ที่มา โลกวันนี้ โฆษกเพื่อไทยอัดยับพรรคประชาธิปัตย์ให้ ส.ส. ระดมแจกจ่ายวีซีดีสู้แดง สวนทางนโยบายสร้างความสมานฉันท์ปรองดอง ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินกดหัวฝ่ายค้าน เพราะหากแจกบ้างจะมีความผิด สั่งทีมกฎหมายตรวจสอบเนื้อหาพบบิดเบือนใส่ร้ายฟ้องทันที “มาร์ค” ฟุ้งผังใหม่ช่อง 11 ที่เปิดพื้นที่ให้ทุกฝ่ายแสดงความเห็นจุดประกายสร้างความปรองดอง ยันระเบิดเอ็ม 79 ที่พบในทำเนียบเป็นของเก่า ไม่จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย “สุเทพ” ให้เพิ่มเฝ้าระวังพื้นที่สาธารณะ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผังรายการใหม่ของสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ที่เปิดพื้นที่ให้คนที่เห็นต่างมีโอกาสแสดงความเห็นต่อสาธารณะชนว่า เป็นส่วนหนึ่งของแผนปรองดอง สื่อต้องพยายามเปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนพูดคุยกันด้วยเหตุด้วยผลในความเห็นที่แตกต่างกัน “หวังว่าจะเป็นแนวทางให้สื่ออื่นของรัฐบาลไปปรับใช้เพื่อให้คน 2 ฝ่ายมีพื้นที่พูดคุยกัน รูปแบบของรายการจะเสนอเนื้อหาหลากหลายที่อยู่ในความสนใจ เชิญคนที่มีความเห็นหลากหลายมาร่วมกันแสดงความเห็น ซึ่งระยะหลังเราขาดพื้นที่ตรงนี้ไป เป็นการเอาเหตุผลมาพูดกันให้ประชาชนรับรู้ในทุกแง่ทุกมุม ดีกว่าไปติดอยู่กับความคิดมุมเดียวและนำไปสู่ความขัดแย้งบนท้องถนน” นายอภิสิทธิ์กล่าว นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการพบระเบิดเอ็ม 79 ในทำเนียบรัฐบาลว่า คิดว่าเป็นของเก่าที่ยิงเข้ามาตั้งแต่เดือน เม.ย. ที่ลูกหนึ่งตกบนหลังคา อีกลูกตกไปในน้ำ เมื่อไปทำความสะอาดท่อระบายน้ำเลยเจอ “ไม่มีอะไรสลับซับซ้อนเพราะเป็นของเก่า ส่วนการตรวจสอบเป็นเรื่องที่ทำกันปรกติ ไม่ต้องเพิ่มมาตการอะไร” นายอภิสิทธิ์กล่าวพร้อมยืนยันว่า ไม่ใช่การสร้างสถานการณ์อย่างที่มีการกล่าวหา ส่วนการเกิดเหตุระเบิดที่จังหวัดชลบุรีหลังยกเลิก พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินนั้นจะไม่กระทบต่อการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะลงนามไปแล้วตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา สำหรับการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพิ่มเติมกำลังพิจารณา หากจังหวัดไหนมีความเรียบร้อยจะยกเลิก ซึ่งจังหวัดที่ยกเลิกไปแล้วบางพื้นที่ยังมีการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงอยู่ แต่เจ้าหน้าที่รายงานมาว่ากลุ่มที่เคลื่อนไหวมีแนวทางชัดเจนว่ายึดสันติวิธีเราก็ยกเลิก การเคลื่อนไหวทางการเมืองเป็นเรื่องปรกติ เพราะเป็นสิทธิ ส่วนจังหวัดที่ยังไม่ยกเลิกเพราะยังคงมีการใช้ความรุนแรงอยู่ ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการยื่นประกันแกนนำคนเสื้อแดงออกจากเรือนจำเรื่อยๆ หลังนายวีระ มุสิกพงศ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดิน ได้รับการประกันตัว นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นดุลยพินิจของศาล ซึ่งท่านจะพิจารณาไปตามความเหมาะสม ส่วนกรณีที่นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ไปเป็นพยานในชั้นศาลให้กับนายวีระนั้นเป็นไปตามหมายศาล ศาลมีหมายมาก็ต้องไป แต่ทั้งหมดเป็นดุลยพินิจของศาล