WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Saturday, March 15, 2008

หล่อเล็ก เขี้ยวลากดิน แหกตาประชาชน?

จากข่าวเด่นประเด็นร้อนกรณี นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ประกาศยุติการทำหน้าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หลังจาก คตส.มีมติชี้มูลความผิด กรณีมีส่วนเกี่ยวข้องการทุจริตรถและเรือดับเพลิงของกทม. โดยให้เหตุผลว่า เพื่อให้กระบวนการตรวจสอบของคตส.เป็นไปอย่างโปร่งใสและปราศจากการแทรกแซง พร้อมทั้งมีหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ว่าเป็นการแสดงบรรทัดฐานของนักการเมือง และเป็นจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ แถมท้ายด้วยคำชมจากปากประธานคตส. นายนาม ยิ้มแย้ม (ผู้ตั้งข้อกล่าวหาแก่ตัว) ว่า ไม่จำเป็นต้องยุติหน้าที่ก็ได้เพราะเพียงแค่ถูกกล่าวหา แต่เป็นเรื่องดีที่สร้างบรรทัดฐานทางการเมือง

หากมองอย่างผิวเผิน ดูเหมือนว่า นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ โชว์สปิริตทางการเมือง ว่าพวกตนเป็นพรรคการเมือง และนักการเมืองชั้นดี แฝงนัยยะกระทบชิ่งนักการเมืองผู้อื่นที่คตส.กำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่ในเวลานี้

แต่ การประกาศยุติบทบาทผู้ว่ากทม. เป็นการแสดงสปิริต ความเป็นคนดี มีจริยธรรมทางการเมืองที่สูงส่งกว่าคนอื่นจริงหรือ? หรือกำลังใช้ยุทธวิธี ลับ ลวง พราง อ้างความใสซื่อมือสะอาด มาแหกตาพี่น้องประชาชน และโจมตีรัฐบาลกันแน่?

การแหกตาที่ว่า เกิดจากการพูดความจริงไม่หมดใช่หรือไม่?
ควรทำความเข้าใจกันก่อนว่า การยุติบทบาทของท่านหล่อเล็ก ไม่ใช่เรื่องการแสดงสปิริตแต่อย่างใด เพราะเป็นเรื่องที่มีข้อกฎหมายเข้ามาเกี่ยวพัน ท่านหล่อเล็กถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดขณะดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่ากทม. เป็นข้อกล่าวหาที่ผูกพันอยู่กับหน้าที่ความรับผิดชอบ และองค์กรที่ตนเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องยุติบทบาทการทำงาน

แล้วท่านหล่อเล็ก ยุติบทบาทเพื่อให้กระบวนการตรวจสอบของคตส.เป็นไปอย่างโปร่งใสและปราศจากการแทรกแซงจริงหรือ?
คำตอบตามความจริงที่ปรากฎคือ ไม่
เพราะหากไม่หลับหูหลับตาเชียร์ “สปิริต” กันมากไปนัก จะเห็นได้ว่า ยังคงมีคนของท่านหล่อเล็ก และท่านหล่อใหญ่แห่งพรรคฝ่ายแค้นนั่งบริหารงานระดับสูงในกทม. เช่นเดิม

ทั้งยังมีปลัดฯที่เป็นคนเดิมอีก
อย่าลืมว่า โครงสร้าง และอำนาจหน้าที่ของการบริหารงานของผู้ว่ากทม. ก็คือ สามารถแต่งตั้งคณะทำงาน ทั้งรองผู้ว่า และคณะทำงานต่างๆ ซึ่งเป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปอย่างเปิดเผยว่า มีทั้งสมาชิกและคนของพรรคประชาธิปัตย์เกือบทั้งหมด

การเปลี่ยนหน้าฉากแค่ หน้าตาของคน แต่พื้นฐานและระบบ เส้นสายคงเดิม
เป็นการแสดงสปิริตตรงไหนไม่ทราบ?
หากต้องการความโปร่งใสจริง ต้องตัดองคาพยพทิ้งทั้งหมด ไม่ใช่คงไว้เป็นพวงแบบนี้
ดังนั้นควรหยุดแหกตาประชาชนว่า “โชว์สปิริต เพื่อสร้างความโปร่งใส” เสียที
ประชาชนเขาไม่ได้กินหญ้า !
และด้วยความเคารพ โปรดอย่าลืมว่า ท่าทีของคณะผู้บริหารกทม. รวมทั้งหล่อเล็ก ในอดีตระหว่างกลุ่มพันธมิตรฯ กับประชาชน ผู้ต่อสู้คัดค้านเผด็จการคมช. จากการขอใช้สนามหลวงเพื่อจัดการชุมนุม
สำหรับพันธมิตรเพื่อการรัฐประหารท่านบริการอย่างเต็มที่ ทั้งรถสุขา ทั้งการอำนวยความสะดวกต่างๆ

สำหรับการชุมนุมของประชาชนผู้คัดค้านเผด็จการคมช. กลับถูกขัดขวาง นำเจ้าหน้าที่เทศกิจ สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาล้อมประชาชนที่ชุมนุมบ้าง ให้ข่าวเป็นทางลบกับกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นระยะ

เป็นพฤติกรรมเลือกข้างและเลือกปฎิบัติ ราวฟ้ากับเหว
การสนับสนุนและบริการการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรเพื่อการรัฐประหาร สอดคล้องกับท่าที จุดยืนของท่านหล่อใหญ่ผู้นำพรรคในการชูมาตรา 7 ในขณะนั้นเป็นอย่างยิ่ง
ซึ่งไม่รู้ว่าการโชว์สปิริตยุติบทบาท ในเวลานี้จะสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ปัจจุบันอีกหรือไม่?
ว่ากันว่า กระบวนยุทธ์ สร้างภาพโชว์สปิริต นอกจากหวังผลทางการเมืองเตะตัดขารัฐบาลแล้ว ยังได้ของแถมที่สำคัญมาอีกเรื่องหนึ่ง เพราะ ตำแหน่งผู้ว่ากทม.นั้น อีกไม่กี่เดือนก็หมดวาระแล้วต้องมีการเลือกตั้งใหม่ การยุติบทบาทการทำหน้าที่ผู้ว่ากทม. นอกจากเป็นการสร้างภาพว่า “มีสปิรติ”แล้ว ยังมีเวลาไปเดินสายหาเสียงสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าด้วยใช่หรือไม่?
คงไม่มีใครรู้ดีเท่ากับหล่อเล็กและหล่อใหญ่เขี้ยวลากดิน ที่กำลังเล่นปาหี่ แหกตาประชาชนอยู่ในเวลานี้