ที่มา thaifreenews
พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี ไขปม"กฐินสามัคคี"โค่นบัลลังก์"ทักษิณ"
สัมภาษณ์ โดย จำนง ศรีนคร, อัครพงษ์ นครแก้ว (ที่มา มติชน )
"กลุ่มทุนเคยให้เงินพรรคการเมืองทุกพรรค แล้วถอนทุนคืนได้ แต่ปรากฏว่ามาให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ท่านไม่เอา ทำให้เกิดความคลางแคลงใจ เกิดความกลัว นำมาสู่การลงขันกัน..."
ถ้าเอ่ยถึง "เพื่อนตาย" พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เวลานี้คงเหลือไม่กี่คน
แต่ผู้ที่ยังยืนยงและคอยช่วยเหลือทั้ง "ยามสุขและทุกข์" มาตลอด เชื่อว่าต้องมีชื่อของ "บิ๊กเมธ" พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร (ตท.) 10 และเป็นคนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไว้ใจให้ "คุมกำลังรบ" ของกองทัพอากาศยุคก่อน 19 กันยายน 2549
พล.อ.อ.สุเมธ เกษียณอายุราชการเมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา
ด้วยความที่คลุกคลี "วงการเมือง" มาไม่น้อย ทำให้เจ้าตัวตัดสินใจเป็น "หัวหอก ตท.10" นำพาพวกพ้องพาเหรดเข้าพรรคเพื่อไทย
"มติชน" มีโอกาสพูดคุยกับ พล.อ.อ.สุเมธ ถึงมูลเหตุที่ตัดสินใจเดินบนถนนการเมือง และเงื่อนปมสำคัญที่ "เพื่อนรัก" ต้องประสบเจอ
สนใจงานการเมืองหรือไม่
สมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา เพราะเชื่อสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณทำเป็นสิ่งที่ดี และประชาชนจะอยู่ได้ รับราชการมาคิดว่าประเทศมีบุญคุณกับเรา เมื่อเกษียณยังมีกำลังช่วยบ้านเมืองได้ก็ยินดี แต่การเข้าไปเล่นการเมืองต้องดูว่าทำเพื่ออะไร คุยกับเพื่อนว่าเรามาทำความดีกัน หากทำไม่ดีมันตรวจสอบง่าย ยังไงก็ลงไม่สวย แต่ถ้าทำความดี ทำคุณกับประเทศชาติก็สบายใจ เชื่อว่าหากทำไม่ดียังไงก็ตรวจสอบได้ ชีวิตบั่นปลายก็ต้องมีปัญหาแน่นอน
จุดยืนการเมืองคืออะไร
คือการเข้าไปช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าไปช่วยพรรคเพื่อไทย เพื่อคงนโยบายพรรค โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ คิดว่าต่อไปนี้ต้องสู้กันที่เศรษฐกิจ ความอยู่ดีกินดีของประชาชน และเชื่อว่าคนที่ทำได้ คือ พ.ต.ท.ทักษิณ แม้ท่านจะไม่ได้เป็นนายกฯ แต่สามารถช่วยประสานต่างประเทศได้ เพราะมีเพื่อนฝูงมาก ใครเป็นนายกฯของพรรคเพื่อไทย ท่านก็เป็นที่ปรึกษา ประเทศไทยไม่ได้ใหญ่มาก หากหลายประเทศมารุมลงทุน ประเทศไทยก็ฟื้นได้ และคนที่ทำอย่างนี้ได้มีคนเดียว คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะนี้ประชาชนเริ่มแย่แล้ว ทำอย่างไรให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน สิ่งแรกคือแก้รัฐธรรมนูญ แล้วสร้างความยุติธรรม เพื่อให้คนกล้าเข้ามาลงทุน