เมื่อถามว่าคำให้การของนายกอร์ปศักดิ์ขัดกับแนวทางของรัฐบาลหรือไม่ โดยเฉพาะข้อหาก่อการร้ายที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สรุปสำนวนส่งอัยการไปแล้ว นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ทุกอย่างเข้าสู่กระบวนการของศาลเราต้องเคารพ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องเพิ่มการรักษาความปลอดภัยในทำเนียบรัฐบาล เพราะที่วางเอาไว้ใช้ได้ดีอยู่แล้ว เพียงแต่การทำงานต้องเข้มงวด ไม่หย่อนยาน แต่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษคือที่สาธารณะต่างๆ “ที่ทำอยู่ตอนนี้คือการร่วมกันประเมินสถานการณ์ว่ากลุ่มไหนมีศักยภาพในการก่อเหตุร้ายและสถานที่เป้าหมาย และหากเกิดเหตุขึ้นต้องติดตามจับกุมตัวมาลงโทษให้ได้ ส่วนพื้นที่เกิดเหตุที่ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปแล้วชัดเจนว่าจะไม่นำ พ.ร.ก. กลับมาใช้อีก ขณะเดียวกันจะยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่ที่เหลือให้เร็วที่สุดด้วย” นายสุเทพกล่าว นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์แจกวีซีดีบันทึกเหตุการณ์สลายการชุมนุมแข่งกับพรรคเพื่อไทยว่า จะตรวจสอบเนื้อหาว่ามีการบิดเบือนเพื่อให้ร้ายพรรคหรือไม่ “ตอนนี้พรรคประชาธิปัตย์แจกกันอย่างโจ๋งครึ่ม ขณะที่พรรคเพื่อไทยทำไม่ได้เพราะจะถูกกล่าวหาว่าผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แสดงให้เห็นถึงการใช้อำนาจของรัฐบาลที่เอื้อให้พวกตัวเองได้เปรียบเหนือฝ่ายค้านที่เป็นคู่แข่งทางการเมือง ขณะนี้คณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรคกำลังสอบวีซีดีของพรรคประชาธิปัตย์ที่ให้ ส.ส. ทุกคนนำไปแจกประชาชนว่ามีข้อหาบิดเบือนหรือไม่ ถ้ามีจะดำเนินคดีทางกฎหมาย ที่สำคัญคือพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำรัฐบาล หัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรี ประกาศเรื่องสร้างความปรองดองสมานฉันท์ แต่การแจกวีซีดีสู้แดงเป็นการกระทำตรงกันข้ามกับความสมานฉันท์กับที่รัฐบาลเรียกร้อง นี่คือสไตล์ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ปากว่าตาขยิบ ทำอะไรก็ได้เพื่อประโยชน์ของตนเองโดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของประชาชนที่ได้รับผลกระทบต่อการสลายการชุมนุม” นายพร้อมพงศ์กล่าว โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวอีกว่า รัฐบาลทำงานอย่างล่าช้าในการสะสางให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเสียชีวิตของคนเสื้อแดงจากการสลายการชุมนุมปรากฏออกมา โดยเฉพาะการเสียชีวิตของสื่อต่างชาติ ถือเป็นการประจานผลงานของรัฐบาลในการบังคับใช้กฎหมายที่ขาดความน่าเชื่อถือ เป็นเรื่องน่าอับอายไปทั่วโลก ความล่าช้าทำให้มีข้อสงสัยว่าตั้งใจดองคดีหรือไม่ จึงขอเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีให้สั่งการทำสำนวนชันสูตรตามกฎหมาย ป.วิอาญา150 เรื่องการเสียชีวิตทั้งหมด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับต่างชาติ ไม่เช่นนั้นจะเท่ากับว่านายกรัฐมนตรีปกปิดความผิดของพวกพ้องเรื่องจากปก จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้ ปีที่ 11 ฉบับที่ 2853 ประจำวัน จันทร์ ที่ 2 สิงหาคม 2010 โดย -