ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(8 มิถุนายน) ได้มีการอนุมัติให้ นายคณิต ณ นคร เป็น ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.-19 พ.ค. โดยนายคณิตฯ จะเป็นผู้ที่พิจารณาองค์ประกอบของคณะกรรมการด้วยตนเอง คาดว่าจะใช้ระยะเวลา 15 วัน
" เชื่อว่าจะเป็นคณะกรรมการที่มาเร่งให้ความเชื่อมั่นในความเป็นกลางและมีส่วนร่วมในการที่ทำความกระจ่างในเรื่องของข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย"นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ กล่าว
ชื่อของ ดร. คณิต ถูกร้องยี้ ทันทีโดยพรรคเพื่อไทย เช่นเดียวกับการเสนอชื่อ นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์(นิด้า) นั่งเป็นกรรมการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 2550
ศ.ดร.คณิต ณ นคร อดีตอัยการสูงสุด เป็นปรมาจารย์กฎหมายอาญาและกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาที่ได้รับการยอมรับอย่างสูง ปัจจุบันนั่งเป็นคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
เขาคือผู้หนึ่งใน 23 ผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทยรวมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2541 แต่ยังไม่ทันเคลื่อนขบวน เขาก็ถอนตัวโดยพลัน
เหตุผลก็คือ "ผมรู้สึกไม่สบายใจกับข้อยกเว้นในการสรรหาคนเข้าพรรค แม้ว่าข้อยกเว้นเหล่านี้จะไม่ได้มาจากคุณทักษิณ โดยตรง หรือท่านอาจจะไม่กล้าพูดกับผม เมื่อเป็นแบบนี้ผมก็ไม่ค่อยสบายใจ ผมจึงลาออกจากรองหัวหน้าพรรค 2 วัน ก่อนจะมีการประชุมพรรคเพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรค"
จากนั้น ดร.คณิต ก็วิพากษ์ระบอบทักษิณ เรื่อยมา โดยเฉพาะคดีซุกหุ้น
ปี 2549 ดร. คณิต แสดงทัศนะเกี่ยวกับ "คดีซุกหุ้น" ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่า หากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในขณะนั้นทุกคนยึดหลักกฎหมายแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็จะไม่มีโอกาสได้เป็นนายกรัฐมนตรีในเวลาต่อมา
"สาเหตุที่คุณทักษิณต้องเสื่อมหรือมีปัญหาเพราะความเชื่อมั่นตัวเองมากเกินไป และการฟังคนรอบข้างที่อยู่ในสถานะลูกน้องกับเจ้านายไม่ฟังคนนอกที่อยู่ในระบอบรัฐสภา แม้กระทั่งสื่อ ประชาชน นักวิชาการ ซึ่งจำเป็นมากที่ต้องฟัง"
"พตท.43" และ "ศอ.บต." ก็คงจะไม่ถูกยุบ
การฆ่าคนทิ้งเป็นพันๆ คนโดยอ้างเรื่องยาเสพติด ก็คงจะไม่เกิดขึ้น รวมทั้งการตายที่กรือเซะ และตากใบด้วย
การแบ่งฝักแบ่งฝ่ายที่ชัดเจนจนเกิดทางตันทำท่าว่าจะเกิดการฆ่ากันอีกครั้งในประวัติศาสตร์ชาติไทยก็คงจะไม่เกิดขึ้น
นี่คือ ทัศนะของ ดร. คณิต ที่สอดคล้องกับกระบวนการตุลาการภิวัตน์ที่เป็นกลไกสำคัญในการสลายอำนาจของระบอบทักษิณ
หลังรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 รัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้ตั้ง คณะกรรมการอิสระ ตรวจสอบศึกษา และวิเคราะห์นโยบายปราบปรามยาเสพติด และการนำนโยบายไปปฏิบัติจนก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ชื่อเสียงและทรัพย์สินของประชาชน (คตน.) เพื่อมาสะสางคดีฆ่าตัดตอน 2,500 ศพ ในช่วงสงครามปราบปรามยาเสพติดยุคทักษิณเรืองอำนาจ
คณะกรรมการ ชื่อยาวๆ ชุดนี้ มี นายคณิต ณ นคร เป็นประธาน
แต่เมื่อ เกิดเหตุการสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 บริเวณหน้ารัฐสภา รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ทาบทาม ดร. คณิต เป็นกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงฯ แต่เจ้าตัวปฏิเสธคำเชิญ
ดร.คณิต อธิบาย สาเหตุที่ตอบปฎิเสธว่า " กรณี 7 ตุลาคม 2551 มีคนจะตั้งผมเป็นกรรมการไปสอบ ผมถามว่า ไอ้นี่มันความผิดเกิดขึ้นแล้วทำไมตำรวจไม่ทำ ตำรวจทำเสร็จส่งอัยการจากนั้นไปศาลตามรูปแบบก็ไม่ทำ พอไม่ทำก็คาราคาซัง แล้วบางทีทำไปแล้วก็ไม่ได้ทะมัดทะแมง ซึ่งถ้ากระบวนการยุติธรรมดี บังคับใช้กฎหมายตรงไปตรงมา ถี่ถ้วนมีประสิทธิภาพ การยึดอำนาจไม่มี แต่ถ้ากระบวนการยุติธรรมประสิทธิภาพต่ำ แนวโน้มการยึดอำนาจก็มีอีก แต่ช้าหรือเร็วผมไม่รู้ "
ทัศนะทางวิชาการของ ดร.คณิต ณ นคร ตลอดทศวรรษที่ผ่านมาชัดเจนมากว่า ไม่เป็นคุณกับระบอบทักษิณ เท่าใดนัก
ฉะนั้นไม่น่าแปลกใจที่เมื่อชื่อ" ดร.คณิต" โผล่มาเป็นประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.-19 พ.ค. จึงไม่ได้รับความเชื่อถือของพรรคเพื่อไทย
ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส. พรรคเพื่อไทย ดีสเครดิตปรมาจารย์กฎหมายอาญา ว่า"ไม่น่าเชื่อถือ เพราะสมัยเป็นอัยการ ไม่ยื่นฟ้องคดีทุจริต สปก. 4-01 "
ฉะนั้นแล้ว คาดหมายได้ล่วงหน้าว่า ผลสรุปของคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง ระหว่างวันที่ 12 มี.ค.-19 พ.ค. ที่มี ดร.คณิต นั่งเป็นประธาน จะเป็นแค่กองกระดาษ เช่นเดียวกับ ผลสอบฆ่าตัดตอน ของ คณะกรรมการ คตน.
เอาเข้าจริง ดร.คณิต ก็เข้าใจ ปัญหาสังคมไทยที่ขาดความไว้เนื้อเชื่อใจ เป็นอย่างดี ดังที่เขาเคยพูดว่า
" สังคมเราในอดีตโชคดีที่มีผู้ใหญ่บางคน ที่ได้รับความเชื่อถือจากสังคมสูง พูดอะไรมาแล้วคนฟังอย่าง อาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ เดี๋ยวนี้ล่ะ น่ากลัวนะ คือไม่ใช่ว่าฟังแล้วเชื่อนะ แต่ฟังเท่านั้นแหละ เพราะฟังแล้วจะคิด แต่นี่ไม่ฟังซะแล้ว มันก็ต่อต้านลูกเดียว ซึ่งอันตรายมาก "
คำตอบมีอยู่แล้วว่า ไม่มีใครเชื่อใคร และอันตรายมาก !!!