ที่มา มติชนออนไลน์
ภท.กร้าวไม่ยอมเลื่อนเช่ารถเมล์ 4 พันคัน ต้องเข้า ครม. 3 มิ.ย.นี้ "ชวรัตน์"ระบุไม่อนุมัติต้องมีคำอธิบาย อ้างไม่มีฮั้ว รัฐ-เอกชนวินวินทั้งสองฝ่าย เผยยอมถอยเลิกค้านเช่าที่ดินของ ปชป.ชี้แค่เข้าใจผิด ไม่ใช่แผนเกี้ยเซี้ย "สุเทพ" ยันยังไม่มีข้อสรุป "สาทิตย์" เผย 2 พรรคเคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว
หน.ภท.ไม่ยอมเลื่อนวาระเช่าเมล์ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.)ระบุ หากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เลื่อนวาระ หรือไม่อนุมัติโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคัน มูลค่า 6.7 หมื่นล้านบาท ของกระทรวงคมนาคมภายใต้การกำกับดูแลของรัฐมนตรี ภท. จะต้องมีเหตุผลอธิบาย เป็นเพราะอะไร
นายชวรัตน์กล่าวเรื่องนี้ เมื่อสายวันที่ 1 มิถุนายน ที่กระทรวงมหาดไทย ภายหลังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีทักท้วงโครงการนี้ในที่ประชุม ครม.มาแล้ว และให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปเกาหลีใต้ในทำนอง การประชุม ครม.ในสัปดาห์นี้ จะไม่มีพิจารณาโครงการที่ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์นี้ โดยนายชวรัตน์กล่าวว่า เรื่องนี้แล้วแต่การตัดสินใจของนายกฯ เนื่องจากอาจมีภารกิจมาก
ผู้สื่อข่าวถาม แสดงว่ายอมให้เลื่อนโครงการซื้อรถเมล์จากวาระ ครม.ใช่หรือไม่ นายชวรัตน์กล่าวว่า "ไม่เลื่อนจะดีกว่า เพราะประชาชนจะเดือดร้อน เพราะหากมีรถเมล์จากโครงการนี้ใช้ ประชาชนจะได้ขึ้นรถเมล์ในราคา 30 บาทต่อวัน ส่วนในเรื่องถูกทักท้วง ค่าเช่าแพงกว่าการจัดซื้อนั้น นายชวรัตน์กล่าวว่า เป็นการตั้งราคากลางขึ้นมา เพื่อให้บริษัทเอกชนได้ประมูล ซึ่งมีการตั้งราคาไว้สูง เพื่อเปิดโอกาสให้มีการแข่งขัน แต่บริษัทที่จะได้งาน ก็คือคนที่เสนอราคาต่ำที่สุดในการประมูล แต่หากมีข้อสงสัยเรื่องการฮั้วประมูล ก็ต้องชี้แจง และหากพบว่าเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นจริง สามารถยกเลิกโครงการได้ เพราะรัฐบาลมีอำนาจอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม งบประมาณที่ใช้ไม่ใช่งบประมาณของรัฐบาล
ลั่น"เลื่อน-ไม่อนุมัติ"ต้องอธิบาย
เมื่อถามถึงมีสัญญาณการฮั้วประมูล เนื่องจากมีรถเมล์จำนวนหนึ่งมาจอดรอไว้แล้ว นายชวรัตน์กล่าวว่า ถือเป็นการแข่งขัน เอกชนก็ได้งาน รัฐก็ได้ประโยชน์ ดังนั้น เรื่องนี้ก็วินวิน (ได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย) เรื่องการฮั้วประมูลนั้นไม่ทราบ เพราะยังไม่เกิดขึ้น
