WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, March 12, 2008

หัวมังกือ...หางมังกรเช่นใดกันเล่า?

เป็นใคร? ได้สดับถ้อยวาที
ที่ผ่านพ่นลมปากของ สนธิ ลิ้มทองกุล คราเมื่อตัดสัมพันธ์มิตรไมตรีจากปลายมือของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง มท.1 ก็ต้องให้มีอันต้องลุแก่โทสะ เกรี้ยวกราดเข้าใส่
เมื่อถูกตราหน้าว่าเป็น “องครักษ์พิทักษ์สมัคร” พยายามสร้าง “ราคา” ให้ตัวเอง
พาลเถิดไปถึงอดีตนายกรัฐมนตรี “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร”
ก่อนจะย้อนกลับมาจั่วอีกขยักหนึ่ง ว่าไม่เข้าใจบทบาทหน้าที่ของตัวเอง ในำตำแหน่ง รมว.มหาดไทย ด้วยซ้ำไป
“ชีวิตการเจริญเติบโตของผม มาด้วยคุณธรรมและสัจจะ ผมมีสัจจะคำไหนคำนั้น ผมมีธรรมะ มีขันติ มีความอดทนมาตลอด ส่วนคุณเฉลิมโตมาในแวดวงอำนาจ การพ้นจากสารวัตรกองปราบ และไปร่วมการปฏิวัติในเมษาฮาวาย เพราะเชื่อว่าถ้าทำปฏิวัติชนะแล้ว จะยิ่งใหญ่ในแผ่นดิน

...การติดคุกครั้งนั้น ไม่ใช่สู้เพื่อประชาชน ต่างจากผมมาก พอคุณเฉลิมออกมา ก็เวียนวนในแวดวงอำนาจ สมัยทักษิณมีปัญหาแล้วเราประท้วง คุณเฉลิมทำไมนั่งเฉยๆ เพราะลูกชายกำลังมีคดีความกรณี “ไอ้ปื๊ด”

...ผมเป็นนักเลงมากกว่า คุณเฉลิม เยอะ ผมไม่ยึดติดกับลาภยศ คุณเฉลิมพยายามทำให้คนเข้าใจผิด ว่าคุยกับผมได้ เขาเคยบอกว่า ทักษิณไม่ผิด ก็แสดงว่า คตส.ผิดสิ

ก่อนจะจบท้ายที่คำ “ขอบคุณ”...ผมขอบคุณในน้ำใจไมตรีคุณเฉลิม ในชีวิตผมไม่เคยเป็นหนี้บุญคุณเฉลิม แต่หากอยากรู้คุณเฉลิมเป็นหนี้บุญคุณผมหรือไม่ ให้ไปถามเขาดู”

สำนวนจากปลายสำเนียงของผู้ที่ “ก่น” วาจาอย่างไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม ที่ถอดถ้อยกระบวนความมาให้อ่านกันเล่นๆ ใช่ว่าจะให้บังเกิดคำ “ชื่นชม” ตอบแทนกลับไป
ในเมื่อ ผู้ที่พูดได้เยี่ยงนี้ หาได้เอากระจกมาส่อง “สะท้อนดีชั่ว” แก่ตัวเองก็หาไม่
ความมี “คุณธรรม” หรือ “สัจจะ” ตามที่ได้อวดอ้าง คงจะไม่บังเกิดในตัวตนของคนที่ได้กระทำความผิดจนต้องคำพิพากษาถึง 3 คดี...เช่นนั้นดอกหรือ?

