจากประสบการณ์ตรงตามสายงานของ“สมเกียรติ พิสุทธิ์เจริญพงศ์” นายด่านศุลกากรเชียงของอ.เชียงของ จ.เชียงรายนับตั้งแต่ปี 2537 เป็นต้นมา ที่เริ่มมีการนำร่องเส้นทางเศรษฐกิจกรุงเทพฯ–คุนหมิง หรือ R3 เป็นเวลาเพียงไม่นานเส้นทางดังกล่าวแม้จะยังไม่ราบเรียบสะดวกโยธิน แต่ก็เรียกได้ว่าเสร็จสิ้นใช้งานได้ตลอดระยะทาง 2,000 กิโลเมตรแล้วเมื่อปี 2550 ที่ผ่านมา“มันปลูกเป็นมุ้ง ขาวไปทั้งหมดเลย คือ เป็นพลาสติกคลุม เราเห็นแล้วรู้เลยว่าตายแล้ว ถ้าของมันมาเราเสร็จแน่นอนสมมติการเดินทางไปเส้นทาง R3a จากห้วยทราย ไป228 กิโลเมตร เราเรียกว่าบ่อเต็น (ลาว) พอจากบ่อเต็นข้ามไปฝั่งนู้นเรียกว่าบ่อหาน (ลาว) จากบ่อหานข้ามไปฝั่งโน้น เขาทั้งลูกเขียวหมดเลย มันปลูกยางหมดคนงานไทยเราจะลมใส่ เพราะที่คุณเคยคิดว่าเป็นหนึ่งในเรื่องยางพารา คุณเสร็จจีนแล้วยางในจีนตั้งแต่บ่อหานเข้าไปถึงสิบสองปันนา (จีน)เป็นยางหมด ผมเข้าไปท่าเรือกวนเหล่ยก็มีแต่ยางล่องเรือมาเห็นได้เลยว่าเขาใช้พื้นที่ปลูกยางหมด ไม่มีเขาหัวโล้นครับ แล้วยางพาราปลูกในจีนได้ คือ ที่สิบสองปันนากับเกาะไหหลำเท่านั้น อย่างอื่นปลูกไม่ได้ถามว่าตกใจหรือไม่ ถ้าคุณปลูกยางพาราคุณต้องตกใจและกลับมาต้องคิดใหม่แล้วจะทำอย่างไร เขาปลูกยางเยอะจริงๆ”สดับตรับฟังผลกระทบที่กำลังจะเกิดขึ้นกับพืชเศรษฐกิจไทย แค่เพียงชนิดเดียวก็ถึงกับต้องอ้าปากค้าง มือเท้าคางคิดหนัก“ผักคะน้า ถั่วลันเตา ของเขาอร่อยและถูกกว่าไทย

แต่ละวันจะมีผักมาผ่านด่านเป็นรถคอนเทนเนอร์ คันนึงราว 10 ตัน ตกวันละ 100 ตัน มาที่นี่มาโดยรถ มันเร็วและผักไม่ช้ำ ผักทั้งหมดถูกส่งไปตลาดไทถ้าอยากรู้ว่า R3a ทำให้การขนส่งประหยัดเวลาเร็วขึ้นกว่าเดิมแค่ไหน ให้เปรียบเทียบกับสินค้าบางประเภทที่ไปออกอีสานถ้ามาทางนี้ย่นระยะเวลาได้เป็นวัน”อาจจะคิดหนักกว่าเดิมเมื่อได้รู้ว่า “สินค้าเกษตร” ทั้งหลายที่ว่ามาศุลกากรไทยไม่สามารถจัดเก็บภาษีเข้ารัฐได้ตามที่ควรได้“การจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าเพราะอากรลดลง แม้มูลค่านำเข้าเพิ่มขึ้น แต่ส่วนมากเป็นสินค้าที่ลดภาษี 7 ใน 10 ลำดับ ได้รับการยกเว้นภาษีเพราะฉะนั้น 85 เปอร์เซ็นต์ ผมยกเว้นแล้วเหลือ 15เปอร์เซ็นต์ จะให้ผมไปเก็บกับใคร เป้าที่ตั้งให้ผมมา ผมเก็บไม่ได้หรอกครับ อัตราอากร ก็ลดๆๆ แถมบางอันก็ฟรีหมดเลย”สิ่งที่ “นายด่านสมเกียรติ” กำลังพูดถึง คือ สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 ที่เป็นการตกลงก่อสร้างร่วมกันระหว่างไทย–จีน ภายใต้งบประมาณรวม 31.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยแบ่งการสนับสนุนฝ่ายละ 50 เปอร์เซ็นต์โดยคาดว่าจะเริ่มการก่อสร้างได้ในสิ้นปี 2552 และจะแล้วเสร็จได้ภายใน 30 เดือน“มีคนถามว่าสร้างสะพานแล้วไทยจะได้อะไร เพราะต้องไม่ใช่จีนอย่างเดียวที่ได้ประโยชน์ ทีนี้ควรจะคิดว่าเมื่อทางสะดวกแล้วเราจะคิดสินค้าอะไรไปตีเขา ผมบอกเลยว่า เรามีผลไม้ไทย ที่เราต้องคิดว่าเราจะเอาอะไรดีไปตีเขามังคุดเขา 18 หยวนต่อครึ่งกิโล คือ 90 บาท กิโลกรัมละ180 บาท แล้วที่บ้านเรากิโลกรัมละ 20 บาท คุณสมควรเอามังคุดไปตีเขามั้ย ที่นี่ผลไม้เป็นฤดู มีมะม่วง ชมพู่ เราต้องคิดบุกเต็มที่ กระทรวงพาณิชย์ต้องคิดบุกเต็มที่เรารู้แล้วว่ามังคุดที่จีนกิโลกรัมละ 180 บาท อยู่ที่นี่ 20 บาท