นายชวรัตน์กล่าวกรณีนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยจาก ภท. ระบุ จะมีการผลักดันให้บรรจุเรื่องนี้เข้าที่ประชุม ครม.ในสัปดาห์นี้ว่า กระทรวงคมนาคมเป็นเจ้าของเรื่อง แต่หาก ครม.ไม่อนุมัติ หรือมีการเลื่อนเวลา ก็จะต้องมีเหตุผลที่จะอธิบายว่าเพราะอะไร เมื่อถามว่าเหตุผลอะไรที่จะรับไม่ได้ นายชวรัตน์กล่าวว่า ถึงเวลาก็จะรู้เอง เมื่อถามอีกว่า จะถือว่าเป็นการต่อรองที่ ภท. อาจไม่ลงคะแนนสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 หรือไม่ หัวหน้าพรรค ภท.กล่าวว่า "ไม่ทราบ แต่ต้องมองโลกในแง่ดี จะทำอะไรก็ต้องมีเหตุผล"
ปัดแลกเปลี่ยนเลิกค้านเช่าที่ดิน
นายชวรัตน์กล่าวปฏิเสธ เรื่องนี้ไม่ได้เป็นการยื่นหมูยื่นแมว หรือแลกเปลี่ยนโครงการกับพรรคประชาธิปัตย์ ที่ล่าสุด ภท.เลิกคัดค้านโครงการจัดสรรที่ดินสาธารณะให้เช่าไร่ละ 10 บาทต่อปี ที่นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยจากพรรคประชาธิปัตย์ผลักดันแล้ว โดยกล่าวว่า ไม่ใช่ยื่นหมูยื่นแมว เพราะเรื่องที่ดิน เป็นนโยบายมาตั้งแต่สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และได้ดำเนินการไปแล้ว เมื่อถามถึงกรณีคนของพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแสดงการคัดค้านโครงการเช่ารถเมล์อย่างหนัก นายชวรัตน์กล่าวว่า นายชวนคงมีเหตุผล ต้องไปถามว่ามีเหตุผลอะไร เมื่อถามอีกว่า ความสัมพันธ์กับพรรคประชาธิปัตย์ขณะนี้เป็นอย่างไร หัวหน้า ภท.กล่าวว่า รักกันดี จูบปากกันทุกวัน
อ้างเหตุเลิกค้านปม"เข้าใจผิด"
ทั้งนี้ ก่อนที่นายชวรัตน์จะให้สัมภาษณ์ยืนยันการผลักดันโครงการเช่ารถเมล์ 4 พันคัน ได้กล่าวถึงโครงการจัดสรรที่ดินสาธารณะให้เช่าไร่ละ 10 บาทต่อปี ว่า นายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลย์วุฒิ อธิบดีกรมที่ดิน ชี้แจงให้รับทราบในวันเดียวกันนี้แล้วว่า โครงการนี้เป็นโครงการเดิมที่ทำมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 โดยโครงการทั้งหมดได้รับการอนุมัติจาก ครม.และทำมา 5 ปีแล้ว และมีเงื่อนไขในการเซ็นสัญญาเช่าที่ดินทุก 5 ปี ผมเห็นว่าโครงการนี้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน จึงไม่จำเป็นที่จะต้องมีการทบทวน และได้กำชับนายถาวร ตรวจสอบเรื่องการเอื้อประโยชน์กับนายทุนŽ นายชวรัตน์กล่าว
ส่วนที่ก่อนหน้านี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แสดงความไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้อย่างแข็งขัน นายชวรัตน์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเข้าใจผิด นายศักดิ์สยามอาจเข้าใจว่าเป็นโครงการใหม่ ส่วนที่บอกว่าจะไม่เอาโครงการนี้ น่าจะเป็นเพราะสื่อถามนำมากกว่า เมื่อถามว่า แสดงว่าเคลียร์กับพรรคประชาธิปัตย์ได้แล้ว นายชวรัตน์กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องเคลียร์ เพราะดีกันอยู่แล้ว
"บุญจง"กร้าวรถเมล์ต้องเข้า3มิ.ย.
