ที่มา ข่าวสด
คงไม่มีคำไหนเหมาะกับสถานการณ์ตอนนี้เท่ากับคำว่าสมคบคิด หรือสมรู้ร่วมคิดอีกแล้ว
เพราะเหตุการณ์ตั้งแต่การสลายม็อบจนมีคนตายเฉียดร้อย บาดเจ็บอีกนับพัน โดยที่หน่วยงานต่างๆ ของรัฐ ต่างประสานเป็นเสียงเดียวกันว่า
ล้วนเป็นฝีมือ "ผู้ก่อการร้าย"
รัฐบาลพยายามบอกว่าทหารนับหมื่นที่ออกมาสาดกระสุนใส่ผู้ชุมนุม ให้เห็นภาพผ่านทางสื่อทั้งไทยและเทศ ไม่มีสักนัดที่เจาะเข้าหัวของประชาชน
ขณะที่ทหารก็ปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่เคยฆ่าผู้บริสุทธิ์
ดีเอสไอ ที่รับผิดชอบการสอบสวนต่างๆ ดูเหมือนจะสนใจไล่จับ "ผู้ก่อการร้าย" และหาบุคคลเพื่อแจ้งข้อหา "ก่อการร้าย" มากกว่าจะสอบสวนอย่างจริงๆ จังๆ ว่าใครคือเจ้าของกระสุนที่ปลิดชีวิตคนจำนวนมาก
ไม่นับหน่วยงานอื่นๆ หรือองค์กรอิสระต่างๆ ก็แทบไม่สนใจการตายของประชาชน
หากไม่ใช่เพราะอำนาจรัฐกดอยู่ด้านบน ก็ต้องเป็นการสมคบคิดเพื่อเบี่ยงเบนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
เกือบ 100 ศพ และนับพันที่ได้รับบาดเจ็บ กำลังถูกบิดเบือนด้วยกลไกของผู้มีอำนาจและภาครัฐจากหลายองค์กร
โดยเฉพาะเหตุฆ่าหมู่ที่วัดปทุมวนาราม ทั้งที่มีพยานหลักฐานมากมายว่าเป็นฝีมือของใคร
แต่พยานเหล่านั้นแทบไม่ได้ถูกเรียกไปให้ข้อมูลเพื่อหาตัวผู้กระทำผิด
ท่าทีของภาครัฐเองก็อยากให้เรื่องนี้จบๆ ไป แม้ปากจะพร่ำบอกว่าเป็นฝีมือผู้ก่อการร้าย แต่แทบไม่มีการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อตามจับ "ผู้ก่อการร้าย" ในกรณีนี้เลย
นอกจากนี้ ยังมีการแฉในภายหลังอีกว่าศพของเหยื่อแต่ละราย มีการเล่นซิกแซ็กทำให้กระสุนในศพล่องหนอย่างลึกลับ
หากไม่ใช่อำนาจรัฐครอบงำ ก็ต้องเป็นการสมรู้ร่วมคิดอย่างน่ากลัวยิ่ง
รวมไปถึงคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ที่เกิดเหตุโจรกรรมข้อมูลของพนักงานสอบสวนจากดีเอสไอที่ทำคดีนี้
ล่าสุดพนักงานสอบสวนไขก๊อกกันเป็นแถว เพราะเจอแรงบีบอย่างหนัก
การแสดงออกมากมายทั้งจากรัฐบาล ทหาร และองค์กรภาครัฐต่างๆ เพื่อมิให้ฐานอำนาจปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไป มันคือการ "สมคบคิด" หรือ "สมรู้ร่วมคิด" ที่น่ากลัว เพราะแทบจะไม่มีหน่วยงานใด หรือพลังใดในสังคมตรวจสอบการใช้อำนาจนี้ได้เลย
อาจจะมี"ศาล"ที่พอเป็นที่พึ่งเรื่องความยุติธรรมอยู่ได้ แต่ก็มีหลายขั้นตอนที่จะขัดขวางมิให้ข้อน่าสงสัยต่างๆ ขึ้นไปสู่กระบวนการพิจารณา
หากทุกอย่างยังดำเนินอยู่ต่อไปเช่นนี้
ประเทศไทยคงห่างไกลจากคำว่า"ประชาธิปไตย"ออกไปทุกที
เพื่อไทย
Friday, June 11, 2010
สมคบคิด
คอลัมน์ เหล็กใน