WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, March 12, 2008

“กาสิโน” ผลดีมากกว่าผลเสีย

แม้ว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี จะออกตัวไปแล้วว่าไอเดียในการผุดกาสิโนขึ้นในเมืองไทย ไม่ใช่นโยบายของพรรคพลังประชาชน และไม่ใช่นโยบายชของรัฐบาล เพียงแค่เป็นการตอบคำถามของประชาชนทางบ้านผ่านรายการ “สนทนาประสามัคร”

แต่ผมก็ยังอดที่จะเชียร์ให้มีการสร้างกาสิโนในเมืองไทยไม่ได้ เพราะยังมองเห็นผลดีที่จะเกิดขึ้นมากกว่าผลเสีย หากมีการ้ปองกันที่ดี มีมาตรการที่รอบคอบรัดกุม

แม้ว่ารัฐบาลคิดอยากจะทำผมก็ยังไม่เห็นว่าจะน่าเกลียดอย่างไร เพียงแต่พร้อมๆ กับการเสนอไอเดียนี้ รัฐบาลจะต้องบอกเล่าถึงการควบคุมออกมาด้วยว่าจะคัดกรองคนที่เข้าไปเล่นการพนันอย่างไร

ต้องตอบคำถามสังคมให้ได้ ว่าจะทำอย่างไรถึงจะไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเด็กและเยาวชน และทำอย่างไรถึงจะไม่ให้เกิดผลกระทบกับผู้ที่มีรายได้ที่ไม่เหมาะสม

เพราะทุกวันนี้คนกลุ่มหนึ่งที่มีฐานะทางการเงิน มีความพร้อมที่จะเอาเงินส่วนหนึ่งมาเสียไปกับการพนัน หากไม่บินไปเล่นนอกประเทศ ก็นั่งรถที่ทางกาสิโนประเทศเพื่อนบ้านตามแนวชายแดนจัดมารับถึงใจกลางเมืองไปเล่นพนันกันอยู่แล้ว

และทุกวันนี้บ่อนกาสิโนรอบๆ ประเทศไทยก็มีอยู่ร่วม 40 แห่ง ซึ่งแน่นนอนว่าการตั้งบ่อนอยู่ริมชายแดนประเทศไทย กลุ่มเป้าหมายก็คือคนไทย หรือคนต่างชาติที่มาเที่ยวในประเทศไทยนั่นเองเพราะฉะนั้นการมีบ่อนอยู่ในประเทศเสียเลย ก็ไม่ได้ส่งผลเสียไปมากกว่า แต่กลับกันการควบคุมอาจจะเป็นไปง่ายดายขึ้น เพราะอยู่ในแผ่นดินไทย ควบคุมดูแลกันด้วยกฎหมายไทย

ขณะเดียวกันบ่อนหลายแห่งก็มีคนไทยเป็นเจ้าของ มีคนไทยเป็นหุ้นส่วนอยู่แล้ว และที่สำคัญแรงงานในบ่อนส่วนหนึ่งก็เป็นคนไทย

เพราะฉะนั้นการเปิดบ่อนกาสิโนในประเทศ ชัดเจนว่าเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดเงินหมุนเวียน ดึงเงินในกระเป๋าเศรษฐีให้ออกมาในระบบ ออกมาสร้างงานให้ผู้มีรายได้น้อย และอาจจะหมายถึงการพัฒนาเศรษฐกิจของชาติโดยรวม

ซึ่งอาจหมายถึงการจัดแพคเกจการท้องเที่ยว แบบเดียวกับบางประเทศ ชักชวนให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาชมธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรมของประเทศไทย แล้วก็ได้แวะเสี่ยงโชคบ้างพอหอมปากหอมคอ

ที่จริงเรื่องการเปิดบ่อนกาสิโน มีการศึกษาวิจัยเอาไว้อย่างเป็นระบบแล้วด้วยซ้ำไป มีตัวเลขแสดงให้เห็นชัดว่าจะมีเงินหมุนเวียน และมีเงินไหลเข้าประเทศมากน้อยแค่ไหน

