DSI ส่งเจ้าหน้าที่แจ้งเลขาฯ กกต. ถึงมติ กคพ. ให้เดินหน้าสอบคดีฮั้วพิมพ์บัตรเลือกตั้งได้เต็มสูบ หลังจากเคยถูกเกี่ยงงอนว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ ไม่มีอำนาจดำเนินการ พร้อมร้องขอ กกต. ให้ความร่วมมือ เตรียมเรียกพยานบุคคลตามหมายเรียกมาให้ข้อมูล คาดหากได้รับความร่วมมือใช้เวลาไม่เกิน 2 เดือน สรุปสำนวนคดีได้
กรณีคดีฮั้วพิมพ์บัตรเลือกตั้ง ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เคยออกมาโต้แย้งในเรื่องอำนาจการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวของ DSI ว่าไม่เข้าข่ายขอบเขตอำนาจในการสอบสวนข้อเท็จจริง จนเกิดเป็นข้อถกเถียงกันอยู่นาน นั้น
หลังจากที่ พล.ต.ท.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นำเรื่องดังกล่าว เข้าที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) เพื่อลงมติรับคดีไว้เป็นคดีพิเศษภายใต้อำนาจสอบสวนของดีเอสไอ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2551 ที่ผ่านมา ต่อมา คณะอนุกรรมการ กคพ.ก็ได้ลงมติว่า ดีเอสไอมีอำนาจสอบสวนคดีดังกล่าว จึงเตรียมเสนอให้บอร์ด กคพ.ลงมติรับเป็นคดีพิเศษ และดำเนินการสอบสวนในเรื่องดังกล่าวต่อไป
ล่าสุด พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย ผู้บัญชาการสำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีฮั้วประมูลการพิมพ์บัตรเลือกตั้งของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า ตนเองได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ แดงสุรีย์ศรี พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เข้าพบ นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. เพื่อแจ้งให้ทราบถึงมติของคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) แล้ว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาข้อกังวลสงสัยอีก
“เป็นการยืนยันว่า คดีเกี่ยวกับการพิมพ์บัตรเลือกตั้ง อยู่ในอำนาจสอบสวนของ DSI จึงขอให้ทาง กกต. ร่วมมือในการจัดส่งพยานเอกสารทั้งหมดเกี่ยวกับการประมูลพิมพ์บัตรเลือกตั้ง ตามที่พนักงานสอบสวนร้องขอ รวมถึงการส่งพยานบุคคลตามหมายเรียกมาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน”
ทั้งนี้หาก DSI ได้รับความร่วมมือจาก กกต. คาดว่าจะใช้เวลาในการสอบสวนไม่เกิน 2 เดือน จึงจะสามารถสรุปสำนวนคดีได้ เนื่องจากที่ผ่านมา DSI ได้รวบรวมพยานหลักฐาน และสอบปากคำพยานบุคคลจากหลายส่วนไว้เกือบเสร็จสิ้นแล้ว