WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, October 16, 2009

หยิบ! มาเสียบ เหยียบเบรกติดลบ

ที่มา บางกอกทูเดย์

ปรับคณะรัฐมนตรีกำลังแรงแซงรถไฟตกราง.. เพราะมันคือ“ฉนวน” ความขัดแย้งที่จะมีความแรงระดับกระตุกขานายกรัฐมนตรีไตรรงค์ สุวรรณคีรี - แม้จะเป็นบุคคลที่รักและนับถือจากคนประชาธิปัตย์ แต่การเข้ามาเป็น1 ใน ครม. ก็ทำให้หลายคนตาขวางโดยเฉพาะ ส.ส. ที่จ่อคิวรอ “โควตา”ด้วยความหวังการปูพรมแดงให้ไตรรงค์เดินครั้งนี้ก็ทำเอาประชาธิปัตย์ร้อนระอุทีเดียว..การโยก กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ จากรองนายกรัฐมนตรีไปนั่งเก้าอี้เลขาธิการนายกฯ แทน นิพนธ์ พร้อมพันธุ์ที่จำนนต่อ “ความดื้อ” จนต้องลาออกแบบไม่สนใจ “แรงยื้อ” คือกรรมวิธีการคัดกรองที่น่า “หดหู่”เพราะการปรับเปลี่ยนครั้งนี้เกิดขึ้นด้วยความไม่เต็มใจ ท่ามกลาง ความไม่พอใจฉะนั้น..การปรับคณะรัฐมนตรีแต่ละครั้งจึงมีคำถามว่าการปรับครั้งนี้จะแค่ “ดี” หรือ “ดีแตก”เพราะเพียงเสียงแว่วๆ กับการวิเคราะห์ทำให้หลายฝ่าย ลมออกหู...ส่งผลให้เกิดการกำหนด“วัน เวลา” เพื่อปรับ ครม. ขนานใหญ่อีกครั้งไม่เกินปลายปี 2552หวังเขย่าขาเก้าอี้นายกฯ ผู้ชอบลองของและท้าพิสูจน์รับรู้กันมานานและยอมรับกันเป็นธรรมเนียมแล้วว่า มาตรฐานการเป็นรัฐมนตรีต้องมี “แบ็คหนา”เป็นความสามารถเฉพาะตัวการตั้งทีมงาน - ในการบริหารประเทศแต่ละครั้งจึงเป็นที่มาของคำถามที่ว่า รัฐมนตรีรู้ “ปัญหาของชาต”ิ และร ู้“ปญั หาของตวัเอง”ดีแค่ไหน?ในที่สุดก็ต้องมีการโยกย้ายปรับกันใหม่ เพราะหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบสวนทางกับ

ความสามารถกระทั่งประชาชนลุกฮือ ประกาศ“ไม่เอา” และถ้ารัฐบาลยัง “รั้ง”ก็ต้อง “จบเห่” ยกทีมเวลานี้มีการปรับ ครม.ขนาดเล็กเพียงการดึง “ไตรรงค์ สุวรรณคีรี” เข้ามามีบทบาทเบื้องหน้าในรัฐบาลอภิสิทธิ์ในตำแหน่ง รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจแม้จะมีเสียง “ทัดทาน” จากภาคเอกชน ที่ออกมากระตุกขาเก้าอี้แสดงความไม่มั่นใจให้ “ไตรรงค์”มากุมบังเหียนเศรษฐกิจ ในวันที่มรสุมเศรษฐกิจรุมเร้า ทั้งปัจจัยภายในและภายนอกแต่ด้วยดีกรีปริญญาเอกด้านเศรษฐศาสตร์จากสหรัฐอเมริกาพ่วงประสบการณ์จากตำแหน่ง รมช.คลัง รมว.อุตสาหกรรม และ รมว.แรงงานและสวัสดิการสังคมบวก ลบ คูณ หารแล้วก็ทำให้ภาคเอกชนบางส่วนเห็นว่าอาจจะเป็นประโยชน์กับรัฐบาล ซึ่งอาจจะมีอะไรดีขึ้นอย่างไรก็ตาม ระบบเศรษฐกิจ คือปัญหาที่คณะรัฐมนตรีทั้งคณะต้องร่วมกัน “รับผิดชอบ” สิ่งสำคัญ คือต้องรู้จัก “บริหารจัดการ” ปัญหาเศรษฐกิจให้ “ถูกทาง” ไม่ใช่ “หลงทาง”เวลานี้ประชาชนส่วนใหญ่มองว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์ เลือกทำในสิ่งที่ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน เลือกอนุมัติงบประมาณแบบ “ฟุ่มเฟือย” ให้กับโครงการที่ เบรกได้แต่ไม่เบรกรัฐมนตรีบางคนเสียเวลากับงานที่ไม่ควรทำ ส่วนงานที่ควรทำนั้นไม่ทำ เพราะไม่รู้จักการจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วนอย่างไรก็ดี มีรัฐมนตรีบางคนเท่านั้นที่ทำงานเข้าตาประชาชนรัฐบาลจะตำหนิประชาชนก็คงไม่ถูก เพราะ “ประชาชนพูดจากสิ่งที่พวกเขาเห็น” เขามองว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่มีผลงานเท่าที่ควรจะเป็นหรือเท่าที่พวกเขาหวังจะให้เป็นเขาจึงพูดและแสดงออกเช่นนั้นกระจิบกระจอกข่าวจากทำเนียบ!- รายงานว่า หลังปรับตำแหน่งล่องหนให้มีตัวตนจับต้องได้แล้วนายกรัฐมนตรีจะเดินหน้าเต็มที่เราก็ลุ้นกันต่อไปอีก 2 เดือน..จะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ที่ท่านประกาศไว้ว่าจะ สมานฉันท์กับโจรเพราะท่านเลือกใช้ดอกไม้มิใช่กระบอกปืนอย่างไรก็ตาม คณะรัฐมนตรีต้องเริ่มจาก ปรับ “วิธีคิด” และ“วิธีการทำงาน” ให้สอดคล้องกับ“สถานการณ์”หากยังแกว่งไกวเหมือนเดิม..ต่อให้เพิ่มนายกรัฐมนตรีอีก 4 คนและตั้งรัฐมนตรีเพิ่มอีกเท่าไร งานก็คงไม่เข้าตาประชาชนเหมือนเดิม 