กว่าจะถึงวัน “ม็อบชนม็อบ” 28 มี.ค.!!! ระหว่างนี้ สังคมไทย...คงต้องทนฟัง “สงครามน้ำลาย” ของกลุ่มคนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกันไปพลางๆ ก่อนกลศึก...ทำลายเครดิตฝ่ายตรงข้าม
คือ ยุทธศาสตร์หลักที่ทั้ง 2 ฝ่ายนำมาใช้ เพื่อทำลายศัตรูและสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเองสำหรับ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำโดย 5 แกนนำ+1 ผู้ประสานงาน พวกเขาใช้เวลาเพียง 17 วัน สำหรับการประชุม 3 ครั้ง นับแต่มี...รัฐบาลจากการเลือกตั้งตามครรลองประชาธิปไตย ภายใต้การนำของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี25 ก.พ. เป็นการนัดประชุมปฐมฤกษ์
ตามด้วยการประชุมนัดที่ 2 ช่วง 5 มี.ค.ล่าสุด 12 มี.ค. พวกเขาจัดประชุมครั้งที่ 3 พร้อมออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 3 เรื่อง “เคลื่อน ไหวครั้งที่ 1 : เผด็จการทุนนิยมสามานย์และรัฐตำรวจ”ดุเด็ดเผ็ดร้อนเอามากๆ !!!พร้อมกันนี้ กลุ่มพันธมิตรฯ ยังมีมติให้การเคลื่อนไหวครั้งที่ 1 โดยมอบหมายให้ มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เป็นผู้จัดสัมมนารายการ “ยามเฝ้าแผ่นดินภาคพิเศษ” วันที่ 28 มี.ค. ณ หอประชุมใหญ่ ม.ธรรมศาสตร์
เริ่ม 16.00 น. และไปสิ้นสุดที่ 22.00 น.แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ดาหน้าออกมาอัดทั้ง...นายสมัครและรัฐบาลของเขา รวมถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่เว้นแม้กระทั่ง เครือข่ายของพรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชนแต่ดูเหมือน กลุ่มพันธมิตรฯ เองก็มีปัญหา หลายคนใน แกนนำ “5+1” ถูกต่อต้านจากบางส่วนในสังคมไทยเอามากๆ จำเป็นที่พวกเขาจะต้องสร้าง “กลุ่มพันธมิตรฯ 2” เพื่อทำหน้าที่ “นอมินี” เคลื่อนไหวแทน
ชื่ออย่าง...นายวีระ สมความคิด หรือแม้แต่ นายหนึ่งแก่น บุญรอด รวมถึงคนอื่นๆ ที่จะมีตามมานั้นกลายเป็น “ทางเลือกใหม่” สำหรับ “ทางออก” หากมันจำเป็นแต่พวกเขายังจะได้รับการยอมรับจากแนวร่วมภาคประชาชน...ผู้บริสุทธิ์ใจอีกหรือไม่? หรือทำได้แค่หว่านเงิน “จ้าง” ผู้คนมาร่วมชุมนุม?เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์!!!
และวันที่ 28 มี.ค.นี้ ก็จะถือเป็นวันตรวจเช็กกระแสของประชาชนครั้งสำคัญสำหรับพวกเขาด้วยทั้งหมดได้ถูกบรรจุอยู่ในแผนการทำลายเครดิตคู่ต่อสู้ไม่แปลก! หาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย จะออกมาตอบโต้ เพื่อสร้างความชอบธรรมและความถูกต้อง พร้อมกับ “ตีกลับ” ไปยัง กลุ่มพันธมิตรฯ บ้างโดยเฉพาะประโยคที่ “มท.1” กล่าวถึง กลุ่มพันธมิตรฯ กรณีจะออกมาชุมนุมว่า...
“ไม่มีปัญหา เพราะได้ทำกันมาตั้งแต่ก่อนการปฏิวัติอยู่แล้ว แต่พออยู่ในช่วงปฏิวัติก็ไม่เห็นมีใครออกมาว่าอะไร พอมีประชาธิปไตยก็ออกมาเคลื่อนไหว...”ไม่เพียงแค่นั้น ร.ต.อ.เฉลิม ยังฝากไปยังเพื่อนที่เคยคบกันมากว่า 30 ปี อย่าง...นายสนธิ ด้วยว่า...
“นายสนธิ ลิ้มทองกุล ซึ่งถูกศาลตัดสิน 3 คดี ล้วนเกี่ยวกับคดีหมิ่นประมาท รวมเป็นเวลา 5 ปี 9 เดือน ยังไม่รู้สึกตัวเองอีกหรือว่า ที่ถูกตัดสินจำคุกนั้นเพราะพูดเท็จ แล้วยังจะมาทำท่าแสดง...”แต่ทิ้งท้ายที่ทำเอาสังคมไทย อดตื่นเต้นไปด้วยไม่ได้ก็คือ...
