อธิบายได้ว่า..
ถึงแม้ว่า..การซื้อรถซื้อเรือดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร ที่กลายเป็นคดีความต่อเนื่องกันมายาวนานถึง 3 รัฐบาล และพัวพันไปถึงพรรคการเมืองอันดับ 1 และอันดับ 2 ของประเทศ คือ พรรคไทยรักไทยและพรรคประชาธิปัตย์
ผู้แทนราษฎรของทั้ง 2 พรรค..ต่างเป็นผู้กล่าวหาและเปิดโปงความไม่ชอบมาพากลของเรื่องนี้..จนถึงวันนี้..เรื่องนี้ก็ยังเป็นปัญหา..
ว่ากันว่าสูตร..6:2:2 ของตัวเลข..ที่รู้กันทั่วทั้งกรุงเทพมหานครว่าเป็นสูตรแบ่ง..สมบัติของใคร..6:2:2 ไม่ใช่ร้อยละ 10 ของตัวเลข..รายได้ที่เกิดจากรายจ่ายในงบประมาณแผ่นดิน หรือการจัดซื้อจัดจ้าง
แต่เป็นตัวเลขของ..รายได้ที่แบ่งกันออกไปเป็น 6 ส่วนของนายคนหนึ่ง และอีก 2 ส่วนกับอีก 2 ส่วนนั้น..มันเป็นตัวเลขของ "รัก-ยม" ที่เกาะอยู่ข้างกายนายใหญ่
มาถึงตัวเลข 8,300 ล้าน..จะถูกแบ่งออกมา 4,000 ล้านบาท..ถูกกำกับการแสดงให้ตกแต่งเป็นชิ้นส่วนละ 500 ล้าน คูณไปด้วย 6 ส่วน อีก 1,000 ล้าน..กันไว้เป็น..งบกลาง..
ว่ากันว่า ส่วนที่ยังเหลือ..4300 ล้าน..1 ส่วนใน 3 ส่วน..ก็ยังเป็นเค้กก้อนใหญ่..ที่กลายเป็น..งบซ่อนเร้น..ตกอยู่ในมือที่มองเห็น..มองเห็นตัวกันเป็นๆ
รถเรือดับเพลิง..ชุดนี้เกือบจะไม่เป็นปัญหา..หากว่าการซื้อขายที่สะดุดหยุดอยู่นั้น..มันหยุดกันไปเลยในระหว่างที่กรุงเทพมหานครกำลังจะเปลี่ยน..ผู้บริหาร..
แต่เพราะ..ตัวเลขมันยั่วใจ
และมีความจำเป็นที่จะต้องเอาไปจับจ่ายใช้สอยในเทศกาลการเลือกตั้งครั้งใหญ่...การตัดสินใจตายดาบหน้าจึงเกิดขึ้น
รายการขุดป่าช้า..พลิกฟื้นเรื่องราวขึ้นมาจึงเกิดขึ้น..ทำให้กลุ่มคนทำผิด..ที่ยังไม่ได้ทำผิด ต้องมาติดร่างแหไปด้วย..
ทำท่าจะซวยกันไปตั้งแต่หัวจรดหาง..
งานนี้ต้องนับถือฝีมือ..ขอ..คตส. ..ถึงแม้จัยอมตัด อภิรักษ์ โกษะโยธิน ออกไปจากคดี..แล้วดำเนินคดีกับ..อีกส่วนหนึ่ง..
แต่พอถึงที่สุดแห่งคดีแล้ว..ก็จะวกกลับเข้ามาเหมือนบูมเมอแรง ที่ร่อนเข้าหาผู้สั่งซื้อสั่งจ่าย
คอร์รัปชั่นใช้ไม่ได้กับคดีนี้..เพราะนี่คือการ "ปล้น"