เห็นฝีมือการบริหารราชการแผ่นดินของคณะปฏิวัติรัฐประหารมา 1 ปี 4 เดือน ที่ผ่านมา ฝ่ายพวกที่มีรสนิยมเดียวกับพวกเผด็จการ ล้วนต่างบอกว่า “หน่อมแน้ม” เสียเหลือเกิน ทั้งที่ คณะปฏิวัติรัฐประหาร เข้ามาแล้วใช้อำนาจ “บู๊” ล้างผลาญ
การจ้าง ฝ่ายประชาสัมพันธ์เชิงรุก เพื่อการรัฐประหาร จนเกิดพวกป่วนเมือง ตาม วิทยุ ทีวี และอินเตอร์เน็ต
รวมทั้งการคิดค้น แผนบันได 4–5 ขั้น หรือในที่สุดถูกแฉอยู่ใน หนังสือพิมพ์ประชาทรรศน์ ที่เรียกกันว่า เอกสารลับ คมช. หลายชุด
เป็นการลงมือกระทำการอย่าง เหี้ยมโหด ไร้ซึ่ง จิตวิญญาณ ต่อ การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
แต่แผนการนี้ถูกจับได้ไล่ทัน เนื่องจากมีคนไม่เห็นด้วยกับความเลวร้ายที่จะตามมา หากมีการสมคบกันระหว่าง
ทหารชั่ว (บางคน)
ข้าราชการเลว (บางคน)
ตำรวจเพี้ยน (บางคน)
เอ็นจีโออเวจี (บางองค์กร)
นักวิชาการชั่วช้าสามานย์ (บางคน)
สื่อสารมวลชนไร้จิตสำนึก (บางสำนัก)
คนเหล่านี้ล้วนแต่เข้ามาในคราบวิชาชีพ ร่วมด้วยช่วยกันในการหาผลประโยชน์จากภาษีอากรของประชาชน โดยไม่สนใจกระบวนการ ไร้สึกนึกแห่งความถูกต้องดีงาม “โกงการเลือกตั้ง” ซึ่งๆ หน้า หรือการ “ปล้นประเทศกลางแดด” เป็น รอบที่สอง
เมื่อกาลผ่านไป ประชาชน เห็นข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว หูตาสว่าง เราได้ รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ตาม ครรลองของประชาธิปไตย
รัฐบาลที่หลายคนพูดว่าเป็น “ของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน” เพราะ มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งสูงมากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ชาติ
รัฐมนตรีหลายคนบริหารราชการด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่อง เพราะได้ดิบได้ดี บนการต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายของพี่น้องประชาชนหลายสิบล้านคน ในการเลือกตั้งครั้งนี้
เวลาผ่านมา กว่า 1 เดือน ที่ว่าราชการได้เพียง “พฤตินัย” หรือ 2 สัปดาห์ ที่ว่าราชการได้ตาม “พฤตินัย” และ “นิตินัย” เราพบว่ารัฐมนตรีหลายคนยังมีความ “หน่อมแน้ม” มีแนวโน้มว่า รัฐมนตรีเหล่านี้ไม่กล้าที่จะ “เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย” ทั้งที่ประชาชนได้ฝ่าด่านแห่งความสยดสยองนี้ทะลุทะลวงให้กับท่านมาก่อน คำถามหลายคำถามเกิดขึ้นมาในขณะนี้ว่า
ทำไม รัฐมนตรีจึง ไม่ช่วยกันคัดค้านในสิ่งที่ประชาชนต้องการให้คัดค้าน
ทำไม รัฐมนตรี ทิ้งภาพเดิมแห่งการต่อสู้ เพียงเพื่อสลัดภาพ บทบู๊ ในการต่อสู้ของตัวเองในอดีต บางคนถึงขนาดไปร่วมงานกับ “คนชั่ว” ที่ สนับสนุนการปฏิวัติรัฐประหาร แล้ว ได้ดิบได้ดี มีหน้ามีตา มีตำแหน่ง ในหน่วยงานสื่อสารมวลชนของรัฐ
ทำไม รัฐมนตรีจึงปล่อยให้ทุกเรื่อง พุ่งเป้า เข้าหา ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี สมัคร สุนทรเวช เพียงคนเดียว ทั้งที่เป็นเป้าที่ทุกคนอยากจะ ตีให้สลบ เอากันให้ ตายคามือ ไปวันนี้พรุ่งนี้
ทำไม รัฐมนตรีจึงไปตกปากรับคำฝ่ายหนึ่ง ทั้งที่รู้ว่าเป็น “กระพี้” ทิ้ง “แก่นแท้” ในการพัฒนาประชาธิปไตย ซึ่งที่สุดจะเป็น “ภูมิคุ้มกัน” ให้กับพวกท่านเอง
ทำไม รัฐมนตรีถึงปล่อยให้มีการ แต่งตั้ง คนที่เคยมีประวัติ “ร่วมหัวจมปลัก” กับ “พันธมารประชาธิปไตย” ให้มาชูหน้าสลอนในการบริหารราชการแผ่นดิน คอยฮุบงบประมาณ ต่อท่อน้ำเลี้ยงกันเสียเฉยๆ ล่ะ
อย่าให้เขาว่าเป็นรัฐมนตรีทั้งที ดันหน่อมแน้ม เหมือน คณะปฏิวัติรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ที่ผ่านมาล่ะ
วันนี้ท่านถืออำนาจ ที่ไม่ได้มีฐานเป็นกระบอกปืนอันทรง “ฤทธานุภาพ” แต่ท่านถือฐานเสียงของประชาชน ที่มี “พลานุภาพ” มากกว่าอาวุธใดๆ ใยต้องเกรงอกเกรงใจ ถึงขั้นที่จะให้คนฝ่ายเดียวกันว่า “หน่อมแน้ม” ด้วยเล่า