หากแม้จะได้รับความ “ปราณี” อยู่บ้าง แต่ก็หาได้สำนึกในสิ่งที่ตนได้กระทำในที่แล้วมาไม่
กลับกลายเป็นแรงขับส่ง ยั่วยุ ให้ยังลุ่มหลงทะนงใน “เงาตัวเอง”
ยังมัวหลงงมงายในสิ่งที่ได้ “คิด” ได้ “กระทำ” ว่าเป็นความ “ถูกต้อง” เช่นนั้นแล้ว
หาได้ใช้หลักพระพุทธเจ้าที่โปรดสัตว์โลกให้บังเกิด “สติ” จะได้มี “ปัญญา” แยกแยะผิดชอบชั่วดีไม่
ในขณะที่ฟากฝ่ายที่ถูก “ก่น” มา จำต้องยอมรับแต่เพียงคำน้อยว่า “ไม่เป็นไร” ก็คงต้องจบกันไป...ก็เท่านั้น
แล้วก็ยังแอบใจกว้างขอทำหน้าที่ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ประชาชน ให้สมตามเจตนารมณ์ที่มั่นหมาย
ด้วยการเชิญชวน “กลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย” ออกมาชุมนุมกันได้อย่างเสรี ไม่มีห้าม ไม่มีหวง จะให้ใช้สนามหลวง และจัดรถสุขาให้ทันที โดยไม่มีผู้ใดไปขัดขวางแต่อย่างใด
ก่อนจะทิ้งปมประเด็น “ความลับไม่มีในโลก” ให้แกนนำพันธมิตรฯ ไปขบคิดกันเล่นๆ
นั่นอาจเป็น “กรณี” ที่เกิดขึ้นระหว่าง “คนสองคน”
อาจมองเป็นเพียงแค่การปะทะฝีปาก เพื่อประลองชั้นเชิงกันเพียงชั่วครั้งชั่วยาม แต่หากหยั่งให้ลึกลงไปในท่าทีที่ได้ประจักษ์นั้นแล้ว ย่อมได้เห็นถึง “ใจความ” ที่แฝงนัยบางสิ่งบางอย่าง
ที่ข้างหนึ่งพยายามบอกย้ำ ซ้ำๆ กับตัวเอง ว่ากำลังยืนอยู่บน “ความชอบธรรม” จึงออกมาขับเคลื่อนเรียกร้องพลังมวลชนให้กลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง
ขณะที่อีกข้างหนึ่ง ก็พยายามจะกระทำในสิ่งที่เรียกว่า “ความถูกต้อง” เพื่อกอบกู้ภาพลักษณ์ของรัฐบาล ด้วยการหยิบยื่น “ความสมานฉันท์”
แต่ท้ายที่สุดแล้วกลับถูกทำลายลงอย่างสิ้นซาก...
ฝ่าย ร.ต.อ.เฉลิม คงจะนับว่าไม่เสียอะไรมากมาย ด้วยเพราะเป็นผู้ที่มี “ขันติ” มากกว่า มี “ใจนักเลง” เหนือกว่า จึงเลือกทาง “สงบสยบเคลื่อนไหว” ไม่ผรุสวาทมาดร้ายออกมาให้เปลืองตัว
แต่อีกฝ่ายนั้นเล่า...
ใจความประเด็นหลักใหญ่ที่ประชาชนใคร่รู้เกี่ยวกับคุณ “สนธิ ลิ้มทองกุล” ก็ดี
หรือแม้แต่ แกนนำพันธมิตร ที่พยายามออกแถงการณ์ ฉบับที่ 1 ก็แล้ว ฉบับที่ 2 ก็แล้ว และที่จะแถลงกันอีกยกหนึ่งนั่นเล่า

ทำไปเพื่อเป้าวัตถุประสงค์ใด? เพื่อใคร? กันแน่...
เที่ยวไล่กล่าวหาคนโน้นคนนี้ ว่าปูดแผนยุแยง ปลุกปั่นย่อยสลายกำลังมวลชน แล้วแท้ที่จริง พวกคุณกำลังทำเช่นที่กล่าวหาคนอื่นหรือไม่
เค้าว่ากันว่า “หัว” เป็นเช่นไร “หาง” ก็ย่อมเป็นเช่นนั้น
ถ้าหัวเป็น “มังกือ” เสียแล้วหางก็คงจะมิอาจกลายเป็น “มังกร” ไปเสียได้
แล้วถ้า “สนธิ ลิ้มทองกุล” ต้องตกอยู่ในสภานภาพในสังคมเช่นนี้แล้ว
เหล่าบรรดาพันธมิตร...มิตรผู้อ้างเกิดจากประชาธิปไตย เพื่อประชาธิปไตย จะกลายเป็นเยี่ยงไร กันเล่า...