เราส่งคนเข้าไปลุยเลย หาตลาดแล้วลุย เราโชคดีตรงที่มังคุดจีนปลูกไม่ได้ ทุเรียนจีนปลูกได้ อย่างอื่นปลูกได้หมด แต่มังคุดเขาปลูกไม่ได้ เพราะฉะนั้นเขาต้องซื้อเราและเขาชอบกินถ้ามัวแต่คิดอย่างเดียวว่าจีนลงมาเราสู้เขาไม่ได้ก็เท่านั้นแต่เราก็คิดขึ้นไปสิ อย่างมังคุด เขาชอบแน่ๆ แล้วบ้านเขามันแพง”ได้ฟังคร่าวๆ เหมือนจะมีความหวัง แต่ก็ยังหดหู่อยู่ตะหงิดๆเพราะหนทางที่สินค้าเกษตรของไทยจะถูกโจมตี ดูท่าว่าจะเป็นไปได้สูงในเวลานี้ ถ้าหากรัฐบาลยังไม่มีการวางแผนเตรียมการให้ดี“ผลประโยชน์ที่ได้กับรัฐบาลไทย คือ มีการลงทุน มันก็ไปต่อยอดกับธุรกิจ แค่นั้นก็เหลือกินเหลือใช้แล้ว”มุมมองความเห็นอีกด้านจากภาคธุรกิจโดย “จิรพล กาญจนกามล”ผู้จัดการ บ.ขุดค้นถ่านหินเวียงภูคา สาขาบ่อแก้ว ประเทศลาวนับได้ว่าเป็น 1 ในบริษัทคนไทยจำนวนไม่มากที่ไปดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้อง และเป็นล่ำเป็นสันที่ลาว“เส้นทางเสร็จหมดแล้ว R3 ตอนนี้สามารถขับรถเก๋งมาได้เป็นถนน 2 เลน จากบ่อเต็นเข้าบ่อหาน เดิม 230 กิโลเมตรเหลือ 170 กิโลเมตร จากที่วิ่งเป็นวันเหลือเพียง 2 ชั่วโมงR3 เป็นเส้นทางหลักที่ขนสินค้าจากจีนมาลาว ส่วนจะได้ประโยชน์มากกว่าการข้ามผ่านแม่น้ำโขงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเส้นทางบางทีของที่ลงจากเชียงรุ้ง ผ่านแม่น้ำโขงมันเร็วกว่า แล้วก็ความคุ้มค่า ถ้ามีสะพานมันจะเวิร์กกว่านี้”สำหรับสภาพภูมิประเทศลาวในปัจจุบัน ได้รับคำบอกเล่าที่เชื่อถือได้จาก “พรสวรรค์ บุญทัน” ผู้ใหญ่บ้านห้วยลึก ต.ม่วงยายอ.เวียงแก่น จ.เชียงราย“ผมอยู่ชายแดนจะไม่ให้มีเรื่องกระทบกระทั่งกัน เพราะเป็นธรรมดาของชาวบ้านก็มีบ้าง ก็รีบไปคุยกับผู้ใหญ่ก่อนไม่ให้มี

เรื่องใหญ่ขึ้น ก็รีบไปคุยก่อนแก้ไขกัน ทุกปีจะมีกีฬาเชื่อมสัมพันธ์เล่นกันไม่จริงจัง คือ เราไม่อยากให้ทะเลาะกัน มันไม่สนุก”แต่ความเป็นบ้านพี่เมืองน้องหรือบ้านใกล้เรือนเคียง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าบริเวณชายแดน...แน่นอนว่า “ของถูก” ย่อมได้เปรียบเสมอ...!!“สินค้าลาว อาทิ พวกเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เอามาจากจีนหมด ตอนนี้เราไปที่ไหน ตลาดจีนจะอยู่ทั่วทั้งลาวแล้วร้านคนลาวจะน้อยเต็มที เพราะมีการขนสินค้าผ่านทางเส้นทาง R3 มานานแล้ว”เพียงคร่าวๆ ของการตามรอยเส้นทาง R3a ที่เสร็จสิ้นนี้ก็ได้เห็นอะไรต่อมิอะไรที่ล้วนเป็นผลกระทบต่อไทยในทุกด้านแล้วแลนั่นดูจะไม่ใช่ข่าวดีเลย สำหรับเส้นทางเศรษฐกิจสายใหม่ที่กำลังต่อตรงเข้าทางเหนือไทยแต่..ในวิกฤติย่อมมีโอกาส!!คำว่า “วิกฤติ” ในภาษาจีนออกเสียงว่า “เหวย จี”ตัวอักษรได้มาจากคำ 2 คำเหวย = “เหวยเสี่ยน” แปลว่า...อันตรายจี = “จีฮุ่ย” แปลว่า...โอกาสดังนั้น คำว่า “วิกฤติ” ในภาษาจีน คือ “อันตราย”และ “โอกาส” ในเวลาเดียวกันเส้นทางสายนี้..แม้จะดู “อันตราย” เพราะการรุกเข้ามาของสินค้าจากประเทศมหาอำนาจในเอเชีย แต่ขณะเดียวกันน่าจะถือว่าเป็น “โอกาส” ที่ดีมาก สำหรับพ่อค้าไทยใจกล้าที่จะลงทุนเปิดตลาดจีนตอนใต้ ถิ่นที่ตั้งที่มีประชากรอยู่ราวหลักหลายร้อยล้านคนถ้าทำได้..ก็มีแต่..คุ้มกับคุ้ม!! ■