WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, March 13, 2008

เวรกรรมของประเทศไทย

แม้ว่าความพยายามที่จะดึงดันยื่นฟ้องคดีหวยบนดินของ คตส. จะเป็นข้อถกเถียงที่ยังก้ำกึ่งกันอยู่ว่า คตส. มีอำนาจจริงตามที่กล่าวอ้างประกาศ คปค. ฉบับที่ 30 หรือไม่

แต่ก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่า คตส. มีเหตุผลหรือมีเจตนาอย่างไร ที่จะต้องข้ามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม ที่ประกอบไปด้วยพนักงานสอบสวน อัยการ และศาล

ทำไม คตส. จึงไม่ฟังคำทักท้วงของอัยการสูงสุดที่เห็นว่าควรจะกลับไปพิจารณาพยานหลักฐานเพิ่มเติมใน 5 ประเด็น และทำไมจึงต้องรีบร้อนเช่นนั้น

เพราะความเห็นของอัยการสูงสุดดังที่ว่า ย่อมชี้ให้เห็นแล่วว่าสำนวนที่ คตส. ทำไปอ่อนจนไม่น่าจะใช้ฟ้องร้องดำเนินคดีได้ และแน่นอนว่า คตส. ไม่มีทางเชี่ยวชาญในเรื่องคดีความมากไปกว่าอัยการสูงสุด

ซึ่งอาจเป็นเหตุผลให้ คตส. ต้องอาศัยความเป็นอดีตประธานสภาทนายความ ของนายสัก กอแสงเรือง ดึงสภาทนายความเข้ามาช่วยดูแลคดี ท่ามกลางข้อครหาว่าจะต้องไปของบประมาณเพิ่มมาจาก ป.ป.ช. อีกเป็นจำนวนมหาศาล

ทั้งยังเกิดขึ้นท่ามกลางการท้วงติงว่า สภาทนายความ เล่นผิดบทบาทและขัดข้อบังคับ มาตรา 78 ที่ระบุเจตนารมย์ในการช่วยเหลือประชาชนที่ยากจน และถูกเอารัดเอาเปรียบ ไม่มีทางต่อสู้เท่านั้น

รวมไปถึงการพยายามทำหนังสือถึงนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ยุติบทบาท 3 รัฐมนตรี ที่เคยร่วมรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อคราวมีมติเรื่องหวยบนดิน ก็ดูจะเป็นเรื่องแปลกประหลาด

เป็นเรื่องที่น่าจะตีความกันง่ายๆ ไม่ต้องมานั่งถกเถียงกันให้เสียเวลา
เพราะโดยปกติการให้ข้าราชการผู้ใหญ่พ้นจากตำแหน่งไว้ก่อน หรือพักการทำงานไว้ก่อน เมื่อมีข้อกล่าวหา ก็เป็นเรื่องที่ปฏิบัติกันอยู่แล้วโดยปกติ ในระบบราชการไทย

เหมือนอย่างกรณีของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. ที่มีข้อกล่าวหาและถูกตั้งพนักงานสอบสวนในความผิด 3 ประเด็น

ซึ่ง คตส. เองก็น่าจะรู้ดีว่าเจตนารมย์ในเรื่องดังกล่าว ก็เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นออกมาจากการสั่งการในคดีความตามข้อหา

แต่ในกรณีของรัฐมนตรีทั้ง 3 คน ทั้ง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง นางอุไรวรรณ เทียนทอง รมว.แรงงาน และนายอนุรักษ์ จุรีมาศ รมช.คมนาคม นั้นก็ต้องถือว่าพ้นจากหน้าที่มาแล้ว

