คอลัมน์ : สามเหลี่ยมดินแดง
00 หนังสือพิมพ์ประชาทรรศน์ สื่อทางเลือกของประชาชน เพื่อประชาธิปไตย ฉบับวันพุธที่ 10 กันยายน พ.ศ.2551 ไม่ได้ผิดไปจากการคาดหมายล่วงหน้า ในที่สุดการเมืองไทยมาถึงจุดเปลี่ยนท่ามกลางการเมืองวิกฤติ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยลงมติเป็นเอกฉันท์ ให้ นายสมัคร สุนทรเวช สิ้นสุดการเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี เพราะเป็นลูกจ้างรายการชิมไปบ่นไป ร่วมกีนแสวงหาผลประโยชน์ นั่นหมายถึงว่านับจากนี้ไปหนึ่งเดือนเป็นอย่างน้อย ประเทศไทยต้องหยุดอยู่กับที่ รอรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งแน่นอน 6 พรรคการเมืองร่วมรัฐบาลยังคงเหนียวแน่นที่จะจับมือกันปกป้องประชาธิปไตย แต่ใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีนั่น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน
00 ครึ่งเดือนผ่านไป 9กบฏพาสมุนบริวารยึดทำเนียบรัฐบาล สร้างความฉิบหายวายวอดให้กับประเทศไทยเหลือคณานับ ในขณะที่รัฐบาลของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เป็นรัฐบาลที่มีความถูกต้องชอบธรรมทุกประการ กลับไม่กล้าใช้อำนาจบังคับใช้กฎหมายให้เป็นกฎหมายกับผู้กระทำความผิดคิดชั่วกับประเทศชาติ แล้วประชาชนจะอยู่กันอย่างไรในเมื่อปล่อยให้กฏหมู่อยู่เหนือกฎหมาย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ จะต้องตั้งวงสนทนาทบทวนบทบาทกันใหม่ เลิกกันเสียทีกับการนั่งสุมเศียรถกเถียงกันหน้าดำคร่ำเครียดเพื่อออกกฎหมายขึ้นมาบังคับใช้ ในเมื่อมีคน9คน ตกเป็นผู้ต้องหากบฏ ซึ่งศาลเป็นผู้ออกหมาย แต่ 9 กบฏไม่ยอมรับข้อกฎหมาย โดยใช้กฏหมู่ผ้าถุงและจีวรสีกลักมาป้องกัน แล้วสภาผู้แทนราษฎร จะร่างกฎหมายขึ้นมาทำแสงด้ามหอกทำไมให้เสียเวลาเปลืองน้ำลาย
00 สองสามวันที่ผ่าน เอกฉัตร เจอฝนเข้าหน่อย ไม่ถึงกับเจอลูกเห็บ ดันเป็นโรคทันสมัยไข้หวัดใหญ่ ไปหาหมอตรวจเช็กเครื่องตามประสาผู้ชรา ได้นั่งคุยกับหมอถึงสถานการณ์บ้านเมือง พบว่าบรรดาคุณหมอก็มีความเป็นห่วงบ้านเมืองไม่ต่างจากอาชีพอื่นๆ แต่ส่วนใหญ่ยังทำตัวเป็นพลังเงียบ ไม่กล้าออกมาแสดงตัวไม่เห็นด้วยกับการกระทำของ 9 กบฏ เพราะแต่ละคนไม่อยากจะให้ชื่อและโคตรเง้าถูกสับโขกในรายการเรียลลีตี้โชว์ทางเคเบิลทีวีเอเอสทีวี
00 คุณหมอบอกว่า กลุ่ม9กบฏ ปากพูดว่ารักชาติ กู้ชาติ แต่กลับไม่สำเหนียกสักนิด การยึดทำเนียบรัฐบาลทำแปลงนาผืนน้อย เป็นการทำลายชาติ สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ ปลุกระดมให้รัฐวิสาหกิจผละงาน สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนกันถ้วน แล้วยังอ้างไม่อายปากว่าทำเพื่อประชาชน และที่น่าเป็นห่วงที่สุดในวันนี้ ตรงที่เมื่อ 9 กบฏ หมดมุกที่งัดออกมาเล่น เพราะการยึดทำเนียบถือว่าที่สุดของที่สุดแล้ว จึงให้นักเรียน นักศึกษากลุ่มหนึ่งออกมาเสริมทัพ อ้างว่าเป็นความคิดอิสระทางการเมือง ปลูกฝังความคิดทางการเมืองให้กับเยาวชน แต่ในความเป็นจริง กลุ่ม 9 กบฏกำลังป้อนยาพิษทางการเมืองให้กับเด็กนักเรียนนักศึกษา ปลูกฝังให้เด็กเห็นกฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย วังเวงเต็มทีกับอนาคตของประเทศไทย
