คอลัมน์ : สามเหลี่ยมดินแดง
00 หนังสือพิมพ์ประชาทรรศน์ สื่อทางเลือกของประชาชน เพื่อประชาธิปไตย เจตนารมณ์แน่วแน่มั่นคง ขัดขวางทุกวิถีทางกับกระบวนการพยายามนำลัทธิอุบาทว์ในคราบของการเมืองใหม่เข้ามาแทนการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับวันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ.2551
00 แพลมออกมาแล้วจากปาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ผู้รับผิดชอบประกาศพระราชกำหนดภาวะฉุกเฉิน จะเสนอให้มีการยกเลิก เพราะมวยเลิกชกกัน ตั้งเวทีชุมนุมกันคนละจังหวัด จึงไม่มีประโยชน์อันใดที่จะต้องมีกรรมการห้ามมวยไม่ให้ชกกัน
00 ว่าไปแล้ว พ.ร.ก.ฉุกเฉิน น่าจะยกเลิก หลังจากที่ กลุ่มพันธมิตรฯ ยังคงขัดคำสั่งยึดทำเนียบรัฐบาล โดยที่หัวหน้าผู้รับผิดชอบแถลงชัดเจน ทหารจะไม่ใช้ความรุนแรง จะใช้วิธีการเจรจา ภารกิจหลักจะห้ามไม่ให้ผู้ชุมนุมทั้งสองฝ่ายปะทะกัน ผลของประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เห็นผลชัดเจนประการเดียวเท่านั้น คือ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ประกาศสลายการชุมนุมที่ท้องสนามหลวง ไปปักหลักชุมนุมต่อต้านกระบวนการทำลายประชาธิปไตยกันที่ท่าน้ำนนทบุรี นอกเขตพื้นที่ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน บังคับใช้ แค่นั้นเอง คุ้มกันหรือกับที่ อุตส่าห์สุมเศียรประชุมหามาตรการกันครึ่งค่อนวัน หากมองอีกด้าน คุ้มเกินคุ้มสำหรับหัวหน้าผู้รับผิดชอบ ได้คะแนนจากประชาชนไปเต็มเม็ดเต็มหน่วย ขณะที่คนออกคำสั่งถูกประณามต่างๆ นานา
00 วันนี้สายๆ ประเทศไทยจะได้ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ จะเป็นคนหน้าเดิมหรือหน้าใหม่ ขึ้นอยู่กับสามัญสำนึกของบรรดาท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้ทรงเกียรติ เพราะรัฐธรรมนูญให้เอกสิทธิ์เต็มที่ในการเลือกนายกรัฐมนตรี นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร คิดถูกทำถูกแล้ว ที่เรียกประชุมด่วนในวันนี้ ขืนยืดเวลาออกไปตามเสียงเรียกร้องของพลพรรคประชาธิปัตย์ ยิ่งสร้างความเสียหายมากขึ้น
00 แต่ ช้า แต่ ไม่ว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่จะเป็นคนหน้าเก่าหรือหน้าใหม่ เอกฉัตร ปลงได้แล้วว่า ไม่สามารถแก้วิกฤติให้กับการเมืองไทยได้ในระยะสั้น เพราะต้นตอของปัญหาวิกฤติการเมืองไทย เกิดจากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรทำลายประชาธิปไตย ตั้งเงื่อนไขเรียกร้องไม่มีที่สิ้นสุด ได้คืบจะเอาศอก ได้ศอกจะเอาวา จนสุดท้ายบุกยึดทำเนียบรัฐบาล ประกาศชัยชนะอย่างเด็ดขาด จึงเสนอลัทธิอุบาทว์ขึ้นมา ไม่ยอมรับอำนาจของประชาชนหากมีการยุบสภา แต่เป็นเรื่องแปลกที่ต้นตอของวิกฤติการเมืองไทย ไม่มีใครกล้าพาดพิงถึง
00 ฟังแถลงการณ์ของ ฯพณฯ ทั่นสุริยะใส กตะศิลา 1 ใน 9 กบฏ ไม่ต้องแปลความให้เปลืองสมอง ไม่ว่านายกรัฐมนตรีจะเป็นใคร??? หากเป็นคนในพรรคพลังประชาชน กลุ่มพันธมิตรฯ รับไม่ได้ นอกจากจะตั้งรัฐบาลแห่งชาติ เพื่อเดินไปสู่เป้าหมายลัทธิอุบาทว์ที่เรียกกันว่าการเมืองใหม่