เป้าหมายทางการเมืองหวังสูงถึงขั้นเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยหรือไม่
การจะเป็นอะไรในพรรคไม่เคยคิด ขอเพียงแค่ให้ได้ช่วยให้ได้ทำ ไม่ได้เข้ามาเพื่อล้างแค้น เอาคืน หรือหวังตำแหน่งอะไร ต้องการอยากให้ประเทศอยู่ดีกินดีเท่านั้น
พ.ต.ท.ทักษิณเคยบอกให้เพื่อน ตท.10 เข้ามาทำงานการเมืองหรือไม่
ท่านเคยพูดว่า เราหลายคนเป็นเด็กต่างจังหวัด การสอบเข้ามาในโรงเรียนเตรียมทหารได้ ถือว่าอยู่ในระดับหัวกะทิ ท่านเคยบอกให้รวบรวมเพื่อนให้มาช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ท่านเชื่อว่าเพื่อนมีความสามารถ ขณะนี้ก็มีหลายคนที่จะเข้ามา แต่อยู่ที่พรรคจะพิจารณา
ยุคหนึ่ง ตท.10 เคยถูกมองว่ายิ่งใหญ่ที่สุด แต่รัฐประหาร 19 กันยาฯ ทำให้ ตท.10 ตกต่ำที่สุดเช่นกัน
เรายอมรับอยู่แล้ว ถ้าเขาปฏิวัติเราก็ต้องตกต่ำ แต่ไม่เคยคิดอะไรและไม่เคยกลัว เป็นเรื่องธรรมชาติ ที่เสียใจคือประเทศไทยควรรุ่งโรจน์มากกว่านี้ ตท.10 ไม่กลัวอะไร อย่างน้อยก็มีเงินเดือน แต่ห่วงญาติพี่น้องไปไหนก็เจอคนอดอยาก แล้วเราจะสบายใจได้อย่างไร ด้วยความสัตย์จริงเรานึกอย่างนี้ตลอด ไม่ว่าจะบีบจะบี้ขนาดไหน เราก็ยังอยู่ในระดับปานกลาง แต่ชาวบ้านเดือดร้อนไม่รู้จะมีอะไรกินหรือไม่ เขาลำบาก
การเข้าพรรคเพื่อไทยของท่านถือเป็นสายตรง พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่
ส่วนใหญ่ก็เป็นสายตรงกันทั้งนั้น ผมเข้าไปเป็นสมาชิกพรรคเท่านั้น
มาร่วมทุกข์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ในเวลาที่คนอื่นถอยห่างถือว่าได้ใจกันหรือไม่
เป็นเพื่อนกันดูแลกันมาตลอด เขาช่วยเราในตำแหน่ง แม้เรามาตามไลน์ แต่ถ้าไม่ใช่นายกฯทักษิณ อาจจะผิดเพี้ยนไป เราฝังใจว่าท่านทำถูก โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ อยากเห็นประเทศกลับมาดีเหมือนเดิม นายกฯทักษิณเคยเล่าให้ฟังตั้งแต่ครั้งเล่นการเมืองใหม่ๆ ว่าหากท่านจะค้าขาย ไม่ต้องมาเล่นการเมือง พรรคไหนดีก็ให้ไปพรรคละ 500 ล้านบาท เขาก็สู้กันไป เขาชนะก็ทำการค้าขายได้ แต่มีผู้ใหญ่คนหนึ่งมาขอร้องท่าน ท่านไม่บอกว่าใคร เขาบอกว่าทักษิณช่วยบ้านเมืองหน่อย ยอมเสียเงินสักก้อนตั้งพรรคการเมือง ท่านก็รับปากตั้งพรรคการเมืองลงทุนไป 4,000 ล้านบาท ทั้งที่ไม่รู้ว่าจะได้คืนหรือจะได้เป็นหรือไม่ ก็เป็นการเสี่ยง แต่ถ้าเอาเงินให้แต่ละพรรคไม่ถึง 4,000 ล้านบาท ก็ทำได้ เหมือนที่บริษัทใหญ่ๆ เขาทำกัน