00 ใช่ไม่เถียง เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 นักเรียน นิสิต นักศึกษา มีบทบาททางการเมืองเป็นที่ประจักษ์ แต่เหตุการณ์ในครั้งนั้น เป็นการรวมตัวของนักเรียน นิสิต นักศึกษา เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยจากรัฐบาลเผด็จการ จอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่วันนี้รัฐบาลของ นายสมัคร สุนทรเวช เป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย เป็นเรื่องไม่สมควรที่จะใส่ยาพิษให้กับนักเรียน นิสิต นักศึกษา เห็นดีเห็นงามไปกับการใช้กฎหมู่เหนือกฎหมาย
00 โถ...โถ...โถ...คงคิดว่าเมื่อสามารถยึดทำเนียบรัฐบาลได้เรียบร้อย ประกาศชัยชนะอย่างอหังการ์ของ 9 กบฏนั้น ทุกคนทุกกลุ่มในประเทศนี้จะต้องทำตามความต้องการ 9 กบฏ กระนั้นหรือ หลายคนแทบจะขว้างรองเท้าใส่ทีวี เมื่อเห็นหน้าดำๆของ นายสุริยะใส กตะศิลา หนึ่งใน 9 กบฏออกมาปฏิเสธการยุบสภา ซึ่งถือเป็นอำนาจเต็มในมือของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย
00 คำประกาศของ นายสุริยะใส กตะศิลา จะมองเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ การเมืองใหม่ของ 9 กบฏที่เตรียมการไว้เป็นระบอบการปกครองประเทศไทย ปฏิเสธอำนาจของประชาชนนั้นเอง ระบบ 70 : 30 ที่กำหนดขึ้นมา จึงไม่ใช่การเมืองระบอบประชาธิปไตยอย่างแน่นอน จะเป็นลัทธิอุบาทว์อะไรยังไม่เผยโฉมแน่ชัด คงรอวันประกาศชัยชนะอย่างเด็ดขาดของสงครามครั้งสุดท้าย ซึ่งคงอีกไม่นาน ถ้ายังปล่อยให้กฏหมู่อยู่เหนือกฎหมายอยู่อย่างนี้ หยุดเถอะ หยุดคิดกันเสียทีที่จะใช้การเจรจาเพื่อให้ปัญหาคลี่คลาย ในเมื่อ 9 กบฏปฏิเสธการเจรจาประสามนุษย์ยุคประชาธิปไตย
00 วันนี้ เอกฉัตร จะถามประชาชนส่วนใหญ่เจ้าของประเทศ จะรอวันให้ 9 กบฏประกาศลัทธิอุบาทว์ใช้แทนการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขกระนั้นหรือ นี่คือคำถามที่อยากให้ทุกคนต้องทบทวน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ร่วมขบวนการยึดทำเนียบรัฐบาล เห็นดีเห็นงามกับการปลุกระดม ต้องคิดให้หนักกว่าใคร ยังไม่สายเกินไป ที่จะยอมเจ็บตัวฝ่าดงกองโจรศรีวิชัยออกมาประกาศตัวเป็นอิสระ ล้างบาปให้กับตัวเองที่หลงผิดคิดชั่วไปกับ 9 กบฏพันธมิตรทำลายประชาธิปไตย เหมือนกับพันธมิตรฯภูเก็ต สำนึกบาป หลงทุบหม้อข้าวตัวเอง ปิดสนามบิน สร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อนร่วมชาติ ทำลายชื่อเสียงของประเทศชาติให้ย่อยยับไปในพริบตา ตั้งแต่กลุ่มพันธมิตรฯฝ่าหน่วยรักษาความปลอดภัยเข้าไปปิดสนามบิน
00 ตุลาการรัฐธรรมนูญ ห้ามได้แค่ตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี แต่ไม่สามารถกักขังชีวิต เลือดเนื้อ และวิญญาณของความเป็นประชาธิปไตยได้ บรรทัดนี้ เอกฉัตร ขอคารวะ นายอดิศร เพียงเกษ หนึ่งในสมาชิกบ้านเลขที่ 111 กระโดดขึ้นเวทีกลุ่มปกป้องประชาธิปไตยหยุดคนทำลายประเทศ ที่ลานท่าน้ำนนท์ จ.นนทบุรี ทันทีที่เวทีเปิดทำการ เพื่อเป็นอีกแรงร่วมกับ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ปกป้องประชาธิปไตยไม่ให้กฎหมู่ย่ำยี ใครที่ยังไม่จุใจกับคำปราศรัยของ นายอดิศร เพียงเกษ หาซื้อหนังสือ “กรงขังที่ 111” อ่านให้จุใจ วางแผงแล้ววันนี้ ราคา 250 บาท คุ้มเกินคุ้ม
เอกฉัตร