ที่มา บางกอกทูเดย์ ประเทศประชาธิปไตย ที่แน่นหนามั่นคง...ส่วนใหญ่จะมีพรรคการเมืองใหญ่แค่ 2 พรรค..ที่ขับเคี่ยวกันสลับกันขึ้นมาเป็นรัฐบาล อย่างสหรัฐอเมริกา...พรรคเดโมแครต และ ริพับลิกัน อย่างอังกฤษ..ก็มีพรรคแรงงาน กับพรรค อนุรักษ์นิยมในฟิลิปินส์..ไม่กี่วันที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดี...ก็เป็นการสู้กันระหว่างอดีตประธานาธิบดี กับ ลูกชายของอดีตประธานาธิบดี ประเทศไทยวันนี้...ถ้ามองอย่างเอาบวกเข้าว่า.. ตัดปัญหาเรื่องความขัดแย้งทั้งหลายทิ้งออกไป มองข้ามการต่อสู้ที่มากไปด้วยความร้าวฉาน..ประชาธิปัตยของเราก็กำลังก้าวข้ามห้วงเวลาที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่และเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น..พรรครัฐบาลที่มีประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ..กำลังเผชิญหน้ากับพรรคฝ่ายค้านที่ยิ่งใหญ่ ประเทศไทยและคนไทย.. จะต้องเลือกกันในอีกไม่นานนี้ว่า จะเลือกพรรคใดระหว่าง ประชาธิปัตย์กับพรรคเล็กพรรคน้อยทั้งหลาย...กับ พรรคเพื่อไทยกับพันธมิตร..ซึ่งในที่สุดแล้ว...จะเหลือแต่เพียงพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคเพื่อไทย นั้นคือจะเลือกพรรครัฐบาลให้บริหารประเทศชาติต่อไปหรือจะเลือกพรรคฝ่ายค้านขึ้นมาเป็นรัฐบาล.. และแน่นอนว่าใครขึ้นมาเป็นรัฐบาลในกาลข้างหน้า..สิ่งแรกที่รัฐบาลใหม่จะต้องดำเนินการทันทีนั่นคือการจัดระเบียบในกองทัพ..ให้ขานรับกับอำนาจใหม่..ผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่จะเกิดขึ้นพร้อมกับรัฐบาลใหม่..รัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้ง..จะให้ประชาชนหนุนหลังและดำเนินการปรับปรุงทางด้านความมั่นคงเป็นอันดับแรก.. เพราะรัฐบาลประชาธิปัตย์ได้เป็นผู้สร้างสูตรสำเร็จในการบริหารจัดการม็อบให้กับรัฐบาลที่จะมาใหม่ในกาลข้างหน้า สูตรในการปกครองสูตรนี้..จะเป็นสูตรถาวรสำหรับประเทศนี้...หากประเทศนี้..ไม่ถูกแบ่งแยกออกไปเสียก่อน..ด้วยการต่อสู้ทางกำลังระหว่างพรรคการเมือง 2 พรรค หรือ..ประชาชน 2 สี พรรคฝ่ายค้าน..ต้องตั้งมั่นในการสู้เพื่อเป็นรัฐบาล..ด้วยการสร้างความนิยมในหมู่ประชาชน..จากคูหาเลือกตั้ง..พรรครัฐบาล..ต้องอย่าใช้อำนาจเผด็จการมาครองเมืองโดยโฆษณาชวนเชื่อว่า กำลังสู้อยู่กับผู้ก่อการร้าย สิ่งที่ต้องอยู่คือประเทศไทย...ไม่ใช่สงครามแยกแผ่นดิน