แต่จุดที่ท่านถูกกล่าวหาหรือถูกลงขัน เพราะการที่ พ.ต.ท.ทักษิณไม่รับเงินคนอื่น กลุ่มทุนเคยให้เงินพรรคการเมืองทุกพรรค แล้วถอนทุนคืนได้ แต่ปรากฏว่ามาให้ พ.ต.ท. ทักษิณ ท่านไม่เอา ทำให้เกิดความคลางแคลงใจ เกิดความกลัว นำมาสู่การลงขันกัน ท่านก็คิดไม่ถึง เพราะคล้ายว่าอยากเป็นอิสระไม่อยากให้ใครมาบีบ
แสดงว่า พ.ต.ท.ทักษิณถูกกลุ่มทุน ลักษณะกฐินสามัคคีทำให้หมดอำนาจ
(พยักหน้า) ตอนช่วงนั้นที่ถูกปฏิวัติ เพราะเขาเกิดความกลัว เขากลัวว่าทำไปแล้วครอบงำ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ แล้วเขาจะขออะไรไม่ได้ เพราะเขาเคยครอบงำการเมืองทุกพรรคได้ แต่พอเขาให้แล้วไม่รับ ก็เป็นสัญญาณว่าเขาครอบงำไม่ได้ ทำให้ท่านถูกมองเป็นตัวอันตราย จึงเกิดเช่นนี้ขึ้นมา ถือเป็นจุดที่ทำให้เขาเป็นอย่างนี้ ถามว่าทุกวันนี้กลุ่มทุนครอบงำหมดหรือไม่ สงครามหลายครั้งในต่างประเทศที่ประชาชนลุกฮือ คือ 1.เขาไม่ได้รับความยุติธรรม 2.ประชาชนอึดอัด จะปล่อยให้เป็นอย่างนั้นหรือ หากเขาอดอยากก็จะลุกฮือ ไม่ได้รับความยุติธรรมก็จะเกิดการต่อสู้ ขณะนี้เงินในประเทศกระจุกอยู่กับคนไม่กี่กลุ่ม ขณะเดียวกันคนก็จนลง แล้วจะให้เขาทำอย่างไร
เคยคุยกับผู้ใหญ่หลายคนว่า การปฏิวัติทำให้บ้านเมืองเสียหาย แต่สุดท้ายเขาก็ทำ ทุกคนรู้ว่าปฏิวัติแล้วประเทศเสียหายแต่ก็ทำ อาจจะเกิดความกลัวจะถูกโยกย้าย หรือมีแรงหนุนจากผู้ใหญ่ ในโลกนี้ไม่มีประเทศไหนปฏิวัติแล้วเจริญ ประเทศไทยตั้งแต่ปฏิวัติมาก็เสื่อมโทรมไปเรื่อย บ้านเมืองย่ำแย่มาตลอด ช่วงก่อนปฏิวัติ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นรัฐบาล ประเทศ กำลังจะก้าวหน้า ไม่ว่าในเอเชียหรือในโลก
ผ่านการรัฐประหาร 19 กันยาฯ 3 ปีการเมืองไทยได้อะไรบ้าง
ไม่มีอะไรดีขึ้น มีแต่แย่ลงทุกอย่าง เทียบประเทศเพื่อนบ้านเรายังแย่กว่า พูดได้ว่าการปฏิวัติไม่ใช่สิ่งที่ทำให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง การปฏิวัติทำสิ่งที่ไม่ควรหลายเรื่อง เช่น การออกกฎหมายย้อนหลัง ต่างชาติไม่ยอมรับ คนไทยเคยพูดว่าไม่กล้าจะไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน เพราะไม่รู้ว่าวันดีคืนดีจะริบเงินเรา ขณะนี้เป็นแล้วกับประเทศไทย แล้วใครจะกล้ามาลงทุน หากมาลงทุนโดนกฎหมายย้อนหลัง ริบเงินแล้วเขาจะทำอย่างไร คณะปฏิวัติทำอะไรหลายอย่างเพื่อต้อนนายกฯทักษิณคนเดียว ลงทุนทำจนบ้านเมืองย่อยยับหมด
ทุกวันนี้หลายคนทำความผิดอะไรก็ได้ แต่ไม่ผิด อีกฝ่ายทำอะไรก็เป็นความผิด ประชาชนเขารู้และเข้าใจ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร วันนี้ประชาชนไม่ได้ถูกหลอก แต่กำลังถูกโกง เขากำลังโกงประเทศ เขาทำให้เรารู้แต่จะทำอะไรเขาได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตั้งรัฐบาล หรือหลายเรื่อง เขาไปมาหาสู่กันได้ แต่พอพรรคเพื่อไทยทำก็ผิด
