เลือกตั้งส.ข. 14 เขตกทม. พรรคประชาธิปัตย์ ชนะยกทีมทั้งหมด 10 เขต เพื่อไทย ชนะยกทีม 3 เขต เขตมีนบุรี ประชาธิปัตย์ได้ส.ข. 4 คน เพื่อไทยได้ส.ข. 3 คน รวมส.ข.105 คน ประชาธิปัตย์ได้ 79 คน เพื่อไทย 26 คน...
6 มิ.ย. นายทวีศักดิ์ เดชเดโช รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาเขต (ส.ข.) ทั้ง 14 เขต มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งสิ้น 1,450,957 คน ออกไปใช้สิทธิใน 2,100 หน่วยเลือกตั้ง มีผู้มาใช้สิทธิ 542,955 คน หรือมีผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งคิดเป็นร้อยละ 37.42% มากกว่าครั้งที่แล้วคิดเป็นร้อยละ 2.03 โดยมีผู้ครั้งที่ผ่านมา 35.39 ส่วนผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนทั้งหมด 37,408 คิดเป็นร้อยละ 6.89 บัตรเสีย 26,668 คิดเป็นร้อยละ 4.91 ลดลงจากเดิมร้อยละ 0.03 จากเดิม 4.94 โดยเขตคันนายาวมีผู้มาใช้สิทธิมากที่สุด ร้อยละ 45.69 รองลงมาเป็นเขตหลักสี่ ร้อยละ 41.62 และเขตสะพานสูง ร้อยละ 39.88 ส่วนเขตที่มีผู้มาใช้สิทธิน้อยที่สุดคือ เขตจตุจักร ร้อยละ 33.30
นายทวีศักดิ์ กล่าวต่อว่า สรุปผลการเลือกตั้ง 14 เขต พรรคประชาธิปัตย์ ชนะยกทีมทั้งหมด 10 เขต ได้แก่ ลาดพร้าว บึงกุ่ม วังทองหลาง สะพานสูง หลักสี่ บางเขน จตุจักร สายไหม คลองสามวา และบางกะปิ ส่วนพรรคเพื่อไทย ชนะยกทีม 3 เขต ได้แก่ คันนายาว ดอนเมือง และลาดกระบัง ส่วนเขตมีนบุรี ประชาธิปัตย์ได้ส.ข. 4 คน เพื่อไทยได้ส.ข. 3 คน รวมส.ข.105 คน ประชาธิปัตย์ได้รับการเลือกตั้งส.ข. 79 คน เพื่อไทย 26 คน
ด้านน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กรุงเทพ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การเลือกตั้งส.ข.ในวันนี้ ได้รับแจ้งจากประชาชนว่า พบความผิดปกติในหลายพื้นที่ โดยเขตสายไหม ซึ่งเป็นพื้นที่ของตน พบว่าประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่ได้รับหนังสือแจ้งให้ไปใช้สิทธิเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา รวมทั้งพบว่ามีการย้ายหน่วยเลือกตั้งโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า บางหน่วยไกลออกไปจากหน่วยเลือกตั้งเดิม 4-5 กิโลเมตร ประชาชนตามไปใช้สิทธิก็ไม่พบรายชื่อเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เมื่อสอบถาม เจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าต้องไปใช้สิทธิที่หน่วยใด ทำให้มีประชาชนจำนวนมากใช้สิทธิไม่ได้ และต้องกลับบ้านไป
ขณะที่นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.กทม. ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งส.ก.และส.ข. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวขอบคุณประชาชนทั้ง 14 เขตของกรุงเทพมหานคร ที่ไว้วางใจเลือกผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ ในการเลือกตั้งส.ข.ถึง 10 เขต ซึ่งถือว่ามากที่สุดเป็นประวัติการณ์ของการเลือกตั้งส.ข.ในรอบเกือบ 20 ปี ทั้งนี้แม้ประชาชนจะไม่ได้เลือกผู้สมัครของพรรค ก็ถือเป็นการแสดงออกถึงการสนับสนุนการปกครองระบอบประชาธิปไตย อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งครั้งนี้ ยังไม่สามารถบ่งชี้ได้ว่า พรรคประชาธิปัตย์มีความพร้อมลงสนามเลือกตั้งสมาชิก สภาผู้แทนราษฎร ในอนาคตหรือไม่ เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ผู้สมัครของพรรคทำงานหนักตลอดระยะเวลากว่า 4 ปี ประกอบกับมีคนรุ่นใหม่ลงสมัครในสังกัดของพรรคครั้งนี้ รวมทั้งประชาชนให้ความไว้วางใจในพรรคประชาธิปัตย์ด้วย