รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถามจุดยืนไปยังพรรคประชาธิปัตย์ ว่าหากคดีทุจริตการซื้อรถและเรือดับเพลิงยังอยู่ในกระบวนการยุติธรรมจะส่งนายอภิรักษ์ โกษะโยธินลงสมัคร ชิง
ตำแหน่งผู้ว่า กทม. หรือไม่
นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เรียกร้องไม่ให้นำประเด็นการยุติบทบาทการทำหน้าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือการตัดสินใจ ของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน มาเป็นประเด็นทางการเมือง
รวมถึงใช้เป็นการสร้างมาตรฐานเทียบเคียงในคดีเดียวกันกับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี หรือคดีหวยบนดินของ 3 รัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งหากพรรคประชาธิปัตย์ จะอ้างว่าเป็นการสร้างบรรทัดฐานทางการเมือง ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีเช่นเดียวกับกรณีของนายยงยุทธ ติยะไพรัช จากพรรคพลังประชาชน ที่ยุติบทบาทการทำหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรไปก่อนหน้านี้แล้ว
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังตั้งคำถามไปยังพรรคประชาธิปัตย์ว่า นายอภิรักษ์ จะตัดสินใจลงสมัครเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในสมัยต่อไป และคดีการทุจริตซื้อรถและเรือดับเพลิง ยังอยู่ในชั้นศาล จะมีความเหมาะสมหรือไม่ หรือจะใช้มาตรฐานเดียวกับนายทศพร เทพบุตร ส.ส.จังหวัดภูเก็ต ที่มีคดีเรื่อง สปก. 4-01 อยู่ แต่ได้ส่งลงสมัครจนได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยด้วยว่าจะจัดทำโครงการสำนักโฆษกสัญจร พบสื่อมวลชนภูมิภาคในปีนี้ ให้ครบ 4 ครั้ง 4 ภาค โดยจะเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ขณะนี้ประสบปัญหาภัยแล้ง และที่ดินทำกิน จึงมีแนวคิดที่จะเชิญรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกลุ่มจังหวัดนั้น ๆ ร่วมเดินทางไปรับฟังความคิดเห็นและปัญหามาปรับการทำงานของรัฐบาลด้วย และอาจจะเชิญนายกรัฐมนตรีไปร่วมเป็นบางโอกาส จากนั้นจะเป็นภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ตามลำดับ (14/03/51)