มองสภาพการเมืองไทยมีธงให้เดินไปในทิศทางที่ต้องการ
คงมีการตั้งธงมาระดับหนึ่ง แต่ถึงตอนนี้คงใช้ไม่ได้ เพราะความจริงปรากฏ แล้วการสื่อสารก็ทำให้ประชาชนรู้ คนไม่ได้โง่ คนเริ่มฉลาด เขารู้อะไรมากขึ้น คนที่ทำก็ไม่แคร์สังคม จะโกงจะทำอะไรไม่แคร์สังคม คนเริ่มรู้สึกต่อต้านมากขึ้น ดังนั้นก็จะไปไม่รอด ขณะนี้ประชาชนมีความรู้ แล้วมาดูถูกเขา ด้วยการทำอะไรก็ได้ ทำให้เขาไม่ยอมรับ มีทางเดียวคือต้องมาเริ่มต้นใหม่ มาคุยกัน แล้วทำการเมืองต่อไป ต้องทำให้ดี มีความยุติธรรม เพื่อบ้านเมือง เพราะการมาโกงมาหลอกกันทำไม่ได้แล้ว ประชาชนสามารถรับรู้ได้
ที่น่าเป็นห่วง คือ หากปล่อยไว้นานแล้วยังใช้ระบบนี้อยู่ ประเทศจะแย่ไปหมดแล้วแก้ไม่ได้ ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ของประเทศแย่ไปหมด เชื่อว่าหากปล่อยให้คาราคาซังอย่างนี้ ประเทศหมดแน่ เพราะหากเป็นอย่างนี้ใครจะมาลงทุน ถามว่านายกฯอภิสิทธิ์ (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี) ไปสหรัฐอเมริกาได้อะไรมาบ้าง ไม่ได้อะไรเลย หากได้อะไรคงตั้งโพเดียมแถลงไปแล้ว ไปมาหลายประเทศไม่เคยได้อะไรกลับมาเลย แล้วประเทศจะได้อะไร ขณะนี้ประชาชนลำบาก
แสดงว่าภาพลักษณ์ของไทยในสายตาโลกไม่น่าเชื่อถือ
ไม่น่าเชื่อถือ คิดดูเราไปลงทุนที่ไหนวันดีคืนดีมายึดของเรา ใครจะกล้าลงทุน มันไม่มีมาตรฐาน และความยุติธรรมแทนที่จะตัดสินบนตัวบทกฎหมาย แต่กลับใช้ความคิดเห็นส่วนตัวพิจารณา บางเรื่องทำบอกผิด บางเรื่องบอกไม่ผิด แต่คดีคล้ายกันทำให้เห็นชัดเจนมาก วันนี้ไม่ใช่ว่ามี 2 มาตรฐาน แต่ไม่มีมาตรฐานเลย สมัยคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ยึดอำนาจบ้านเมืองเสียหายน้อยกว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เพราะ รสช.เป็นระยะสั้นแล้วคืนอำนาจ และนายกฯชาติชาย (พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี) เป็นคนเรียบๆ ไม่ได้สร้างอะไร คนไม่กล่าวถึง ปฏิวัติแล้วท่านก็หายไป ไม่เหมือนกับนายกฯทักษิณ เพราะท่านสร้างอะไรให้คนไทยเยอะ ดังนั้น ปฏิวัติแล้วจะทำให้ชื่อเสียงหายไปเป็นไปไม่ได้ ช่วงปฏิวัติใหม่ๆ มีผู้ใหญ่พูดว่า เดี๋ยวคนก็ลืม เป็นไปไม่ได้ เขาคิดอย่างเดียวกับนายกฯชาติชาย ปฏิวัติแล้วก็จบกันไป แต่ประชาชนเขารู้ เขาได้อะไรจากนายกฯทักษิณเยอะ ทำให้ท่านอยู่มาได้ถึงวันนี้ หากไม่เคยทำความดีก็คงจบไปแล้ว