เพราะข้อกล่าวหาเป็นการกล่าโทษมติคณะรัฐมนตรี ในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่มีทั้ง 3 รัฐมนตรี ร่วมอยู่ด้วยในครั้งนั้น ขณะที่การนั่งเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เป็นคนละตำแหน่ง เป็นคนละเรื่องกัน
แม้ว่ากฎหมายอาจจะมีความคลุมเครืออยู่บ้าง แต่ก็เชื่อว่าอยู่ในวิสัยที่จะทำความเข้าใจได้ไม่ยากจนเกินไป
แต่การที่ คตส. พยายามที่จะพูดถึงเรื่องสถานภาพของทั้ง 3 รัฐมนตรี มากกว่าที่จะพูดถึงเนื้อหาสาระของประเด็นการสอบสวน ที่ขนเอกสารหลักฐานมาโชว์ตั้ง 1 คันรถ

หรือการทำหนีงสือถึงนายกรัฐมนตรี ให้มีการพิจารณาพักงาน 3 รัฐมนตรี อันเป็นการกระทำที่เกินกว่าหน้าที่ และทำเสมือนสั่งการผู้นำรัฐบาล

รวมไปถึงความพยายามที่จะโยงไปถึงกรณีเรือดับเพลิงและรถดับเพลิง ซึ่งเกี่ยวเนื่องถึงนายสมัคร สุนทรเวช เมื่อคราวดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงทพมหานคร ก็คล้ายกับเป็นความพยายามที่จะเทียบเคียงให้เห็นว่าเรื่องราวต้องเป็นไปในแนวทางเดียวกัน

ถึงตรงนี้จึงกลายเป็นคำถามที่เกิดขึ้นกับใครต่อใครหลายคน ว่าแท้ที่จริงแล้ว คตส. มีเจตนาอย่างไรกันแน่ และจะเป็นไปตามที่มีการตั้งข้อสังเกตุกันจริงหรือไม่ว่า คตส. ยังทำตัวเป็นทายาท คมช. ในการทำลายล้างรัฐบาลพลังประชาชนทุกหนทางเท่าที่จะสามารถทำได้

แม้ว่าประกาศ คปค. จะให้อายุทำงานกับ คตส. ไว้ถึงเดือนมิถุยานย แต่หลายฝ่ายก็มีความคิดเห็นตรงกันว่า คตส. สมควรที่จะยุติบทบาทไปได้แล้ว พร้อมๆ กับการยุติบทบาทของ คมช. เพื่อให้บ้านเมืองได้กลับสูระบอบประชาธิปไตยอย่างเต็มรูปแบบ

ทั้งที่มีรัฐบาล มีรัฐสภา จากวิถีทางประชาธิปไตย แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีองค์กรเถื่อน ที่เกิดขึ้นจากเผด็จการ นั่งทำงานล้างผลาญงบประมาณแผ่นดินอยู่ด้วย

ถึงแม้ว่าการทำงานของ คตส. จะมีกฎหมายรองรับ แต่ในแง่ความชอบธรรมนั้นต้องถือว่าหมดไปนานแล้ว และ คตส. เองก็น่าจะสำนึกได้นานแล้วว่า ประชาชนชื่นชมหรือยอมรับในบทบาทมากน้อยแค่ไหน

แล้วไม่ใช่เพราะ คตส. หรอกหรือ ที่ทำให้คนทั้งโลก มองการรัฐประหาร 19 กันยา 2549 เป็นเรื่องตลก ไร้สาระ เพราะไม่สามารถสืบสาวเอาความผิดกับรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างที่คุยเอาไว้ใหญ่โตได้แม้แต่เรื่องเดียว

และ คตส. ได้คิดบ้างหรือไม่ว่าท่ามกลางความชื่นชมยินดีของประชาชนในบรรยากาศประชาธิปไตยที่หายไปนาน ท่ามกลางการกอบกู้วิกฤติทาวงเศรษฐกิจจากปัญหาที่หมักหมมนั้น คตส. กำลังทำลายมัน ด้วยความพยายามดิสเครดิตรัฐบาลที่มาจากประชาชน
ขอยืมคำพูดนายกรัฐมนตรีมาใช้ซะหน่อย...”เวรกรรมของประเทศไทยจริงๆ”...!!