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ กล่าวว่า นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เสนอโครงการเช่ารถเมล์ 4 พันคัน เข้าที่ประชุม ครม.ไปแล้ว ดังนั้น เรื่องนี้จะต้องเข้าที่ประชุม ครม.วันที่ 3 มิถุนายน เพราะถือว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ทำหน้าที่แล้ว เมื่อถามว่าหากรัฐบาลไม่ยอมนำเรื่องนี้เข้าครม. พรรค ภท.จะดำเนินการอย่างไร นายบุญจงกล่าวว่า "ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา ต้องรอให้ถึงเวลานั้นก่อน หากไม่มีการนำเข้าค่อยมาว่ากัน"
"สุเทพ"ชี้ยังไม่มีข้อสรุปใดๆ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวีของกระทรวงคมนาคม ว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปใดๆ เพียงแต่กระทรวงคมนาคมพยายามคิดแก้ไขปัญหาการขาดทุนสะสมขององค์การขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ขสมก.) จึงเสนอโครงการเช่ารถเมล์ตั้งแต่รัฐบาลก่อน เพราะเห็นว่าไม่ต้องเอาเงินรัฐบาลไปซื้อ และสามารถบริหารจัดการให้ได้รถดี มีคุณภาพ มีกำไร แต่เมื่อมาถึงรัฐบาลชุดนี้ก็มีข้อท้วงติงหลายประการเพื่อให้กระทรวงคมนาคมไปปรับปรุงแก้ไข ขณะนี้เรื่องยังไม่มาถึง ครม. จึงยังไม่ได้ตัดสินใจ
นายสุเทพกล่าวถึงการหาทางออกไม่ให้มีปัญหาการทุจริตเกิดขึ้นตามที่นายกฯ แสดงความเป็นห่วง นายสุเทพกล่าวว่า ขอยืนยันว่ายังไม่มีเหตุการณ์เกี่ยวกับการทุจริตใดๆ ทั้งสิ้น "แต่ผมเป็นผู้ประสานงาน ไม่ใช่ผู้ปฏิบัติงาน ดังนั้น จะไม่ไปเสนออะไรแทนกระทรวงทั้งหลาย หน้าที่ผมคือทำให้มีความเข้าใจกัน" นายสุเทพกล่าว
ชี้ขึ้นอยู่กับคมนาคม-ครม.ชี้ขาด
นายสุเทพยังปฏิเสธจะให้ความเห็นกรณี นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เสนอให้โอนโครงการเช่ารถเมล์ให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นผู้ดำเนินการแทนรัฐบาล โดยบอกว่า บังเอิญไม่ได้ยินการให้ความเห็นของนายประสพสุข จึงไม่กล้าวิจารณ์ ส่วนเสียงวิจารณ์ การเตะถ่วงโครงการรถเมล์ เป็นเกมของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ต้องการนำโครงการไปดูเองนั้น รองนายกฯ กล่าวว่า "ประชาธิปัตย์ เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เป็นแกนกลางของรัฐบาลนี้ จะมาเล่นเกมตามเสียงเชียร์ของใครไม่ได้ เราต้องทำหน้าที่เป็นแกนกลางให้ดีที่สุด ผมไม่คิดว่าคนในพรรค จะไปดึงงานของใครมาทำเอง เราไม่ทำอย่างนั้นหรอกครับ วันนี้มันไม่ใช่เรื่องของประชาธิปัตย์ แต่เป็นเรื่องของรัฐบาล จะได้ข้อสรุปเมื่อไรนั้น ขึ้นอยู่กับกระทรวงคมนาคมว่า จะเสนอเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.เมื่อไหร่ และ ครม.จะเห็นอย่างไร" นายสุเทพกล่าว
"สาทิตย์" เผย2พรรคเคลียร์กันแล้ว
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความไม่เข้าใจกันเรื่องนโยบายคงต้องมาคุยกัน เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีการพูดคุยทำความเข้าใจกันระหว่างแกนนำของรัฐบาลกับพรรค ภท. คิดว่าคงทำความเข้าใจกันได้
"พรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้รบกันเอง แต่เป็นธรรมดาที่รัฐบาลผสมทุกสมัยอาจมีบางเรื่องเห็นไม่ตรงกัน ขนาดรัฐบาลเสียงข้างมากสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังมีปัญหาเกาเหลากัน นับประสาอะไรกับพรรคร่วมรัฐบาลที่ต้องมีปัญหาบ้างเป็นธรรมดา แต่ทุกอย่างต้องโปร่งใส หากโครงการใดเกิดข้อสงสัยต้องชี้แจงได้" นายสาทิตย์กล่าว
สำหรับภาพของรัฐบาลผสมจะถูกมองว่าเป็นเรื่องของการสมประโยชน์หรือไม่ โดยเฉพาะกรณีโครงการให้เกษตรเช่าที่ดินสาธารณะราคาถูกของพรรคประชาธิปัตย์กับโครงการเช่ารถเมล์ของภท.นายสาทิตย์กล่าวว่า ไม่มี ทุกเรื่องต้องทำให้โปร่งใส่ ชี้แจงประชาชนได้
ส.ส.ปชป.เชื่อภท.ไม่ถอนตัว
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เชื่อว่า ภท.จะไม่ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล เพราะคนที่จะเป็นรัฐมนตรีก็ต้องมีเหตุผล โดยส่วนตัวเห็นว่าสังคมยังสับสนโครงการดังกล่าวว่าเหตุใดจึงต้องเช่า ทำไมไม่ใช่วิธีการจัดซื้อไปเลย ซึ่งรัฐบาลควรเปิดให้นายโสภณ ซารัมย์ ชี้แจงผ่านสื่อของรัฐ ประชาชนจะได้รับรู้ข้อมูลสองด้าน ถ้าเห็นว่ามีข้อดีมากกว่าข้อเสียก็ควรจะอนุมัติโครงการดังกล่าว แต่ที่สำคัญต้องฟังเสียงประชาชนเป็นหลัก
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า รัฐบาลจะพยายามให้ทุกโครงการมีความโปร่งใสตรวจสอบได้ ดังนั้น คำว่าบุฟเฟ่ต์คาบิเนตหรือฟาสต์ฟู้ด ที่พรรคเพื่อไทยพูดนั้น จะไม่เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้อย่างแน่นอน แต่อยากถามว่าฟาสต์ฟู้ดหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "แดกด่วน" นั้นเกิดขึ้นในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ใช่หรือไม่
ปัดทำบัญชีดำ12ส.ส.เคลื่อนไหว
สำหรับเรื่องที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ หารือกับรัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์ 15 คน เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมานั้น นายสุเทพให้สัมภาษณ์ว่า ได้กำชับให้รัฐมนตรีเร่งประชาสัมพันธ์การทำงานให้ประชาชนรับทราบ เช่น โครงการเรียนฟรี 15 ปี ที่ประชาชนบางส่วนยังสับสนอยู่ นอกจากนี้ยังฝากให้รัฐมนตรีไปคุยกับ ส.ส. โดยนำข้อเท็จจริงที่มีการปรึกษาใน ครม.ไปเล่าให้ฟัง เพื่อให้ ส.ส.มีความเข้าใจถูกต้อง และไม่แสดงความคิดเห็นที่ผิดไปจากข้อเท็จจริง
เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ยังปฏิเสธกระแสข่าวการขึ้นบัญชีดำ 12 ส.ส.พรรค ที่ออกมาเคลื่อนไหวในลักษณะต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ รองหัวหน้าพรรคด้วยว่า พรรคไม่เคยทำแบล๊คลิสต์ ถ้าใครบอกว่า ทำแบล๊คลิสต์แสดงว่าพูดไม่จริง เรื่องการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี พรรคมีระบบอยู่ วันนี้ทุกอย่างจบแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามแกนนำพรรค ไม่ได้มองว่าความเคลื่อนไหวของกลุ่มเพื่อนเฉลิมชัยเป็นการทำลายวัฒนธรรมพรรคใช่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า "ไม่ครับ พรรคก็มีความคิดเห็นที่หลากหลาย ก็ต้องฟังทุกคน ความจริงคุณเฉลิมชัยก็ไม่เคยมาพูดบ่นอะไรกับผม"