ผมว่าวิธีคิดของการเปิดบ่อนกาสิโน ยังอันตรายน้อยกว่าการปล่อยให้คนไทยออกไปเล่นการพนันในประเทศเพื่อนบ้านมากมายนัก เพราะเคยมีข่าวกันมาแล้วว่าบางคนไปเล่นการพันั้นแล้วก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย

ขณะเดียวกันก็น่าจะใช้หลักคิดแบบเดียวกับหวยบนดิน คือแทนที่จะปล่อยให้บ่อนการพนันเถื่อนมีอยู่เกลื่อนเมือง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเลวบางคนรู้เห็นเป็นใจ

ก็มาจัดระเบียบกันเสียใหม่ทำให้การพนันเป็นเรื่องถูกกฎหมาย เอาขอใต้โต๊ะขึ้นมาบนโต๊ะ ซึ่งเชื่อแน่ว่าด้วยกลไกทางการตลาดเช่นนี้ในที่สุดบ่อนการพนันเถื่อนที่เป็นแหล่งอาชญากรรม เป็นตัวการสร้างปัญหาสังคมอย่างแท้จริงก็จะหมดไปในที่สุด

เพียงแต่สาระสำคัญของเรื่องนี้อยู่ที่ว่ารัฐบาลจะสร้างความมั่นใจให้ประชาชนได้อย่างไร ว่าบ่อนกาสิโน จะไม่ทำลายความเป็นเมืองพุทธ จะไม่ทำร้ายอนาคตของชาติ และจะไม่ก่อปัญหาอาชญากรรม

เช่นอาจจะต้องมีการตรวจสอบเสตทเม้นของคนที่จะมาเล่นการพนัน หรือจำกัดวงเงินในการเล่นให้สมควรแก่ฐานะ หรือาจจะมุ่งเน้นไปที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นเป้าหมายหลักก็ยังได้

แน่นอนว่าแค่ได้ยินชื่อว่าเป็นบ่อนการพนั้น หลายคนก็ตั้งหลักค้านหัวชนฝากันไปแล้ว เพราะเป็นเรื่องที่ล่อแหลม และหมิ่นเหม่ต่อความรู้สึกอย่างยิ่ง

แต่หากรัฐบาลเล็งเห็นว่าการมีกาสิโนในเมืองไทย จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ จะช่วยให้บ้านเมืองพัฒนาได้จริง ก็ต้องค่อยๆ ทำความเข้าใจ ต้องอธิบายอย่างมีหลักมีเกณฑ์

เชื่อแน่ว่าหลายคนที่คัดค้านอยู่ในขณะนี้ ก็ล้วนอยากเห็นประเทศชาติเกิดการพัฒนา เพียงแต่ว่ายังมีความไม่สบายใจ อันเนื่องมาจากความไม่รู้ ไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ ซึ่งด้วยเจตนาอันเดียวกันเช่นนี้ในที่สุดก็จะสามารถทำความเข้าใจกันได้ไม่ยาก

จะน่ากลัวก็แต่พวกค้านทุกเรื่องทุกราว โดยไม่สนใจเหตุผล แค่ขอให้โจมตีรัฐบาลได้เป็นพอ อย่างนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องอันตรายสำหรับรัฐบาล เพราะเรื่องที่คาบเกี่ยวเช่นนี้สุ่มเสี่ยงต่อการที่ประชาชนจะถูกชักจูงให้เกิดความเข้าใจผิดๆ ได้ง่าย

ผมว่ากาสิโนในประเทศไทยเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงได้ เพียงแต่หลบายครั้งที่มีการเสนอความคิดเห็นก็มักจะถูกโจมตี จนนักการเมืองหลายยุคหลายสมัยต้องพับโครงการเก๋บไว้อย่างเก่า เพราะเกรงจะเสียคะแนนนิยม

แต่ในเมื่อรัฐบาลอาสาเข้ามาทำงานเพื่อบ้านเมืองแล้ว อะไรที่เกิดประโยชน์ก็ต้องมีความกล้าหาญที่จะทำ และผมก็เป็นคนหนึ่งที่เชียร์ให้รัฐบาลผลักดันให้ประสบความสำเร็จให้จงได้

ไม่ต้องไปสนใจพวกถ่วงความเจริญ และคิดแต่จะตะบี้ตะบันค้านจนลืมมองโลกแห่งความความเป็นจริง...!!