WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, October 15, 2009

ผลสอบ"สธ."-ทุจริตเข้มแข็ง?

ที่มา ข่าวสด

รายงานพิเศษ




เดชา สังขวรรณ / อภิศักดิ์ ธีระวิสิษฐ์
แม้กระทรวงสาธารณสุขจะแถลงผลสอบเบื้องต้นกรณีทุจริตจัดซื้อครุภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ในโครงการไทยเข้มแข็ง ยอมรับว่ามีมูลการกระทำผิด

แต่สังคมยังไม่หายคลางแคลงใจ

นอกจากไม่มีนักการเมืองเกี่ยวข้องตามที่กลุ่มแพทย์ชนบทเปิดชื่อชงข้อมูลให้นายกฯ ด้วยตัวเองแล้ว ในส่วนของข้าราชการที่ติดร่างแหซึ่งถูกปกปิดชื่อเพื่อป้องกันปัญหาการฟ้องร้อง ก็สาวไม่ถึงระดับบิ๊ก

จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมา โดยเฉพาะจากกลุ่มนักวิชาการและภาคสังคมที่เกาะติดเรื่องนี้



เดชา สังขวรรณ

อาจารย์คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์

ม.ธรรมศาสตร์



ปัญหาใหญ่ของบ้านเราเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างในระบบราชการเป็นธรรมเนียมปฏิบัติไปแล้ว ไม่เป็นไปตามธรรมาภิบาลมาตรฐานของนานาชาติ ไทยไม่ได้ลงนามเข้าเป็นสมาชิกกลุ่มประเทศระดับสากล

การจัดซื้อจัดจ้างของกระทรวงสาธารณสุขเป็นเรื่องผลประโยชน์ของผู้มีอำนาจทางการเมือง สาวถึงตัวผู้เป็นต้นตอการทำผิดยาก ตราบที่ไม่ใช้หลักธรรมาภิบาลสากลในการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์ต่างๆ

ส่วนใหญ่คนที่ทำมาหากินกับหน่วยงานมีช่องทางไม่ให้สาวถึงผู้ใหญ่อยู่แล้ว ทำถูกระเบียบหมด จึงเอาผิดจริงได้เฉพาะคนที่เป็นข้าราชการหรือระดับล่างเท่านั้น

ปัญหาทุจริตแก้ยาก แม้รัฐบาลประกาศว่าจะบริหารประเทศโปร่งใส ไม่คอร์รัปชั่น แต่ระบบการเมือง นักการเมืองยังเหมือนเดิม เข้ามาแสวงประโยชน์ทางการเมือง เป็นวิธีการเข้ามาแล้วเอาคืน

วัฒนธรรมการเมืองแบบนี้แก้ยาก ต้องใช้เวลา ทุกรัฐบาลเริ่มเข้ามาก็จะปราบคอร์รัปชั่นในวงราชการ แต่งบประมาณแผ่นดินทำกันมาเป็นระบบค่อนข้างแกะออกยาก ต้องรื้อระบบใหม่ เอามาตรฐานการจัดซื้อจัดจ้างใหม่เข้ามา ต้องมีกฎหมายควบคุมทุจริตการจัดซื้อจัดจ้าง

สังคมรู้อยู่แล้วเรื่องทุจริต ศรัทธาต่อนักการเมืองแทบไม่มี ไม่ว่ารัฐบาลชุดไหน การกู้ศรัทธาในตัวนักการเมืองลำบากขึ้น

น.พ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ / น.พ.วชิระ บถพิบูลย์ / รสนา โตสิตระกูล


ยิ่งช่วงไทยเราก้าวสู่การเมืองแบบธุรกิจการเมือง ใช้เงินทองเข้าสู่ตำแหน่ง ยิ่งทำให้สังคมประชาชนไม่มีความไว้วางใจนักการเมืองมากขึ้น



อภิศักดิ์ ธีระวิสิษฐ์

อาจารย์คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์

ม.ขอนแก่น



การทุจริตสามารถตัดตอนไม่ให้ถึงตัวนักการเมืองได้ เพราะกระบวนการทุจริตยังสาวไปไม่ถึง แต่ความจริงมีใบสั่งให้ทำอยู่แล้ว