เฉไฉมีเสื้อ"สีน้ำเงิน"เหมือนกัน
นายสุเทพกล่าวตอบคำถาม จะเปิดอกพูดคุยกับนายเฉลิมชัยตรงๆ หรือไม่ว่า "ผมจะไปพูดอะไร สมมุติผมมีแฟนอยู่สักคน เขาไม่เคยทำอะไรผิดเลย มีแต่คนอื่นพูดอย่างนั้นอย่างนี้ ผมจะไปบอกว่ามา... มาพูดตรงๆ กันหน่อย ท่าทางคงจะไม่ดี ผมโตแล้ว อายุมากกว่าเขา ถ้ามีอะไร เขาคงไม่คุยกับผมเอง อย่างเวลาเขานั่งกินข้าวกับผมที่เกาะสมุย (จ.สุราษรธานี) เขาบอกว่าพี่เข้าใจผมหรือเปล่า ผมไม่มีอะไรนะ ผมก็บอกว่าโอ้ย! สบายมาก ผมเข้าใจคุณ ก็เท่านั้น" เมื่อถามว่า แต่นายเฉลิมชัยระบุว่ามี ส.ส.ในสังกัดมากกว่า 40 คน เป็นการส่งสัญญาณทวงตำแหน่งหรือไม่ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า " ไม่มีครับ จองได้ แต่ทวงคงไม่ได้"
นายสุเทพยังกล่าวกรณีนายเฉลิมชัย นำ ส.ส.ประจวบฯของพรรค ใส่เสื้อสีน้ำเงิน ไปต้อนรับนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ระหว่างไปตรวจราชการที่ จ.ประจวบฯ และมีการหยอกเหย้า เป็นการมาดูตัวว่า "ถ้าไปเอาเรื่องอย่างนี้มาเป็นอารมณ์มันคงยุ่ง เพราะเวลาผมไปตรวจราชการในจังหวัดอื่น ก็มีส.ส.พรรคอื่นไปร่วมพบปะและรับประทานอาหารกับผม ถ้าขืนเป็นอย่างนั้นก็ต้องระวังกันอุตลุดเลย คุยกันไม่ได้เลย เสื้อสีน้ำเงินผมก็มีตัวหนึ่ง ว่างๆ จะใส่ให้ดู ครม. มีทุกคนเพราะได้รับแจกจากกระทรวงมหาดไทย"
เมื่อถามว่า นายชวรัตน์ส่งสัญญาณพร้อมต้อนรับ ส.ส.ที่จะเข้าไปสังกัด ภท.นายสุเทพกล่าวทีเล่นทีจริงว่า ว่างๆ ผมจะไปจีบท่านชวรัตน์บ้าง สื่ออย่าไปสร้างความตื่นเต้นกับเรื่องที่ไม่เป็นสาระต่อบ้านเมืองเลย ผมไม่กังวลใจเรื่องนี้ ในอนาคตนักการเมืองอาจจะย้ายพรรคได้ เป็นเรื่องธรรมดา
อ้างมีคนให้ร้อยล.เฉลิมชัยยังไม่ไป
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์หลายคนเดินทางเข้าพบนายสุเทพ ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล อาทิ นายธานี เทือกสุบรรณ น้องชายนายสุเทพ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สุราษฎร์ธานี ที่ถูกศาลอุทธรณ์ภาค 8 ให้ใบเหลือง นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค
ภายหลังการหารือกับนายสุเทพ นายไตรรงค์กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ได้มาเป็นกาวใจให้นายเฉลิมชัย หรือมารับคำสั่งจากนายสุเทพเพื่อไปเกลี้ยกล่อมนายเฉลิมชัยแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่าพี่ชายนายเฉลิมชัยได้โทรศัพท์มาหา เพราะรู้สึกไม่สบายใจกับข่าวที่ออกมา โดยชี้แจงกรณีนายเฉลิมชัย และส.ส.ประจวบฯ 3 คนใส่เสื้อสีน้ำเงินไปต้อนรับนายชวรัตน์ ว่านายเฉลิมชัยได้รับเชิญจากจังหวัดให้ไปร่วมงาน และเข้าใจว่าจังหวัดอยากเอาใจรัฐมนตรีมหาดไทย จึงนำเสื้อสีน้ำเงินมาแจกให้ผู้ร่วมงานสวมใส่
"ผมมั่นใจว่านายเฉลิมชัยไม่ได้คิดจะย้ายไปสังกัดภูมิใจไทย เพราะเป็นคนเอาเขามาเล่นการเมืองเอง จึงรู้ดี และเขาก็เป็นคนมีอุดมการณ์ ที่ผ่านมามีคนติดต่อให้เงินเป็นร้อยล้านบาทเพื่อให้ย้ายพรรค แต่นายเฉลิมชัยก็ไม่ไป เพราะเขามีเงินมากกว่านั้นเยอะ" นายไตรรงค์กล่าว
หลุดด่า"ปากหมา"ปูดบัญชีดำ
