ที่มา บางกอกทูเดย์ “3,000”ล้านบาท คือตัวเลขงบประมาณแผ่นดินที่มาจากภาษีของประชาชนซึ่งถูกนำใช้ในการ “กระชับพื้นที่” ของทหารในกองช่วงการชุมนุมทางการเมืองของ นปช. ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคมถึงวันที่ 28 พ.ค. วันที่รัฐยกเลิกเคอร์ฟิว เมื่อมองดูตัวเลขครั้งนี้แล้วถือว่า...เป็นงบประมาณจำนวนมหาศาลทีเดียวที่ถูกนำมาใช้ในการทางการเมือง เพราะเงินจำนวนนี้หากนำไปใช้ในงานด้านพัฒนาคงสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทย ได้จำนวนมากพอๆกับมูลค่าของงบก้อนนี้ งบประมาณจำนวน 3,000 ล้านบาท ที่ใช้การปรฏิบัติภารกิจของทหาร นั้น แบ่งเป็นค่าเบี้ยเลี้ยงวันละ 300 บาท และค่าอาหารอีกวันละ 100 บาท แต่นั้นยังไม่ได้จบเพียงเท่านี้ เพราะงบประมาณที่ใช้ยังมี “ตำรวจ”ที่ต้องทำหน้าที่รักษาความสงบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ สตช.ใช้กำลังประมาณ 2.5 หมื่นนาย ใช้งบประมาณกว่า 700 ล้านบาท ตำรวจที่เข้ามาร่วมปฏิบัติภารกิจกว่า 72 กองร้อย หรือ 10,800 นายทำหน้าที่กองร้อยปราบจลาจล ประกอบด้วยตำรวจภูธรภาค 1 - 9 ตำรวจตระเวนชายแดนและกองบัญชาการสอบสวนกลาง รวมทั้งกำลังของ บช.น.อีกกว่า 8,000 นาย รวมแล้วงานนี้ใช้งบประมาณเกือบ 4,000 ล้านบาท นี้ยังไม่รวมงบลับที่กระทรวงกลาโหม และแต่ละเหล่าทัพมีอยู่แล้ว ฉะนั้น จึงมีข้อสงสัยว่า “ปฏิบัติการกระชับพื้นที่”ของกองทัพที่ทำไปนั้นเป็นการกระจายงบประมาณอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ใช้เวลาเพียง 2 เดือน สามารถย่อยสลายงบก้อนโตกว่า 4,000 ล้านบาท ได้ในพริบตา อย่างไรก็ตาม ข้อมูลตัวเลขที่กล่าวในข้างต้นเป็นเพียงข้อมูลงบประมาณที่ใช้ถึงวันที่ 28 พ.ค.เท่านั้น แต่จนถึงวันนี้ “ศอฉ”ยังทำงานต่อไปอีกตามพรก.ฉุกเฉินที่ยังไม่ได้ประกาศยกเลิก ดังนั้น ตัวเลขงบประมาณในส่วนนี้จึงยังไม่ทราบว่ามีจำนวนมากน้อยเพียงใด ขณะเดียวผลจาการกระชับพื้นที่ ที่ทหารทำได้ ตามใบสั่งของรัฐบาล ทำให้ตัวเลขของงบประมาณปี 2554 ที่กระทรวงกลาโหม ได้รับนั้นพุ่งขึ้นตามมาด้วย ในขณะที่กระทรวงที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจรากหญ้าอย่างกระทรวงเกษตรฯ กลับได้รับงบประมาณที่ลดลง งานนี้นอกจากผลการทำงานจะตารัฐบาลแล้วยังเข้ากระเป๋าใครหลายคนก่อนสิ้นปีงบประมาณอีกด้วย!