คมช.คิดง่ายเกินไป พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช. และอดีตผู้บัญชาการทหารบก ก็บอกว่าท่านมีอำนาจอยู่ 14 วัน มันมีอะไรนอกเหนือจากนั้นเข้ามา ถามว่าวันนี้ไล่บี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ทุกคณะกรรมการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเอาผิดท่าน แล้วลงโทษอะไรได้ ยังทำอะไรท่านไม่ได้ ได้มาคดีเดียว คือ ที่ดินรัชดาฯ เขางงกันหมด คนซื้อไม่ผิด คนเซ็นผิด ชาวบ้านเขารู้ ถ้าเขามีความผิดจริงวันนี้ติดคุกหลายคดีแล้ว ทำมา 3 ปี ไม่เห็นได้อะไร แต่คนที่ยืนเชิดหน้าอยู่ในปัจจุบัน หากไล่บี้เช่นเดียวกันไม่รู้ติดคุกกี่คดี
แต่คนมองว่าเหตุการณ์บ้านเมืองวุ่นวายส่วนหนึ่งเป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่หยุดเคลื่อนไหว
ไม่ใช่ คนทำงานหลายอย่างต้องมีผิดพลาดบ้าง แต่คนเอาเฉพาะข้อผิดมาพูดตลอด คนก็อิน อย่างเอเอสทีวีพูดว่าผิดตรงนั้นตรงนี้ แต่วนอยู่เท่านี้ ถามว่าผลรวมของประเทศเป็นอย่างไร เสียดายเวลา 3 ปี ต่างชาติและประเทศรอบบ้านยอมรับเราหมด ถนนทุกสายที่ พ.ต.ท.ทักษิณไปลงทุนสร้างมุ่งสู่บ้านเมืองเรา ทรัพยากรก็จะหลั่งไหลมาไทย แล้วเราจะเป็นฮับแทนสิงคโปร์ได้ สิงคโปร์ไม่มีอะไรยังทำได้ แต่ไทยถนนทุกสายเชื่อมหมด เพื่อนบ้านก็ยอมรับ ตอนนี้ไม่รู้เป็นเวรกรรมอะไร แต่ด้วยความที่ พ.ต.ท.ทักษิณทำหลายอย่างทำให้ไปขัดขา ถูกใจบางคน ซึ่งบางคนไม่ได้อย่างใจต้องการก็เลยโกรธ
รัฐบาลทักษิณ มีปัญหาหลายด้าน เหตุผลหนึ่งที่ คมช.อ้างคือความแตกแยก คิดว่าจริงหรือไม่
มองว่าทำหรือไม่ทำดีกว่าคงมองไม่ได้ เพราะไม่รู้รายละเอียด แต่ถ้าทำแล้วควรจะรีบคืนอำนาจให้กับประชาชน แล้วสร้างความยุติธรรม มีผู้ใหญ่ในกองทัพอากาศเรียกผมไปถามว่า การเมืองควรทำอย่างไร ตอนนั้นท่านเรียกมาหารือตอนตี 3 เวลานั้น คมช.กำลังจะเพลี่ยงพล้ำ ผมตอบว่าเมื่อท่านเป็นรักษาการประธาน คมช. ก็เรียกทุกพรรคการเมืองมา แล้วบอกให้เขาทราบว่า เราจะเลือกตั้งด้วยความยุติธรรม แล้วใครมาเป็นรัฐบาล ทหารก็จะกลับกองทัพ รัฐบาลก็ดูแลประเทศไป มาสู้กันด้วยการเลือกตั้ง ใครชนะก็เป็นรัฐบาล ทหารก็กลับกองทัพ อย่างนี้ทหารจะเป็นวีรบุรุษ แต่ก็ไม่ทำแล้วลากยาวกันมาถึงทุกวันนี้ เชื่อว่าแนวทางนี้ดีที่สุด วันนี้ความขัดแย้งยังไม่เปลี่ยนแปลงซ้ำรุนแรงกว่าเดิม
สิ่งที่ถูกหยิบมาต่อสู้ทางการเมือง คือ 1.การทุจริต 2.ความยุติธรรมในบ้านเมือง และ 3.สถาบันหลัก มองว่า 3 สิ่งนี้มีความอ่อนไหวทำให้คนไม่มีทางเลือกต้องมาสู้กันหรือไม่
