กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ออกตัวปัดความรับผิดชอบพัลวัน ยืนยันพฤติกรรม 8 โจรปล้นสถานีโทรทัศน์ NBT ที่เป็นสมาชิกพรรค เป็นเรื่องส่วนตัว พรรคไม่ขอรับผิดชอบอะไรทั้งสิ้น แม้ว่า พ.ร.บ.พรรคการเมือง จะระบุชัดกรรมการบริหารพรรคต้องควบคุมสมาชิกไม่ให้กระทำผิดกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญ ก็ตาม
เหตุการณ์ 85 โจรศรีวิชัย บุกเข้าปล้นทำลายทรัพย์สินสถานีโทรทัศน์ NBT เมื่อเช้ามืดวันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา นอกจากจะพบว่ามี 2 คน ในจำนวนนั้นใกล้ชิดสนิทสนมกับกลุ่มพันธมิตรทำลายประชาธิปไตย คือนายนิติรัตน์ ทรัพย์สมบูรณ์ รองผู้ประสานงานพันธมิตรฯ และนายนัสเซอร์ ยีหมะ หัวหน้าการ์ดพันธมิตรฯ แล้ว
ล่าสุดจากการตรวจสอบข้อมูลจาก กกต. ยังพบว่าในจำนวนดังกล่าวมี 9 รายที่เป็นสมาชิกพรรคการมือง โดยเป็นสมาชิกพรรคการเมืองพรรคเล็ก 1 ราย และอีก 8 รายเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ อันเป็นที่มาของการตั้งคำถามจากสังคมว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น พรรคประชาธิปัตย์จะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร
เพราะสาระสำคัญใน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ได้ระบุเอาไว้ชัดว่าพรรคการเมืองจะต้องมีความรับผิดชอบต่อการกระทำของสมาชิกพรรค โดยในมาตรา 10 ระบุว่าข้อบังคับพรรคการเมืองต้องสอดคล้องกับหลักฐานการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและอย่างน้อยต้องมีรายการดังต่อไปนี้
(9) ความรับผิดชอบพรรคการเมืองต่อสมาชิก
(10) วินัยและจรรยาบรรณของสมาชิก กรรมการบริหารพรรคการเมือง และกรรมการสาขาพรรคการเมือง
ขณะที่มาตรา 18 วรรค 1 ระบุว่า คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีหน้าที่ต้องควบคุมไม่ให้สมาชิกพรรคกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง อันเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ กฎหมายหรือระเบียบ หรือประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง
อย่างไรก็ดี กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ได้ปฏิเสธการแสดงความรับผิดชอบในเรื่องกล่าว โดยอ้างว่าความผิดของสมาชิกพรรคเป็นเรื่องส่วนตัว
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ได้เปิดเผยถึงท่าทีของพรรคว่า คงจะไม่มีการออกมาแถลงอะไรในเรื่องดังกล่าว โดยอ้างว่าปัจจุบันมีสมาชิกพรรคทั่วประเทศกว่า 2 ล้านคน การที่คนในพรรคจะไปกระทำความผิดแล้วจะเอามาโยงเป็นเรื่องของพรรคที่จะต้องออกมาแสดงความรับชอบ ตรงนั้นไม่ใช่ประเด็น เพราะว่าเป็นเรื่องส่วนตัวเป็นสิทธิของแต่ละบุคคล เหมือนกับสมาชิกไปถ่ายรูปแล้วเกิดเป็นความผิดนั้นก็เป็นความผิดส่วนบุคคล เป็นเรื่องของบุคคลไม่เกี่ยวกับพรรค
“การที่สมาชิกในพรรคของเราไปกระทำความผิด ไม่ได้มีอะไรไปรองรับว่าสิ่งที่สมาชิกไปกระทำความผิดจะเป็นความผิดของพรรคด้วย ผมอยากให้มองในเรื่องของความเป็นส่วนบุคคล และเราก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามีสมาชิกในพรรคของเราที่ไปร่วมอยู่ในการชุมนุมในครั้งนี้ ซึ่งก็เป็นสิทธิของเขาที่จะกระทำได้ ใครจะไปรู้นอกจากสมาชิกจากพรรค อาจจะมีสมาชิกจากพรรคไทยรักไทย และสมาชิกจากพรรคอื่นๆ เข้าร่วมการชุมนุมด้วยก็ได้” นายสาทิตย์กล่าว