WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, March 13, 2008

กระชากหน้ากาก! อีแอบเบื้องหลังการชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภา

หลายคนขนานนามว่า สว.ปัจจุบันเป็นสว.ผสมพันธ์ ระหว่าง พวกลากตั้ง กับเลือกตั้ง อันเป็นผลพวงมาจากรัฐธรรมนูญฉบับ “ลูกป๋าคาบไปป์” ที่พ่นพิษจนทำให้เกิดลูกผสมสว.แบบอิหลัก อิเหลื่อหัวใจคนในเวลานี้เป็นอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม ประชาชนแบบเราๆท่านๆ ก็มีสว.ครบจำนวน 150 คนโดยสมบูรณ์แล้ว ซึ่งจะมีการประชุมนัดแรกเพื่อเลือกประธานวุฒิสภาในวันที่ 14 มีนาคม ที่จะถึงนี้

รายงานจากภาคสนาม พากันเสนอข่าวบรรยากาศ การเคลื่อนไหวของบรรดาสว.ที่มาจากหลายก๊ก หลายกลุ่ม หลายมุ้ง ว่าช่วงนี้เป็นช่วงล๊อบบี้ให้พรรคให้พวกของตัวเองได้เป็นประธานวุฒิสภากันฝุ่นตลบ

ท่ามกลางการเสนอข่าวความเคลื่อนไหว สื่อมวลชนส่วนใหญ่พากันพุ่งเป้า มุ่งประเด็นไปที่ ความเกี่ยวโยงและความสัมพันธ์ของกลุ่มการเมืองกับสว. โดยยกชื่อของ “นายเนวิน ชิดชอบ” อดีตส.ส.พรรคไทยรักไทย ว่าให้การสนับสนุนส.ว.เลือกตั้งบางคนเป็นวุฒิสภาสอดคล้องกับการพร่ำบ่นของสว.บางกลุ่มที่กำลังเคลื่อนไหวในหน้าข่าวว่า “ประธานสว.ต้องเป็นกลางทางการเมือง”ของกลุ่ม สว.49 นำโดยนายสิริวัฒน์ ไกรสินธุ์ สว.นครศรีธรรมราช มีมติไม่สนับสนุนนายทวีศักดิ์ คิดบรรจง สว.บุรีรัมย์ ซึ่งมีความใกล้ชิดกับนายเนวิน ชิดชอบ เป็นประธานวุฒิสภา(ตามข่าว)

นี่เป็นการกล่าวหาเพียงด้านเดียวว่า อำนาจที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการสนับสนุนสว.ให้เป็นประธานวุฒิสภานั้น คือพวกไทยรักไทยเดิม เท่านั้น! ใช่หรือไม่

นายสิริวัฒน์ ไกรสินธุ์ และสื่อมวลชนที่ชี้นำประเด็นนี้เคยตั้งคำถามและตรวจสอบ บรรดาว่าที่สว.ผู้จะลงสนามแข่งขันตำแหน่งประธานวุฒิสภาทั้งหมดด้วยหรือไม่ อย่างไร

เพราะอย่าลืมว่า สว.ปัจจุบันเป็นสว.พันธุ์ผสม ระหว่าง การเลือกตั้งและการลากตั้งด้วยจำนวน 70 คน ต่อ 74 คน ที่มีนักวิชาการทางด้านกฎหมายน้ำดีออกโรงเตือนตั้งแต่ช่วงออกแบบรัฐธรรมนูญแล้วว่า สว.ลากตั้งอาจจะกลายเป็นที่ซ่องสุมของสมุนเผด็จการที่ค้ำจุนระบอบอำมาตยาธิปไตย กลายเป็นการวางยาทางการเมืองของพวกเผด็จการต่อรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน

ใครเป็นอีแอบเบื้องหลังการชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภา?

มีข้อสังเกตุหลายอย่างบ่งชี้ไว้ว่า หลายต่อหลายคนในบรรดาแคนดิแดทประธานวุฒิสภา มีสายใยเชื่อมโยงกับอำนาจนอกระบบคอยสนับสนุนอาทิเช่น

-อำนาจทหาร อดีตบิ๊กคมช. ว่ากันว่า ให้การสนับสนุน พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก โดยเสนอสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เสนอชื่อให้มาเป็นสว. พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช กล่าวถึงตัวเองว่าจะได้รับการเลือกให้เป็นประธานด้วยการสนับสนุนจาก ส.ว.สายทหารที่มาจากสรรหาและเลือกตั้งรวม 11 คน
หลายคนตั้งข้อสังเกตุถึงความใกล้ชิดและสนิทสนมกับ พลเอก วินัย ภัททิยกุลอดีต เลขาธิการคมช. และปลัดกระทรวงกลาโหม และวิเคราะห์กันว่า หากพล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ได้เป็นประธานส.ว.แล้ว คงไม่พ้นถูกมองว่า เป็นนอมินีของทหารฝั่งคมช.ที่วางยาไว้เพื่อขัดขวางการทำงานของรัฐบาลที่มาจาการเลือกตั้งของประชาชนใช่หรือไม่ ?