โครงการที่รัฐบาลทำแม้จะผิดหรือไม่ผิดมาถึงนักการเมืองชัดๆ แต่มีแนวโน้มว่าจะเกิดความไม่โปร่ง ใส คนที่ริเริ่มโครงการหรือรัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบออกมาอย่างใดอย่างหนึ่ง

ระบบการทำงานควรให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าไปมีส่วนแสดงความคิดเห็น ร่วมพัฒนากระบวนการจัดซื้อจัดจ้างให้ชัดเจน เกิดความโปร่ง ใส

หน่วยใหญ่ที่ติดต่อกับการเมืองคือราชการ ต้องทำให้มีระบบโปร่ง ใส ที่ผ่านมาตั้งแต่ตำแหน่งปลัดกระทรวง อธิบดี มันก็มีนอกมีในไม่โปร่งใส เมื่อเข้ามาถ้ามีช่อง มีโอกาสก็จ้องหาประโยชน์กันอยู่แล้ว

คนในสังคมรู้อยู่ว่าเรื่องทุจริตไม่โปร่งใสมีนอกมีในมีมาแต่ไหนแต่ไร ถ้าจะทำให้โปร่งใส ต้องให้หลายภาคส่วนช่วยกันตรวจสอบกระบวนการด้วย



น.พ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ

รองประธานชมรมแพทย์ชนบทภาคใต้



กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างครั้งนี้เป็นการเตรียมความพร้อมครั้งใหญ่หลังจากได้งบ 86,000 ล้าน โดยเตรียมการอย่างดี เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีคนสั่งการ ข้าราชการประจำไม่กล้าทำเพียงลำพัง ต้องมีฝ่ายการเมืองเกี่ยวข้อง

ในการสอบสวนชี้ตัวผู้กระทำผิด ทีมสอบสวนซึ่งเป็นข้าราชการประจำอาจรู้ข้อมูลเชิงลึกแต่ไม่กล้าพูดหรือสาวต่อ เกรงจะกระทบเสถียรภาพของรัฐบาล

ต้องหาบุคคลที่กล้าหาญ มีความน่าเชื่อถือจากสังคมมาสอบสวน หากนายกฯ จริงจังควรตั้งคณะกรรมการด้วยตนเอง หากตั้งโดยนักการเมืองที่ยังอยู่ในกระทรวงอาจไม่เหมาะสม

เนื่องจาก รมว.สาธารณสุข รวมถึง รมช.สาธารณ สุข อาจต้องเข้าให้ปากคำด้วย หากใช้กระบวนการดังกล่าวจะสามารถชี้มูลให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการต่อได้

การทุจริตครั้งนี้ถือว่าเกิดขึ้นแล้ว แต่ยังอยู่ในขั้นเตรียมการ มีข่าวก่อนที่การกระทำผิดจะสมบูรณ์ ไม่เชื่อว่าจะมีข้าราชการประจำทำเพียงลำพังโดยไม่มีใบสั่ง เป็นห่วงว่าต่อจากนี้อาจมีการหาแพะข้าราชการประจำเพื่อตัดตอนการทุจริต

เมื่อการสอบสวนทราบว่าการจัดรายการครุภัณฑ์เป็นไปอย่างไร้ประสิทธิภาพ แม้ไม่ใช่ความผิดทางวินัย แต่จำเป็นต้องมีคนรับผิดชอบในระดับนโยบาย ควรตั้งคณะกรรมการอีกชุดเพื่อทบทวนรายการทั้งหมดอีกครั้ง



น.พ.วชิระ บถพิบูลย์

อดีตประธานชมรมแพทย์ชนบท



ผลการสอบสวนเบื้องต้นถือว่าน่าพอใจ คณะกรรมการยอมรับว่ามีมูลการกระทำความผิดจริง ทั้งเรื่องครุภัณฑ์บางชิ้นที่ไม่สามารถสรุปคุณประโยชน์ได้แต่กลับจัดสรรลงไปให้กับพื้นที่

อย่างเครื่องทำลายเชื้อโรค (ยูวี-แฟน) หรืออีก 2-3 รายการที่ไม่มีความจำเป็นแต่กลับจัดสรรลงพื้นที่