ใช่ เรื่องทุจริตมีทุกสมัย ทุกรัฐบาล แม้แต่รัฐบาลปัจจุบันก็มี แต่จะควบคุมอย่างไร พูดตามตรงการค้าขายหากตรงไปตรงมา ประเทศไม่มีวันเจริญ อย่างเราเอาของไปค้าขายต่างประเทศ หากไม่มีเงินใต้โต๊ะ เขาก็ไม่ซื้อของเรา คู่แข่งเอาเงินมาให้เขาก็ซื้อของคู่แข่ง เป็นการทุจริตหรือไม่ ก็ใช่ แต่เป็นกลยุทธ์ที่ต้องทำให้ได้มาซึ่งการค้าขาย มองว่า พ.ต.ท.ทักษิณหวังดีต่อประเทศไทย แต่ไม่คิดรายละเอียด กฎหมายไทยเขียนไว้จุกจิกมาก แต่ท่านเป็นนักธุรกิจคิดว่าเรื่องนี้เสียเท่านี้ ควรได้เท่านั้น เป็นการคิดเร็วทำเร็วก็ไปขัดกฎหมาย แต่หากเชื่องช้าตามกฎหมายก็ไม่ทันกาล ค้าขายใครไม่ได้ สมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกฯไปต่างประเทศกลับมาจะตั้งโพเดียมชี้แจงว่าได้อะไรมาบ้าง ซึ่งได้ตามนั้นและต่างประเทศก็ยอมรับ คือ คนมีความตั้งใจ คิดเร็ว อยากให้ประเทศรุ่งเรืองมีเงิน ทำไปทั้งที่บางอย่างจะขัดกฎหมาย แต่ความตั้งใจดีมี
เรื่องความยุติธรรมขณะนี้ทำอะไรนิดก็ไม่ได้เป็นประเด็นหมด อย่างนายกฯสมัคร (นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี) ชิมไปบ่นไปก็โดนประเด็นจนต้องถอย แต่คนอื่นคล้ายกันกลับไม่ผิด เช่น บอกว่าเป็นอาจารย์ไปสอนหนังสือเป็นวิทยาฐาน แต่รับเงินค่าสอน นี่คืออะไร กี่มาตรฐาน ความยุติธรรมสำคัญมาก ภาคใต้เคยพูดกันตลอดว่าไม่ได้รับความยุติธรรม จึงเกิดปัญหาขึ้นมา แต่ขณะนี้มันเกิดขึ้นทั่วประเทศ หากไม่รีบปรองดองคงไม่ดี ความไม่ยุติธรรมเกิดขึ้นในประเทศ ทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมา
ประเด็นสถาบันหลัก ทุกคนไม่มีใครหรอก เราเป็นทหารเรารู้ และนายกฯทักษิณเคยคุยกับผมว่า ท่านเป็นนักเรียนทหารปฏิญาณเช้าปฏิญาณเย็นว่า ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่เคยคิดอะไรทั้งนั้น แต่คนพยายามจ้อง อะไรนิดก็มาปั้นแต่ง เอาไปเปรียบเทียบ ซึ่งไม่ใช่ พระองค์ท่านไม่มีใครกล้าคิดเช่นนั้นไม่มีทาง มีแต่คนที่รักพระองค์ท่าน ซึ่งทรงตรากตรำทำงานมาตลอด
ประเด็นหลักหนึ่งที่โจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ คือ ความไม่จงรักภักดี
(สีหน้าขึงขัง) ความจริงคือขณะนี้ใครทำอะไรที่ไม่เห็นด้วยกับเขา คือ ความไม่จงรักภักดี ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ถามว่าคนที่จงรักภักดีควรเอาสถาบันลงมาแปดเปื้อนหรือไม่ มีอะไรก็อ้างสถาบันตลอด เขาเอาข้ออ้างนี้มาตลอด ยืนยันได้ว่านักเรียนเตรียมทหารทุกคน ผ่านการปฏิญาณตนกันมา ผ่านการสวนสนามกันมา ไม่มีทาง ผมผ่านการเป็นทหารราชองครักษ์มา 24 ปี อยู่สวนสนามเป็นผู้พันในทหารรักษาพระองค์อยู่ 2 ปี ดังนั้น ทุกคนจงรักภักดีทั้งนั้น
เวลานี้การต่อสู้ของ พ.ต.ท.ทักษิณต้องการอะไร
ท่านห่วงประชาชน ห่วงบ้านเมือง ส่วนความคิดว่าไม่ได้รับความยุติธรรม ท่านก็คงคิด แต่แก้แค้นคงไม่มี เพราะแก้แค้นไปก็ไม่รู้จักจบ ท่านคงมีบทเรียนหลายอย่าง คือ ท่านทำเพื่อประชาชน แต่กลุ่มทุนพยายามกดท่านอยู่ ท่านไม่ได้คิดตรงนั้น คิดเพียงประชาชนอยู่ดีกินดี
