คอลัมน์ : บทบรรณาธิการ
ปัญหาการเมืองไทยที่กำลังตกอยู่ในหลุมดำมืด เนื่องเพราะรัฐธรรมนูญ 2550 ที่บรรดาพวกเผด็จการอำมาตยาธิปไตยได้ร่วมกันสร้างเอาไว้ กำลังไล่แผลงฤทธิ์สำหรับรัฐบาลที่มาจากฝ่ายประชาธิไตย ที่มีฐานที่มั่นจากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ นั่นคือกลุ่มประชาชน “รากหญ้า” เจ้าของอำนาจอธิปไตยตัวจริง เสียงจริง!!!
หลายคนกำลังสับสนกับการใช้รัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นเครื่องมือของฝ่ายอำมาตยาธิปไตย เข้ามาผลักดันการดำเนินการกับรัฐบาลที่มีผู้คนระดับรากหญ้าเลือกเข้ามา โดยผ่านกระบวนการ ตุลาการภิวัตน์ ซึ่งกลุ่มต่อต้านรัฐบาลมักจะหยิบยกมากล่าวอ้างตลอดเวลา
คดีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ปราสาทเขาพระวิหาร ที่นักวิชาการวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีการใช้ตีความเกินรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 มากินแดนฝ่ายบริหาร
มาจนถึงกรณีการตัดสินคดี “ชิมไปบ่นไป” ที่ถูกนำมากล่าวอ้างว่า แค่ “ชิม”!!! ยังไม่ทันกิน ก็โดนปลดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเสียแล้ว
มีการตั้งข้อสังเกต การบอกกล่าวเหตุผลต่อสังคมว่า ทำไมจึงไม่ใช้ร่างพระราชบัญญัติแรงงาน ในการตีความคำว่า “ลูกจ้าง” ทั้งที่เป็นกฎหมายฉบับเดียวที่น่าจะใช้เทียบเคียง เพราะกฎหมายอื่นไม่มีความเกี่ยวข้องด้วยแต่อย่างใด
การอธิบายยากจะฟังขึ้นเกี่ยวกับการจัดรายการ “ชิม” อาหาร จะเกี่ยวพันกับผลประโยชน์ทับซ้อนกับการเป็นนักการเมือง เป็นผู้บริหารเบอร์หนึ่งของประเทศ จนทำให้ชาติบ้านเมืองเสียหาย อันเนื่องจากการเป็นพิธีกรจัดรายการได้อย่างไร เป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก
นักการเมืองพรรคหนึ่งถูกตีความกฎหมายอย่างเคร่งครัดเกินกว่าข้อกำหนดของกฎหมายด้วยซ้ำไป
ขณะที่นักการเมืองอีกพรรคหนึ่ง ผู้บริหารราชการเบอร์หนึ่งเหมือนกัน ไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สินในเรื่องหุ้นสหกรณ์ธรรมศาสตร์ และหุ้นสหกรณ์โคออฟ เนื่องจากเป็นหุ้นเสน่หา กลับได้รับการยกเว้นให้ อ้างว่าไม่เข้าข่าย ไม่เข้าเจตนารมณ์
วันนี้บ้านเมืองว่างเว้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต้องมีการโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แม้ว่าพรรคแกนนำต้องการจะโหวตสนับสนุนคนเดิมมาเป็นอีก
ปัญหาบ้านเมืองยังไม่มีวันยุติไปได้ง่ายๆ เนื่องจากยังไม่ได้แก้ไขปัญหาที่จุด ที่ต้นตอ นั่นคือ รัฐธรรมนูญ ที่เป็นผลผลิตในยุคคณะปฏิวัติรัฐประหารเรืองอำนาจ ที่วางเครือข่าย วางเครื่องมือเอาไว้ใช้เพื่อการเหล่านี้
รัฐบาลสมัครถอยร่น ในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
รัฐบาลสมัครถอยร่น ในเรื่องการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย
วันนี้หากจะเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ไม่ว่าจะเป็นคนใหม่ หรือคนเก่า เราอยากจะเห็นความกล้าหาญ โดยให้คำมั่นสัญญากับพี่น้องประชาชน จะใช้ความกล้าหาญในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในเนื้อหาที่ไม่เป็นประชาธิปไตย และ ใช้ความกล้าหาญสลายการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย การใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย
วันนี้เราต้องการผู้นำที่เข้มแข็ง และกล้ากำจัดเนื้อร้ายไปจากสังคมการเมืองไทย ไม่อย่างนั้นบ้านเมืองไม่มีวันสงบสุข