รวมถึงเครื่องตรวจนับเม็ดเลือดและเครื่องตรวจหาสารเคมีในเม็ดเลือด ความจริงไม่มีการใช้เครื่องดังกล่าวแล้ว ตั้งราคาไม่สอด คล้องกับยุคสมัย เครื่องดังกล่าวมีการให้บริการจากบริษัทเอกชนโดยไม่จำเป็นต้องซื้อ

การหาตัวบุคคลผู้กระทำผิดเป็นเรื่องจำเป็นที่รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขต้องทำต่อไปเพื่อตอบคำถามสังคมให้ได้ ไม่ใช่บอกเพียงว่ากระ บวนการยังไม่เกิดทุจริตเพราะยังไม่มีการจัดซื้อจัดจ้าง

ครั้งนี้เป็นการเตรียมการเพื่อจะนำไปสู่การทุจริต ไม่มีการทักท้วงก่อนดำเนินการเสร็จ การปรับเปลี่ยนน่าจะเป็นประโยชน์ เชื่อว่ากระทรวงสาธารณสุขและรัฐบาลเฉียบขาดพอในการจัดการกับปัญหา

เห็นด้วยกับการตั้งคณะกรรมการที่เป็นคนนอกเข้ามาสอบสวนและชี้ตัวผู้กระทำผิด เพราะไม่ได้เป็นผู้บังคับบัญชาของข้าราชการที่ยังอยู่ในกระทรวง ไม่ต้องกังวลข้อครหาว่ากลั่นแกล้งหรือมีผลประโยชน์กับใคร

การตั้งคณะกรรมการที่มีความน่าเชื่อถือจะสามารถลบข้อครหาเรื่องความโปร่งใสได้

ใครที่เป็นผู้เตรียมทุจริตดังกล่าว ไม่ว่าข้าราชการประจำ ข้าราชการเกษียณ หรือนักการเมือง ต้องรับผิดในสิ่งที่กระทำ



รสนา โตสิตระกูล

ส.ว.กทม.

เรื่องการทุจริตเราเคยเตือนรัฐบาลมาก่อนแล้วว่าให้รู้จักอดทน อดกลั้น และทนอด หากเกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นรัฐบาลจะอยู่ไม่ได้

กรณีงบโครงการไทยเข้มแข็งจำนวนเป็นแสนล้าน วุฒิสภาเคยเสนอระหว่างการแก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.กู้เงินว่า การนำเงินไปใช้ต้องตรวจสอบก่อนว่ารายละเอียดมีอะไรบ้าง ไม่ใช่เพียงแจ้งเพื่อรับทราบ ต้องตรวจสอบโดยผ่านสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อความโปร่งใส

รัฐบาลและรัฐ มนตรีกลับไม่ทำตาม ต่างสงวนความเห็น ไม่เห็นด้วยกับการชี้แนะของวุฒิสภา การอ้าง 6 หมื่นโครงการ สตง.คงตรวจสอบไม่ไหว จึงไม่ใช่ประเด็น

การทุจริตที่ทยอยออกมาเป็นดอกเห็ด เมื่อถูกจับได้รัฐบาลอยู่ลำบากแน่ พรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลเพราะประชาชนให้โอกาส ถ้าให้โอกาสแล้วยังทุจริตอีก รู้จักคำว่าอดไม่เป็น รัฐบาลก็อยู่ไม่ได้

ก่อนหน้านี้เป็นเรื่องชุมชนพอเพียง ตามด้วยกระทรวงคมนาคม ล่าสุดเป็นการทุจริตในกระทรวงสาธารณสุข ถ้าพบการทุจริตโดยหลักการแล้วรัฐมนตรีต้องแสดงรับผิดชอบ ไม่ใช่ไล่จับลูกน้ำหรือไล่จับข้าราชการอยู่อย่างนี้

นายกฯ ต้องกล้าตัดสินใจ เร่งจัดการกับตัวรัฐมนตรีหรือนักการเมืองที่อยู่เบื้องหลัง ไม่ใช่ปล่อยให้ลอยตัวอย่างนี้ การทุจริตขยายไปทุกหย่อมหญ้าแล้ว นายกฯ ไม่ร้อนก้นบ้างหรือ

กระแสประชาชนเริ่มเบื่อหน่ายแล้ว อย่าคิดว่าเขาไม่มีทางเลือก วันนี้ประชาชนให้โอกาสทำงานไม่ใช่ให้มาคอร์รัปชั่น