พ.ต.ท.ทักษิณรู้ว่ากลุ่มทุนอยู่เบื้องหลังการเมือง ทำให้เป้าต่อสู้เวลานี้คือเดินเกมไปสู่การปฏิวัติโดยคนเสื้อแดง
ไม่ใช่ปฏิวัติโดยประชาชน แต่ถ้าประชาชนมีความคิดอย่างนี้ก็เป็นอีกเรื่อง
แล้วประเทศไทยเวลานั้นจะเป็นอย่างไร
เราไม่ได้มุ่งถึงจุดนั้น เรามุ่งให้ความรู้คนเสื้อแดง ใช้วิธีให้คนเสื้อแดงมาชุมนุม แล้วให้ความรู้ทั้งโฟนอินหรือพูด เพื่อให้เขากลับไปกระจายแนวคิด เราต้องสู้ทางนี้ให้ประชาชนรู้ข้อเท็จจริง ไม่ใช่เพื่อปฏิวัติโดยคนเสื้อแดง แต่เพื่อมีการเลือกตั้งแล้วคนจะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ผมให้แนวคิดนี้แก่แกนนำเสื้อแดงไปแล้วว่า การชุมนุมจากนี้ไปอย่ามาชุมนุมยาว เพราะมาหลายวันประชาชนเดือดร้อน ให้มาแค่วันเดียวจบ เราให้ความรู้แล้วเขานำไปกระจาย คนรู้ว่ามาวันเดียวก็จะมา เพราะใจรักอยากมา แต่มาลำบากเขาก็ไม่มา และบนเวทีต้องพูดข้อเท็จจริง อย่าพูดในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง มีอะไรต้องกลั่นกรองก่อนที่จะไปบอกนายกฯทักษิณ อย่างเหตุการณ์สงกรานต์ไปบอกท่านว่ามีคนตาย พอไม่ตายท่านก็เสียหาย
นี่เป็นแนวทางการต่อสู้จากนี้ไป แล้วมาต้องอยู่อย่างสันติ อย่าไปทำให้เกิดเงื่อนไขให้เขาใส่ร้ายคนเสื้อแดง แล้วเกิดความชอบธรรมในการปราบปราม วันนี้เสื้อแดงพูดความจริงก็พอ เพราะรัฐบาลมีรอยร้าวกันเยอะ ผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์เขาก็คิดกันเยอะเวลานี้ ว่าเหมือนพายเรือให้โจรนั่งมาระยะหนึ่งแล้ว เขาเป็นพรรคเก่าแก่คิดดีต่อบ้านเมืองก็มี ผู้ใหญ่ในพรรคเขาก็ไม่แฮปปี้ในเวลานี้
ทางออกต้องมาเจรจาสมานฉันท์อย่างที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี สะท้อนเจตนารมณ์
การนำ พล.อ.ชวลิตเข้ามาเป็นการผ่อนคลายสถานการณ์ และท่านต้องให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่มีการแก้แค้น เพราะแก้แค้นไม่ได้เด็ดขาดจะสร้างปัญหาต่อไปอีก ครั้งแรกทุกคนคิดว่ากำจัดนายกฯทักษิณได้ แล้วเขาก็ครอบงำต่อไป เขาคิดว่ากำจัดนายกฯทักษิณได้ รูปแบบเดิมก็กลับมา แต่ตอนนี้ทำไม่ได้ก็ต้องหาทางลง แล้วจะลงมาอย่างไร เขารู้ว่าทำอะไร พ.ต.ท. ทักษิณไม่ได้ ต้องค่อยๆคุยกันแล้วจูนให้ตรงกัน อย่างไรก็ต้องปรองดอง หากไม่ปรองดองเขาก็อยู่ไม่ได้ ขณะนี้เสื้อแดงกำลังโตขึ้น บรรยากาศการเมืองขณะนี้ หากฝ่ายหนึ่งสงบ ฝ่ายหนึ่งก็หยุด ทุกวันนี้ต่างคนต่างสาดน้ำใส่กัน หากทั้งสองฝ่ายหยุด มันก็จบ แต่ถ้าเราหยุดโดยปล่อยเขาทำตลอด มันก็ไม่ได้ แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งมันก็ต้องหยุดกัน จุดหลักคือโกหกและโกงประชาชนไม่ได้แล้ว
ขอบคุณที่มา มติชน