รองโฆษกรัฐบาลยืนยัน รัฐบาลไม่ได้เข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม เพื่อช่วยอดีตนายกรัฐมนตรี รวมถึงไม่เคยมีแนวความคิดที่จะสร้างรัฐตำรวจ พร้อมทั้งเรียกร้องพันธมิตรฯ เปิดเผย
หลักฐานหลังอ้างว่ามีการดักฟังโทรศัพท์ และติดตามกลุ่มแกนนำ
นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ รองโฆษกรัฐบาลและอดีตแกนนำ นปก. ได้ออกมาตอบโต้แถลงการณ์ฉบับที่ 3/2551 ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีความพยายามที่จะเข้าไปแทรกแซง
กระบวนการยุติธรรม เพื่อพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
พร้อมกับไม่เคยมีแนวความคิดที่จะสร้างรัฐตำรวจ ตรงกันข้างรัฐบาลพยายามทำให้ประเทศไทยกลายเป็นประชารัฐ ซึ่งเป็นรัฐของประชาชนอย่างแท้จริง ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตย นอกจากนี้ยังระบุว่ารัฐตำรวจหรือรัฐทหารจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อบ้านเมืองมีการปกครองในระบอบเผด็จการเท่านั้น
นอกจากนี้ก็ยังได้กล่าวยืนยันในฐานะที่เคยเป็นอดีตแกนนำ นปก.ว่าแกนนำ นปก.ไม่เคยหวังลาภยศสรรเสริญ จากการออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านเผด็จการ ซึ่งแตกต่างไปจากแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บางคนสมัยที่เผด็จการมีอำนาจ ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น สสร. สนช. และรัฐมนตรี
ส่วนกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล ออกมาเปิดเผยว่า แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ถูกติดตามจากคนบางกลุ่ม พร้อมทั้งถ่ายรูปและดักฟังโทรศัพท์นั้น ก็ขอให้นำเอาหลักฐานข้อเท็จจริงออกมาเปิดเผย เพื่อจะได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่า วันนี้เป็นการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มพันธมิตรฯ แล้วทำไมพลตรีจำลอง ศรีเมือง ถึงไม่มาประชุมด้วย กลับอ้างว่าเดินทางไปประเทศเกาหลี ทั้งๆที่พลตรีจำลองทราบมาก่อนหน้านี้แล้วว่าพันธมิตรฯ จะมีการประชุมใหญ่ในวันนี้ "ผมว่ายามเฝ้าแผ่นดินไม่ต้องมาเฝ้าประเทศชาติแล้ว เพราะว่ามีประชาชนเฝ้าอยู่แล้ว แต่ควรแบ่งขุมกำลังให้ไปเฝ้าพลตรจำลองจะดีกว่า" อย่างไรก็ตาม อดีต
แกนนำ นปก. ยังยืนยันว่า นปก.จะไม่ออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมอย่างเด็ดขาด และเชื่อว่าประชาชนจะมีวิจารณญาณในการพิจารณาได้ (12/03/51)