ส่วนกระแสข่าวแกนนำพรรค ขึ้นบัญชีดำไม่ให้นายเฉลิมชัยเป็นรัฐมนตรีในการปรับ ครม. ครั้งหน้า นายไตรรงค์กล่าวว่า "ไม่มี ไม่มีผู้ใหญ่ที่ไหนพูด" เมื่อถามย้ำว่า แต่เห็นมีข่าวลงในหนังสือพิมพ์เช่นนั้น นายไตรรงค์กล่าวพร้อมหัวเราะว่า "ไม่รู้สิ อาจมีผู้ใหญ่ปากหมาไปพูดมั้ง ผู้ใหญ่ไม่ควรพูดอย่างนั้น บ้าหรือเปล่า พูดอะไรให้พรรคเสียหาย"
น.ต.สุธรรม ระหงษ์ ส.ส.สมุทรสาคร พรรคประชาธิปัตย์ กลุ่มเพื่อนเฉลิมชัย กล่าวว่า การต้อนรับนายชวรัตน์ โดยสวมใส่เสื้อสีน้ำเงินนั้น ก็เป็นเรื่องของการไปต้อนรับธรรมดา ในฐานะเจ้าของพื้นที่
พท.ชี้"แทรกแซง"เบนประเด็น
นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลจะเปลี่ยนแปลงวิธีการแทรกแซงราคาพืชผลจากการรับจำนำมาเป็นการประกันราคาพืชผลทางการเกษตรว่า นายกรัฐมนตรี พยายามที่จะเบี่ยงเบนประเด็นให้สังคมสนใจเรื่องนี้แทนปัญหาการระบายสินค้าเกษตรของกระทรวงพานิชย์ โดยเฉพาะ ข้าว และข้าวโพด ที่เป็นประเด็นสร้างความกังขาให้กับประชาชนเป็นอย่างมากว่าเหตุใดผู้ที่ประมูลราคาสูงกลับแพ้ประมูลผู้ที่เสนอราคาที่ต่ำกว่าซึ่งจะทำให้รัฐขาดทุนเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม แม้การประมูลจะเกิดขึ้นในรัฐบาลที่แล้วแต่เมื่อรัฐบาลชุดนี้มาบริหารงานตามหลักการเมื่อมีสินค้าที่ค้างในสต๊อครัฐบาลจำเป็นต้องรีบระบายสินค้าเพราะหากยังเก็บไว้จะเสียค่าเก็บสินค้ารวมไปถึงทำให้คุณภาพสินค้าเกษตรเสื่อมลงตามกาลเวลา แต่รัฐบาลจะต้องหาทางระบายสินค้าเหล่านั้นด้วยขั้นตอนที่โปร่งใส
"การเปลี่ยนจากการจำนำสินค้าราคาเกษตรมาเป็นการประกันราคานั้น เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องอธิบายให้ชัดเจนว่าเป็นการประกันในรูปแบบใด เพราะการประกันมีด้วยกัน 2 ประเภทคือการการันตี และการประกันความเสียหาย เพราะอาจจะทำให้เกษตรกรเกิดความสับสนได้ และหากมีการเปลี่ยนระบบเป็นเช่นนั้นจริงประโยชน์จะตกกับเกษตรกรหรือจะเป็นการไปซ้ำเติมแทน อย่างไรก็ตามพรรคเพื่อไทยจะติดตามเรื่องสินค้าราคาเกษตรอย่างใกล้ชิด" นายปานปรีย์กล่าว
ยุเลิกโครงการเช่ารถเมล์4พันคัน
นายปานปรีย์ ยังกล่าวถึงการผลักดันโครงการรถเมล์เอ็นจีวีว่า โครงการดังกล่าวควรจะยกเลิกไปก่อน เพราะสังคมตั้งข้อสงสัยในหลายประเด็น โดยเฉพาะกรณีที่รัฐบาลกำลังผลักดันโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าหลายสาย ซึ่งถือเป็นการเพิ่มระบบขนส่งทางเลือกใหม่ให้กับประชาชนอยู่แล้ว จึงตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดกระทรวงคมนาคมต้องการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี ในระยะเวลาถึง 10 ปี ทั้งนี้ หาก ครม.อนุมัติโครงการดังกล่าวไปจนในที่สุด ขสมก.ขาดทุน คนที่จะมีรับภาระหนี้สินก็คือรัฐบาลเองอยู่ดี
เมื่อถามว่าหากรัฐบาลยุติโครงการดังกล่าวอาจทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลเกิดความสั่นคลอน นายปานปรีย์กล่าวว่า เรื่องความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาลนั้นไม่สำคัญเท่ากับการรักษาผลประโยชน์ของชาติ ที่รัฐบาลต้องเป็นผู้ดูแลเงินทุกบาททุกสตางค์ของประเทศอย่างดี