ที่มา ไทยรัฐ ความยุ่งยาก และความยับเยินของประเทศไทยยังเดินหน้าต่อไป และต่อไปโดยไม่บันยะบันยัง "แม่ลูกจันทร์"
ไม่มีใครฟังใคร ไม่มีใครยอมใคร ไม่มีใครกลัวใคร
เริ่มจากรัฐบาลยืนยันนั่งยันว่าจำเป็นต้องสลายการชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์โดยเร็ว แม้ต้องเกิดการสูญเสียบ้างก็ยังดีกว่าปล่อยให้มีผู้ก่อการร้ายปะปนอยู่ในกลุ่มเสื้อแดง
แต่ฝ่ายแกนนำ นปช.ตอบโต้ว่ากลุ่มเสื้อแดงชุมนุมโดยสันติวิธี ถ้ารัฐบาลใช้ความรุนแรง สลายการชุมนุม กลุ่มคนเสื้อแดงก็พร้อมสู้ ยิบตา
ฝ่ายกลุ่มมวลชนเสื้อหลากสีก็เรียกร้องให้ "นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ใช้มาตรการเด็ดขาดจัดการกับม็อบเสื้อแดง
ถ้ารัฐบาลไม่จัดการ ประชาชนจะจัดการกันเอง
"แม่ลูกจันทร์" หมดปัญญาที่จะเรียกร้องให้สังคมไทยยุติความรุนแรงให้ทุกฝ่ายหันหน้ามาแก้ไขวิกฤติชาติด้วยสันติวิธี
ต่อให้เรียกร้องจนปากฉีกถึงรูหูก็ไม่มีใครฟังใคร ไม่มีใครยอมใคร ไม่มีใครกลัวใคร
"นรกอีสคัมมิ่งซูน" สงครามไทยฆ่าไทยครั้งใหญ่กำลังใกล้เข้ามาทุกที!!
ส่วนการที่ นายกฯอภิสิทธิ์ ตัดสินใจเปลี่ยนตัวหัวหน้า ศอฉ.จาก "สุเทพ เทือกสุบรรณ" รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง เป็น "พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา" ผบ.ทบ. เพื่อให้รับผิดชอบสั่งการใช้กำลังปราบม็อบเสื้อแดงเต็มตัว
ก็เท่ากับ "อภิสิทธิ์" โยนเผือกร้อนให้ "พล.อ.อนุพงษ์" รับไปเต็มๆ
เพราะ "พล.อ.อนุพงษ์" เคยประกาศจุดยืนไว้ว่ากองทัพไม่ต้องการใช้กำลังทหารปราบปรามประชาชน
การแต่งตั้ง "พล.อ.อนุพงษ์" เป็นหัวหน้า ศอฉ.ปราบม็อบเสื้อแดงเพื่อให้ต้องทำอะไรบางอย่างที่ไม่อยากทำ??
ถ้า "พล.อ.อนุพงษ์" ไม่ทำ ก็เท่ากับไม่สนองนโยบายรัฐบาล
ส่วนจะไปถึงขั้นต้องเปลี่ยนแม่ทัพกลางศึกอย่างที่ลือกันหรือไม่ "แม่ลูกจันทร์" ไม่กล้าฟันธง
แต่ประเด็นร้อนที่คอการเมืองต้องติดตามห้ามกะพริบตาคือวันนี้ (19 เม.ย.) พล.อ.อนุพงษ์ ได้มีคำสั่งด่วนถึงหัวหน้าหน่วยคุมกำลังของกองทัพบก
ตั้งแต่ระดับ "พลตรี" ให้เข้าประชุม ผบ. หน่วยขึ้นตรง ทบ. นัดพิเศษ ที่ บก.ทบ. เวลาบ่ายโมง
การประชุมครั้งนี้ นอกจาก 5 เสือ ทบ. ยังมีแม่ทัพภาคทั้ง 4 ภาค ผู้บัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ และผู้บัญชาการสงครามพิเศษ เข้าประชุมอย่างพร้อมเพรียง
จุดที่น่าสังเกตก็คือ เป็นการเรียกประชุมหน่วยกำลังขึ้นตรง ทบ.ครั้งแรกหลังจากรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และหลังจากเหตุสลายการชุมนุมที่ผ่านฟ้าฯ ซึ่งทำให้ประชาชนและทหารสูญเสียชีวิตมากถึง 24 ราย บาดเจ็บอีกกว่าแปดร้อยคน
คาดว่าการประชุมหน่วยคุมกำลังครั้งนี้ จะมีการชี้แจงสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะการที่มีข่าวลือข่าวเสี้ยมให้คนในกองทัพบกเกิดแตกแยกกันเอง
รวมทั้งกระแสข่าว "ลับ ลวง พราง" ว่าทหารเตรียมปฏิวัติรัฐประหารล้างกระดานการเมือง
ใช้โอกาสประชุมใหญ่หน่วยคุมกำลังเพื่อยืนยันว่าทหารยังแน่นแฟ้น ไม่มีการแตกแยก ไม่มีการขัดแย้งอย่างที่มีข่าวลือ
ส่วนที่รัฐบาลแต่งตั้ง "พล.อ.อนุพงษ์" เป็นหัวหน้า ศอฉ. ถือดาบอาญาสิทธิ์สั่งใช้กำลังปราบม็อบเสื้อแดง
ในการประชุมขุนศึก ทบ.ครั้งนี้ คาดว่า พล.อ.อนุพงษ์จะชี้แจงจุดยืนของตัวเอง แนวทางของกองทัพที่จะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งของรัฐบาล และกำหนดบทบาทของทหารที่ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินทั้งในระยะที่ผ่านมา และระยะที่ต้องทำต่อไป
ถึงจะเป็นการประชุมลับ แต่เชื่อว่า ความลับไม่มี
ฉะนั้น ทุกท่าทีและทุกคำพูดของ "พล.อ. อนุพงษ์" จะมีผลสำคัญต่อวิกฤติร้ายแรงที่คนไทยทุกคนต้องเผชิญร่วมกัน
จะคลี่คลาย? หรือตึงเครียด? เย็นวันจันทร์นี้มีคำตอบแน่นอน.
หวานเจี๊ยบบบบ
7 hours ago