00 เพราะงั้น เอกฉัตร ในฐานะกองเชียร์รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย หนุนสุดตัวให้พรรคพลังประชาชน เสนอให้ นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี อีกครั้ง โดยที่ อดีต นายกฯสมัคร ลุกขึ้นประกาศไม่ขอรับตำแหน่ง แค่นี้ก็ได้ใจประชาชนไปเต็มๆ จากนั้นให้คนไทย ร่วมกันทวงถาม 9 กบฏ ยังจะทำร้ายทำลายประเทศไทยไปถึงไหน หากยังยึดทำเนียบรัฐบาลต่อไป แต่ต้องทำใจไว้ล่วงหน้า คงเป็นไปได้ยาก เพราะหากไม่มี ผ้าถุงผู้หญิงกับจีวรสีกรักคุ้มกะลาหัวไว้ ทั้ง 9 กบฏก็จะต้องถูกจับกุมทันที
00 ขำกลิ้งยิ่งกว่าดูสารคดีขำกลิ้งลิงกับหมา กับ ข้อแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ที่กลุ่ม 9 กบฏ ไม่ยอมมอบตัวตามหมายจับ ไม่อยากจะทิ้งประชาชนที่ถูกปลุกระดมให้มาชุมนุมยึดทำเนียบรัฐบาลไว้ทำนา แต่ข้อเท็จจริงนั้น แต่ละคนอยู่ในสภาพปากกล้าขาสั่น คงจำกันได้ นายสนธิ ลิ้มทองกุล หัวหน้ากบฏเคยประกาศไว้ หากถูกจับกุมตัว จะไม่ขอประกันตัวชั่วคราว ขืนมอบตัวหรือถูกจับกุมวันนี้ ก็ต้องนอนคุกแน่นอน หากไม่ยอมกลืนน้ำลายตัวเอง
00 เมื่อครั้งเสนอมาตรา 7 ขอพระราชทานนายกรัฐมนตรี แก้ปัญหาวิกฤติ ก็เป็นงงพออยู่แล้วสำหรับแนวคิดของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พรรคการเมืองเก่าแก่ที่สุดของประเทศนี้ และยึดมั่นอุดมการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง มาวันนี้ยิ่งงงหนักจนเดินไม่เป็น กลับบ้านไม่ถูก กับข้อเสนอ ตั้งรัฐบาลแห่งชาติ โดย มาร์ค มอเจ็ด ตัวสั่นอาสาเป็นนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลแห่งชาติ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ปฏิเสธ ไม่เอ๊า ไม่เอา ก็ดีไปอย่าง แก้ผ้าให้เห็นกันล่อนจ้อนอย่างนี้ อย่างน้อยอายุแค่ 44 ปี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้แล้ว ทั้ง นายกรัฐมนตรีเงา และ นายกรัฐมนตรีแห่งชาติ แต่นายกรัฐมนตรีตัวจริง ตามระบอบประชาธิปไตย คงอีกนานนะ มาร์ค มอเจ็ด
00 เอกฉัตร อุตส่าห์เผลอตัวชมเชย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เปิดตัวเป็นผู้เสียสละ เสนอให้ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ยุบสภา แต่มาวันนี้กลับ ดี๊ดด๊าดดี๊ด๊า จะเป็นนายกรัฐมนตรีรัฐบาลแห่งชาติ สอดรับกับข้อเสนอของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ มาร์ค มอเจ็ด ยกโขยงไปเยี่ยมเยียนให้กำลังใจกันถึงทำเนียบกบฏ ชะเอย
00 เปิดตัวไม่หวือหวาตามสไตล์นักบริหาร ถนัดทำงานมากกว่าคุยโม้สร้างภาพ ทำให้คะแนนของ นายประภัสร์ จงสงวน ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 10 พรรคพลังประชาชน ดีวันดีคืน นี่ไงที่เรียกกันว่า ลูกผู้ชายไม่ได้ดูกันที่นุ่งกางเกง รู้ทั้งรู้ว่า อนาคตของพรรคพลังประชาชนอยู่ในอัตราเสี่ยงถูกยุบพรรค แต่สมัครใจที่จะร่วมงานกับพรรคพลังประชาชน คนอย่างนี้หาได้ไม่ง่ายนักในสังคม อ.ต.ร. แปลว่า เอาตัวรอด
00 บรรทัดนี้ เอกฉัตร ขอใช้พื้นที่ตรงนี้สมมติเป็นผ้าขาว กราบขอบคุณท่านผู้มีอุปการคุณทุกท่านที่ยังให้การสนับสนุนหนังสือพิมพ์ประชาทรรศน์ แม้จะขึ้นราคาเป็น 10 บาท และขอบคุณบริษัทห้างร้านและทุกหน่วยงานที่แจ้งความจำนงแสดงความยินดีในโอกาสหนังสือพิมพ์ประชาทรรศน์ ครบขวบปี ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ขอบคุณครับ ขอบคุณ
เอกฉัตร