ที่มา ไทยรัฐ
ที่ประชุม ครม.ที่ผ่านมา คุณกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลังได้เสนอกรอบวงเงินลงทุนตาม แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง เพิ่มขึ้นอีก 2.4 แสนล้านบาท จากเดิมที่เคยอนุมัติไป แล้ว 1.06 ล้านล้านบาท
ทำให้กรอบวงเงินในโครงการไทยเข้มแข็งเพิ่มขึ้นเป็น 1.3 ล้านล้านบาท
โครงการไทยเข้มแข็งที่ว่า ไม่ค่อยจะเห็นเป็นรูปธรรมเท่าไหร่ แต่ที่เห็นกันจะจะก็คือ โครงการเศรษฐกิจชุมชนพอเพียง ที่ฉาวโฉ่อยู่ในขณะนี้
สารพัดทุจริต
ฟังการแก้ตัวของคนในรัฐบาลแล้วพะอืดพะอม ยังไม่มีการทุจริตบ้าง รู้ตัวคนโกงแล้วบ้าง ไล่คณะที่ปรึกษาออกไป แล้วบ้าง เตรียมลงโทษอย่างนั้นอย่างนี้
ก็ยังเห็นลอยนวลอยู่ดี
ประเภทจะแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก เห็นจะรอชาติหน้าตอนบ่าย เอาแค่คำว่าขอโทษก็ไม่เคยได้ยินจากปากรัฐบาลชุดนี้ เพราะถือหลักการสร้างภาพ ถ้ายอมรับผิดก็จะเป็นการขัดกับหลักการสร้างภาพไปฉิบ เห็นความแตกต่างของมาตรฐานความรับผิดชอบและการตรวจสอบชัดเจน
ดีใส่ตัว ชั่วใส่คนอื่น
ทุจริตกันชนิดกลางวันแสกๆ ปล้นจากกระเป๋าชาวบ้านตรงๆอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แทนที่งบประมาณจะถึงมือของชาวบ้าน ในรูปของผลกประโยชน์หรือเม็ดเงิน ถูกดูดเอาตั้งแต่ต้นทางจนเกลี้ยง
พันธุ์ข้าวยังโกงชาวนา
แทนที่จะคิดรับผิดชอบหรือระงับโครงการ กลับยิ่งทุ่มเทเม็ดเงิน เข้าโครงการไม่หยุด เงินเหล่านี้ก็คือภาระที่ชาวบ้านจะต้องรับผิดชอบ โดยเฉลี่ยต่อคนต่อหัวของประชากรทั้งประเทศ ประชาชนซวยสองต่อ โดนโกงด้วยแล้วต้องมาตามใช้หนี้อีกต่างหาก
สองเด้ง
เห็นว่าเงินจำนวนดังกล่าวจะนำไปใช้ใน โครงการประกัน ราคาพืชผลการเกษตร ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท สมทบงบประมาณ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อีก 2.3 หมื่นล้านบาท รวมทั้งโครงการเศรษฐกิจสร้างสรรค์และโครงการอื่นๆ ห้ามกะพริบตา
สัปดาห์หน้าก็จะขอใช้เงินตาม พ.ร.ก.กู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ อีก 1.5 แสนล้านบาท รวมเป็นการใช้จ่ายตาม พ.ร.ก. ฉบับนี้ไปแล้ว 3.5 แสนล้านบาท
หนี้ทั้งนั้น
เคยเกริ่นไปแล้วว่า ให้จับตาดูนโยบายไทยเข้มแข็งให้ดี ประชาชนเข้มแข็งหรือรัฐบาลนักการเมืองเข้มแข็ง สรุปแล้วชีวิตคนไทยวันนี้ก็ยังไม่พ้นวังวน โง่ จน เจ็บอยู่ดี ถูกจับเป็น ตัวประกันทั้งปีทั้งชาติพับผ่า.
หมัดเหล็ก