ที่มา Thai E-News
โดย วัฒนะ วรรณ นสพ.เลี้ยวซ้าย
1 มิถุนายน 2552
การต่อสู้ของเราชาวเสื้อแดงจะไปทางไหน นี่เป็นคำถามสำคัญ ที่หลายคนพยายามเสนอคำตอบ ผมจึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการเสนอคำตอบนี้
ข้อแรก คนเสื้อแดงต้องจะต้องต่อสู้ในเรื่องเฉพาะหน้าที่สำคัญด้วย คือการปกป้องงาน ปกป้องศักดิ์ศรีคนธรรมดาจากวิกฤตเศรษฐกิจ เพราะทุกครั้งที่เกิดวิกฤตคนจนจะเป็นผู้แบกรับเสมอ
ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน การกู้เงินของรัฐบาลประชาธิปัตย์ ไม่มีหลักประกันใดๆ ที่จะนำเงินมาช่วยคนไม่ให้ตกงาน นอกจากนั้นยังพยายามเก็บภาษีน้ำมัน เหล้า บุหรี่ ขูดเลือดขูดเนื้อจากคนธรรมดาอีก และตัดงบประมาณสาธารณสุข
รวมไปถึงนโยบายไร้ประสิทธิภาพที่ผ่านมา เช่น แจกเงินสองพันบาท เบื้ยยังชีพคนชรา เดือนละ 500 บาท ใครๆก็รู้ว่าเงินแค่นี้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพอย่างมีศักดิ์ศรีของคนจน รวมถึงการฝึกอาชีพ ในขณะที่สังคมไม่มีงานให้ทำ
ดังนั้นเราจะต้องแสดงความสามัคคีกับพี่น้องเกษตรกร และกรรมาชีพที่ทำงานในโรงงาน ในบริษัท ต่างๆ เพื่อร่วมกันรณรงค์นำเงินของรัฐทั้งหมดมาปกป้องงาน และสร้างงานให้กับประชาชนให้อยู่อย่างมีศักดิ์ศรี
ข้อสอง เป้าหมายระยะกลาง ต้องพยายามสร้างข้อเสนอที่เป็นรูปธรรม เกี่ยวกับการสร้างสังคมใหม่ ที่ลดความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยกับคนจน พร้อมๆกับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยไปพร้อมกัน ตัวอย่างของข้อเสนอ เช่น การสร้างระบบภาษีแบบก้าวหน้า โดยเน้นเก็บในสัดส่วนมากเป็นพิเศษจากคนรวย สร้างระบบสวัสดิการสังคมที่เท่าเทียม ครบวงจร และเสมอภาค ที่เรียกว่า “รัฐสวัสดิการ”
ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ ปฏิรูปการบริหารองค์กรทางสังคมให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น เช่นรัฐวิสาหกิจต่างๆ แบบสามฝ่ายคือ รัฐที่มาจากการเลือกตั้ง ผู้แทนสหภาพแรงงานที่ได้รับการเลือกตั้ง และประชาชนในท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อชักชวนคนในสังคมที่จะได้ประโยชน์จากข้อเสนอเหล่านี้เข้าร่วมต่อสู้กับขบวนการประชาธิปไตย
แต่เราจะทำข้อเสนอเช่นว่านี้ได้ ต้องมีการสร้างสมัชชาสังคมก้าวหน้าในระดับต่างๆ ในระดับชุมชน จังหวัด หรือในระดับประเทศ โดยเป็นเวทีที่มีการถเถียงแลกเปลี่ยนกันอย่างเสรีของคนธรรมดา ซึ่งนอกจากจะได้ข้อเสนอและรณรงค์ไปพร้อมกันแล้ว ยังจะเป็นพื้นที่สร้างปัญญาชนของฝ่ายประชาธิปไตยด้วย
ข้อสาม ถึงที่สุดแล้วการต่อสู้ที่จะรักษาชัยชนะให้ได้อย่างยั่งยืน จะต้องมีเอกภาพภายใต้การสร้างพรรคการเมืองที่เป็นพรรคของมวลชนซีกประชาธิปไตย ที่ใช้การนำแบบล่างสู่บน โดยจะต้องเน้นเป็นพรรคเพื่อการรณรงค์ทางการเมืองเป็นสำคัญ
ความสำคัญของการมีพรรค ก็เพราะว่าพรรคจะเป็นจุดศูนย์กลางในการสะสมประสบการณ์และบทเรียนแพ้ชนะจากพื้นที่ต่างๆ เพื่อติดอาวุธทางความคิด ฝึกฝนสมาชิกให้นำตนเอง เป็นปัญญาชนของซีกประชาธิปไตย