คอลัมน์ : ละครชีวิต
บ้านเมืองเรายังหาทางออกไม่เจอ ท่ามกลางความเบื่อหน่ายของผู้คน พลันก็ได้ยินเสียงปฏิวัติรัฐประหารเกิดขึ้น
แม้หนทางจะมืดมนอย่างไร ผมก็ไม่เห็นด้วยกับการทำรัฐประหาร เพราะเท่ากับซ้ำเติมให้ประเทศชาติเสียหายมากกว่าที่เป็นอยู่อีกหลายร้อยเท่า
ขณะนี้นักข่าวสายทหารเขาเริ่มนับถอยหลังกันแล้วว่าทหารจะออกมาปฏิวัติกันวันไหน
เมื่อวันก่อน พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการ คมช. ก็ออกมาให้ข่าวถึงปัญหาวิฤกติทางการเมืองที่เกิดขึ้นว่า ทุกฝ่ายไม่ควรมุ่งแต่เอาชนะ และรัฐบาลควรเสียสละทบทวนตัวเอง
เนื่องจากไม่สามารถบริหารราชการแผ่นดินให้พ้นจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะกระทำผิดหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เห็นว่าปัญหาทางการเมืองต้องแก้ไขด้วยวิถีทางประชาธิปไตย ไม่ใช่การปฏิวัติ
“แต่หากระบอบประชาธิปไตยไม่สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ และทำให้ประเทศติดหล่ม อาจมีความจำเป็นต้องใช้วิธีการดังกล่าว”
นั่นคือข้อคิดเห็นของ อดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการ คมช. ที่ต้องจับตาว่าส่งสัญญาณอะไรมาหรือไม่
การทำปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงที่ประเทศชาติได้รับจากคณะทหารกลุ่มหนึ่ง
ถ้าเราพูดถึงทางออกประเทศไทยขณะนี้ หรือ ชั่วโมงนี้ ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่คงจะพูดถึงด้วยความรู้สึกที่ “หดหู่ใจ” มากกว่าความรู้สึกที่ “ภาคภูมิใจ”
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในนาทีนี้ ที่บ้านเมืองกำลังถึง “ทางตัน” ทหารก็เกิดกิเลสอยากหาโอกาสปฏิวัติรัฐประหาร
ท่านผู้อ่านครับ ประเทศไทยเรากำลังเผชิญกับ “การปฏิวัติ” ที่ซ้ำซาก การปฏิวัติเกือบทุกครั้งอยู่ภายใต้วงจรอุบาทว์
หากประเทศไทยไม่สามารถหลุดออกจากกับดักของวงจรอุบาทว์นี้ ประเทศก็จะไม่มี “เสถียรภาพ” เมื่อไม่มีเสถียรภาพ ความเชื่อมั่นก็จะไม่เกิด
เมื่อขาดความเชื่อมั่น โอกาสที่จะนำพาประเทศไทยไปสู่การพัฒนา ก็เป็นไปได้ยากหรือเป็นไปไม่ได้เลย
พวกเราไม่ค่อยใส่ใจอย่างจริงจังในความพยายามที่จะตัดวงจรอุบาทว์นี้ บางคนกลับมองว่าวงจรอุบาทว์นี้เป็นสัจธรรมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของการเมืองไทยด้วยซ้ำไป
นิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ระบุว่า ตลอดช่วงอายุกว่า 60 ปี ผ่านเหตุการณ์การรัฐประหารมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่มีการรัฐประหารครั้งใดที่สร้างความเสียหายให้มากเท่า 19 กันยายน 2549
เพราะเป็นการทำลายกระบวนการสร้างการเรียนรู้ทางประชาธิปไตยของประชาชนทุกอย่างลงอย่างสิ้นเชิง
ดังนั้น วิกฤติการเมืองครั้งนี้จะเป็นแบบทดสอบประชาธิปไตยได้เป็นอย่างดีว่าผู้มีอำนาจจะเลือกการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีใด
หากเลือกการปฏิวัติรัฐประหาร ประเทศไทย คงได้ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์โลกว่าเป็นประเทศที่เผด็จการที่สุด
และถึงวันนั้นความหายนะก็จะเกิดขึ้นกับทุกคน !
ลวดหนาม