ขณะนั่งปั่นต้นฉบับ ผมยังไม่ทราบรายละเอียดผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เดินทางไปนั่งหัวโต๊ะเป็นประธานครั้งแรก หลังจากที่กำกับควบคุมดูแลงานในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในเบื้องต้น ทราบแต่เพียงว่า ไม่มีเสียงนกหวีดจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ส่วนผลการประชุมเป็นอย่างไร ต้องไปอ่านจากข่าว
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ พี่ชายของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริอยาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พล.ต.ท.ชลอ ชูวงษ์ นักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 26 เพื่อนร่วมรุ่นของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้หรือไม่ ไม่ใช่ประเด็น
ทั้งสองคนต้องได้กลับมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แน่นอน
เพราะทั้งสองคนถูกคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัติรย์เป็นประมุข ย้ายไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อมีการทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 นั้น นอกจากจะเป็นการรังแกกันโดยที่ทั้งสองคนไม่มีความผิดใดๆแล้ว ยังขัดต่อระเบียบข้าราชการตำรวจ ที่ระบุว่า การจะย้ายข้าราชการตำรวจพ้นจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะต้องเป็นไปด้วยความสมัครใจ ถ้าไม่วสมัครใจ ไม่มีสิทธิ์ที่จะย้ายได้
อย่างกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ย้าย พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทำได้แค่ไปปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี หรือที่เรียกกันว่า เด้งไปแขวนไว้ที่ทำเนียบ เนเดียวกับ พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ ย้าย พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ และ นายสมัคร สุนทรเวช ย้าย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ล้วนแต่ไปแขวนไว้ที่ทำเนียบทั้งนั้น แต่ตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังไม่ว่างลง ไม่สามารถแต่งตั้งใครได้ นอกจากออกคำสั่งให้รักษาการเท่านั้น ซึ่งศาลปกครองสูงสุด ได้พิพากษาไว้เป็นบรรทัดฐานแล้ว
ต่างจากการย้าย พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ ไปรับตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย ไปรับตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานข่าวงกรองแห่งชาติ ทำให้ตำแหน่งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่างลง สามารถแต่งตั้งคนใหม่เข้ารับตำแหน่งแทนได้
เห็นกันชัดๆหรือยังว่า การย้าย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ และ พล.ต.ท.ชลอ โดยคำสั่งของคณะรัฐประหาร ขัดกับระเบียบข้าราชการตำรวจ แต่ขณะนั้นใครจะขวางได้ละ
ดังนั้นเมื่อประเทศพ้นจากอำนาจของเผด็จการ กลับเข้ามาสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตย แม้ว่าใครจะเป็นรัฐบาล ทั้ง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ และ พล.ต.ท.ชลอ ย่อมมีสิทธิ์อันชอบธรรม ในการกลับเข้ามารับตำแหน่งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยที่นายกรัฐมนตรีซึ่งรับผิดชอบกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่สามารถที่จะละเว้นได้
บรรดาผู้ที่ทำเป็นสู่รู้จินตนาการกันไปต่างๆนานาว่า นายสมัคร สุนทรเวช จะฟื้นรัฐตำรวจขึ้นมาใหม่ เพื่อให้ระบอบทักษิณกลับมามีอำนาจอีกครั้ง เป็นการจินตนาการที่มีใจอคติ
ซึ่งหากมองกันด้วยใจเป็นธรรม โดยย้อนอดีตไปดูความเป็นจริงก่อนที่จะเกิดรัฐประหารขึ้น พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อาวุโสอันดับ 1 จ่อขึ้นรับตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต่อจาก พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไม่มีสิทธ์ด้วยซ้ำไป เพราะ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ เกษียณอายุราชการปี 2555 ขณะที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เกษียณปีนี้
แต่เมื่อเกิดอุบัติทางการเมือง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ได้รับผลกรรมที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ทำให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ โชคดีได้เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เมื่อ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ปลด พล.ต.อ.โกวิท โดยไม่มีความผิดใดๆ
นี่คือความเป็นจริงที่ทุกคนจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่ในความเป็นจริง หาเป็นเช่นนั้นไม่ ยังมีคนพยายามตะแบงมองว่าเป็นรื้อฟื้นรัฐตำรวจ อย่างเมื่อวันวานได้ฟังนายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ นักจัดรายการทางวิทยุ สัมภาษณ์ พล.ต.อ.นพดล สมบูรณ์ทรัพย์ หนึ่งในคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.
แม้ พล.ต.อ.นพดล จะยืนยันว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ มีสิทธิ์ที่จะกลับมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะตอนที่ถูกย้ายออกไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เจ้าตัวก็ไม่ได้สมัครใจยินยอม ขัดกับระเบียบข้าราชการ
แทนที่นายดนัย จะเข้าใจกลับย้อนถามว่า สมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี ก็มีการย้ายล้างบางตำรวจมากเช่นกันไม่เห็นมีใครสมัครใจ พล.ต.อ.นพดล ต้องอธิบายว่า คนละประเด็นกัน เพราะการย้ายภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สามารถทำได้ ไม่ต้องสมัครใจ
ทำให้นายดนัย ถึงได้รู้ว่าตัวเองไม่ทำการบ้าน รู้ไม่จริง หรือถ้าให้พูดตรงๆก็ต้องบอกว่า ถามโง่ๆ จึงได้แต่หัวเราะ หึๆๆ
ซึ่งในการประชุม ก.ตร.วันวาน ในขั้นตอนแรกคงทำได้เพียงเปิดตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไว้ น่าจะเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฝ่ายปราบปรามยาเสพติด ที่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ มีความชำนาญในการสืบสวนสอบสอนปราบปรามคดียาเสพติด ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สามารถเปิดตำแหน่งรองรับได้ทันที
การประชุมครั้งหน้าจึงจะค่อยพิจารณารับกลับ นั่นแหละ โผผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะต้องเก็งกันสนุก ว่าคนที่รักษาการ ผบ.ตร.อยู่จะมีโอกาสตัดคำว่ารักษาการหรือไม่