ประโยคที่ ร.ต.อ.เฉลิม ระบุว่า...“มีข้อมูลว่ากลุ่มพันธมิตรฯ เคยรีดไถเงินจากนักธุรกิจรายหนึ่ง เป็นจำนวนหลายร้อยล้านบาท แต่ผมไม่ได้ระบุว่าเป็นแกนนำ เพราะกลุ่มพันธมิตรฯ เองบอกว่า ตัวเองมีสมาชิกหลายหมื่นคนทั่วประเทศ แต่ที่มารีดไถนักธุรกิจรายนี้ครั้งแล้วครั้งเล่าไม่รู้ว่าเพราะอะไร คนที่ถูกรีดไถเป็นคนที่สังคมรู้จัก เพราะเป็นพ่อค้าอยู่ที่สุวรรณภูมิ...”เจ็บและแสบมากๆ สำหรับข้อมูลชิ้นนี้!!!
“บางกอกทูเดย์” เชื่อว่า...สิ่งนี้จะกลายเป็นประเด็นปัญหาใหม่และใหญ่มากๆ สำหรับ กลุ่มพันธมิตรฯสังคมไทยพอคลับคล้ายคลับคลามาบ้างว่า...สมัยที่ กลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาเคลื่อนไหวกดดัน รัฐบาลพรรคไทยรักไทย และ อดีตนายกฯ ทักษิณ นั้นเพราะได้รับทุนสนับสนุนมาจากนายทุนใหญ่คนหนึ่ง???
ครั้งนั้น ว่ากันว่า...เม็ดเงินที่ถูกกดออกมาจาก “ตู้เอทีเอ็มฝังเพชร” มีไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาททว่า จะถึงมือของคนอื่นๆ ที่อยู่รอบนอก (มิใช่คนวงใน)...หรือไม่? เท่าไหร่?
ตรงนี้...มีไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้แต่วันนี้...ตอนนี้ นายทุนคนนั้นกับบางคนของกลุ่มพันธมิตรฯ ผิดใจ...ชนิดไม่เผาผีกันแล้วจำเป็นอยู่เองที่ กลุ่มพันธมิตรฯ จะต้องหาทุนจากแหล่งใหม่ แล้วสังคมไทยก็เพิ่งจะได้รู้ข้อมูลจากปากของ มท.1 นั่นเอง
แต่ที่สงสัยและอดจะถาม ร.ต.อ.เฉลิม ไม่ได้ ก็คือ...ที่ว่าหลายร้อยล้านบาทนั้น ถึงกึ่งหนึ่งของหลักพันหรือมากและน้อยกว่านี้แค่ไหน?
ใครหน้าไหนที่แอบไปรีดไถนักธุรกิจคนนั้น? และเขาเป็นใคร? ทำอะไรอยู่ที่สุวรรณภูมิ? ถึงได้ร่ำรวยขนาดที่ต้องโดนรีดไถ เพื่อให้ใครคนนั้นเอาเงินไปใช้เพื่อภารกิจสร้างปัญหาให้แผ่นดิน
เพราะที่ “บางกอกทูเดย์” รู้มานั้น ขัดแย้งกับสิ่งที่ ร.ต.อ.เฉลิม บอกอย่างสิ้นเชิง!!!เงินที่ใครบางคนใน กลุ่มพันธมิตรฯ ไปกดเอามานั้น
เป็นเงินจากนอกประเทศ และมาจาก “องค์กรลับ” แห่งหนึ่ง ที่มีเป้าหมายแยกรัฐอิสระออกจากประเทศเพื่อนบ้านของไทยแล้วก็ไม่ใช่แค่หลักร้อยล้านบาทด้วย!!!
หากข่าวนี้เป็นจริงล่ะก็ ต้องบอกว่า...ศึกหนนี้สำหรับ รัฐบาลสมัคร 1 และ มท.1 แล้ว คงต้องเหนื่อยกันสุดๆ เลยทีเดียวเพราะ “กระสุน” ของ กลุ่มพันธมิตรฯ ครั้งใหม่นี้ จะมากกว่าทุนที่เคยได้รับจากนายทุนในอดีต ที่วันนี้...กลายเป็นศัตรูกันไปแล้ว…มากนักกระนั้น ก็ต้องให้เครดิตกับ มท.1 ผู้ซึ่งออกมา “ปูดข่าว” เงินทุนที่ใครบางคนใน กลุ่มพันธมิตรฯ ไปรีดไถนักธุรกิจหลายร้อยล้านบาท
เพื่อนำมาใช้ในปฏิบัติการเคลื่อนไหวการเมืองนอกสภาฯจะว่าไปแล้ว...ไม่ว่าเงินจำนวนหลายร้อยล้านบาท ที่ ร.ต.อ.เฉลิม พูดไว้เมื่อวันที่ 12 มี.ค. หรือข้อมูลใหม่ที่ “บางกอกทูเดย์” เพิ่งจะนำออกมาเปิดเผยครั้งนี้อย่างไหนจะใกล้เคียงความเป็นจริงมากกว่ากันแต่มันก็คือ เงินหลักร้อยล้านที่จะกลายมาเป็นพิษ...ตามหลอกหลอนและเล่นงานเอากับใครบางคนในกลุ่มพันธมิตรฯ
และนี่...จะเป็นการ “รุกกลับ” แบบฉับพลัน ที่อาจทำให้ใครบางคนในกลุ่มพันธมิตรฯ หมดโอกาสจะ “กลับตัว” หรือจำต้องเผ่นออกนอกประเทศ ชนิด...ตายก็ไม่ได้ฝังกลบในแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เพราะมัน คือ การ “รุกกลับ” ครั้งแรกและครั้งสำคัญ ที่ กลุ่มพันธมิตรฯ เพิ่งได้เจอของจริง!!!