ตามประสาเซียน อ่านกฎหมายรู้ดูกฎหมายเป็นเหมือนกัน
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัวอดีตนายกฯทักษิณ ในฐานะอดีต รมว.ยุติธรรม ยกคดีเทียบเคียงกับกรณีของนางเสาวนีย์ อัศวโรจน์ กรรมการ คตส. ที่ได้ถูกคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดในกรณีขึ้นค่าตอบแทนให้ตัวเองโดย ไม่ชอบด้วยกฎหมายในสมัยที่เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
ดังนั้น จึงมีคำถามว่า ทำไมนางเสาวนีย์ถึงไม่ยุติการปฏิบัติหน้าที่
รวมไปถึงนายอุระ หวังอ้อมกลาง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอีกคนที่ถูกชี้มูลในคดีเดียวกัน ก็ไม่ได้ลาออกจากการเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรีเหมือนกัน
ย้อนเกล็ดกันแบบช็อตต่อช็อต
ตามรูปการณ์คดีหวยบนดินคงต้องยื้อยุดฉุดกระชากกันด้วยปมกฎหมายอีกหลายยก ในเมื่อ ต่างฝ่ายต่างตีความเข้าข้างตัวเอง
ตีความกฎหมายเล่มเดียวกันไปคนละทาง
ที่แน่ๆ “ลุงหมัก” นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กดปุ่มไฟเขียว “หมอเลี้ยบ” นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯ และ รมว.คลัง นางอุไรวรรณ เทียนทอง รมว.แรงงาน นายอนุรักษ์ จุรีมาศ รมช.คมนาคม 3 ผู้โชคดีในรัฐบาลปัจจุบัน ที่อยู่ในบัญชีเชือดเหวี่ยงแห
กระเตงลุยถั่วแบบไม่สนหน้าไหน
ในขณะที่ล่าสุดเป็นคิวนายบรรเจิด สิงคะเนติ กรรมการ คตส. เปลี่ยนผลัดรับเวรออกมาตอกย้ำ ความชอบธรรม คตส.มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับ ป.ป.ช. ตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองใน ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.)
ดังนั้น มติของ คตส.ก็ต้องเหมือนกับ ป.ป.ช.
ซึ่งตามมาตรา 55 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ระบุว่า เมื่อ ป.ป.ช.มีมติว่าข้อกล่าวหาใดมีมูล ผู้ถูกกล่าวหาจะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปมิได้ จนกว่าวุฒิสภาจะมีมติหรือศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะมีคำพิพากษา
ขวางลำรัฐมนตรีทำงานต่อ
แต่ที่เอะใจ กำลังเถียงกันอยู่เรื่องหวยบนดิน ตีความปม 3 รัฐมนตรีต้องพักงานหรือไม่ นายบรรเจิดบอกว่า คดีดังกล่าวจะเป็นบรรทัดฐานในคดีอื่นๆ
รวมทั้งคดีทุจริตการจัดซื้อรถดับเพลิงและเรือดับเพลิงที่นายสมัครตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาด้วย โดยคดีดังกล่าวจะมีความคืบหน้าในอีก 2-3 วันนี้
แพลมเป้าใหญ่ออกมาแล้ว
ปูทางล่อจ่าฝูง จ่อคิวทุบ “สมัคร” ต่อเลย
จับตาเกมพักงานนายกรัฐมนตรี
คตส.กลับมาคึกคักก่อนทิ้งทวนหมดวาระ เดินหน้าล่อเป้าเครือข่าย “ทักษิณ” แบบคดีต่อคดี แต่หันไปดูคนที่ปั้น คตส.มากับมือ
ล่าสุด “บิ๊กบัง” พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคณะ มนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์พิเศษสำนักข่าว รอยเตอร์ เปิดใจกับนักข่าวต่างประเทศ
พูดชัดๆ เข้าใจชีวิตมากขึ้นหลังหมดอำนาจ
จากนี้ไปขอใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา ไม่มีความคิดจะเล่นการเมือง ขอใช้ชีวิตที่เหลือพักผ่อนกับครอบครัวและเพื่อนฝูงอย่างสงบ
ยังมีช็อตระทึก “บิ๊กบัง” เล่าแบบไม่ปิดบัง
“อาทิตย์ก่อน ผมไปดอนหวายกับเพื่อน ก็มีคนให้กำลังใจมากอด บอกว่าสู้ต่อไป ประชาชนจะอยู่เคียงข้าง แต่บางคนไม่ชอบ ก็มี ตะโกนด่าเลย”
แถมด้วยบทพูดแบบปลงๆ
“ทุกอย่างพิสูจน์ได้ตอนที่เราไม่มีอำนาจ ใครรักเราจริงก็ มาหาเรา บางคนเคยมาหาตอนเป็นประธาน คมช. แต่ตอนนี้ก็ไม่มา ก็มีมาก ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ได้พิสูจน์ว่าใครเป็นมิตรแท้ เป็นคนที่รักเราจริง ในช่วงที่เราไม่มีอำนาจ”
ซึ้งถึงสัจธรรมเลย
ฉะนั้น ใครก็ตามที่คิดจะสวมบทพระเอกสั่งรถถังออกมาล้อมทำเนียบ รัฐบาล ตามเกมที่ยังมีขบวนการจุดกระแสการเผชิญหน้า ก่อเงื่อนไขล่อให้ ปฏิวัติรัฐประหาร
ตัวอย่างก็มีให้เห็นแล้ว
พระเอกลิเกหลงโรง เก็บฉากไปแบบระทม.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
คอลัมน์ ข่าวการเมือง(วิเคราะห์)