-อำนาจตุลาการภิวัฒน์ (วิบัติ) ที่ถูกประชาชนตั้งข้อสงสัยประนามกันทั่วบ้านทั่วเมือง หลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ที่กระบวนการยุติธรรม และองค์คณะที่ทำงานเกี่ยวข้องกับความยุติธรรม ต่างยินยอมพร้อมใจกันมาเป็น “เครื่องมือ” ให้คมช. ยอมรับและสนับสนุนการทำรัฐประหาร และเข้าไปมีตำแหน่งแห่งที่ในองค์กรที่คมช.ตั้งขึ้นอย่างไม่นึกถึงหลักความเป็นกลางและหลักความสุจริต เที่ยงธรรมแต่อย่างใด
หลายคนเรียกร้องให้ผู้ทำหน้าที่พิจารณาคดีความต่าง ไม่ให้มายุ่งหรือเล่นการเมือง แต่รัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ยังออกแบบให้ 7 อรหันต์ แต่งตั้งสว.มาจนได้ เช่น สว.แต่งตั้งสายศาลอย่าง นายประสพสุข บุญเดช ที่ว่ากันว่ากลุ่มเอ็นจีโอ และนักวิชาการฝากฝั่งพันธมิตร และสื่อลิ่วล้อเผด็จการ คอยเป็นแรงใจส่งเสียงเชียร์อย่างเต็มที่ ทั้งยังมีแรงหนุนเป็นนัยยะจากการให้สัมภาษณ์ของคุณหญิงเป็ด ในทำนองที่ว่าเหมาะสมดี แหมใครจะไปกล้าพูดว่าไม่เหมาะ เพราะคุณหญิงเป็นหนึ่งใน 7 อรหันต์ที่เลือกมา แทนที่จะเป็นคนไทยทั้งประเทศ
อย่างนี้ไม่ตั้งข้อสังเกตุว่าเป็นสว.สายศาลก็ดูจะกระไรอยู่ ?
สุดท้ายไปดูกันที่สว.ที่มาจากการเลือกตั้ง

ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น ว่าบรรดาสื่อ และส.ว.ที่มีอยู่หลายก๊กนั้น แม้ว่าจะออกมาแทงกั๊กว่าจะไม่เลือกส.ว.วสายลากตั้งมาเป็นประธานวุฒิสภา และออกมากล่าวว่าจะไม่เอาส.ว.เลือกตั้งที่อ้างว่าได้รับการสนับสนุนจากอดีตนักการเมืองไทยรักไทย
แปลกแต่จริง ท่าทีของส.ว.กลุ่มนี้กลับไปเลือกสนับสนุนส.ว.เลือกตั้งอย่าง พล.ต.ท.มาโนช ไกรวงศ์ ส.ว.สุราษฎร์ธานี ที่ว่ากันว่าแจ้งเกิดได้เพราะแรงใจ แรงสนับสนุนจากพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่เป็นป๋าดันอย่าง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
ที่กล่าวมาทั้งหมดก็คือ ข้อกล่าวหาที่ว่าการเมืองเข้าไปแทรกแซงการเลือกประธานวุฒิสภานั้น
หากเป็นจริงตามข้อสังเกตุที่รายงานมาข้างต้น อำนาจการเมืองที่สื่อและส.ว.ที่อ้างว่าตัวเองเป็นน้ำดีนั้น ต้องไม่ดัดจริตว่าเป็นอำนาจที่ข้องเกี่ยวกับกลุ่มการเมืองที่ตัวเองรังเกียจเท่านั้น
แต่ต้องมองให้รอบด้าน เลิกดัดจริต ด้วยการยอมรับความจริงที่ว่า อำนาจที่ร้ายกาจที่สุดที่เขามาแทรกแซงการเมืองของประชาชนก็คือ อำนาจนอกระบบ ที่เป็นเชื้อชั่วเผด็จการไม่ยอมตายที่แฝงมากับรัฐธรรมนูญฉบับปิศาจ ลูกป๋า คาบไปป์นี่เอง !