WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, January 8, 2008

'หญิงอ้อ'บินกลับไทย 8ม.ค.มอบตัวศาลฏีกา ทันทีสู้คดีที่ดินรัชดาฯ ตร.อารักขาเต็มที่

'หญิงอ้อ'บินกลับไทย 8 ม.ค.เวลา 09.40 น. มอบตัวสู้คดีขึ้นศาลฎีกา-ขอประกันทันที คดีที่ดินรัชดา-ตร.อารักขาเข้ม 'ดีเอสไอ'จ้องอายัดตัวคดีหุ้น ตร.สั่งระดมกำลัง ตม.กองปราบฯอารักขา เลขานุการศาลฎีกาเผยต้องนำตัวมาส่งให้ศาลฯแผนกคดีอาญาฯ ทันที

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) สั่งระดมกำลังอารักขาและดูแลคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางจากฮ่องกงเข้าประเทศไทยในเช้าวันที่ 8 มกราคม ก่อนนำตัวไปส่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามหมายจับในคดีการทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 มกราคม รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ประสานกำลังกับตำรวจกองปราบปราม ระดมกำลังเพื่ออารักขาคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ที่จะเดินทางจากฮ่องกง กลับประเทศไทย เพื่อมารับข้อกล่าวหาที่ถูกออกหมายจับคดีทุจริตซื้อที่ย่านรัชดาภิเษก

คาดว่าคุณหญิงพจมานจะเดินทางจากฮ่องกงด้วยสายบินไทย เที่ยวบินทีจี 603 ถึงไทยเวลา 09.40 น. วันที่ 8 มกราคม ซึ่งทาง พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ฝ่ายกิจการพิเศษ จะเดินทางไปรับคุณหญิงพจมาน ที่สนามบินก่อนนำตัวไปส่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามหมายจับ

รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา น.ส.พิณทองทา ชินวัตร บุตรสาว พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมทนายความคุณหญิงพจมาน เดินทางไปประสานกับศาลฎีกาฯเพื่อขอประกันตัวคุณหญิงพจมาน ด้วยวงเงิน 5 ล้านบาท

แหล่งข่าวระดับสูงจากพรรคพลังประชาชน (พปช.) เปิดเผยว่า แกนนำของพรรค พปช.ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยกับคุณหญิงพจมานระหว่างอยู่ในประเทศไทยด้วย นอกจากนี้ทีมทนายได้ตรียมความพร้อมในการยื่นประกันตัวให้คุณหญิงพจมาน และเชื่อว่าสามารถขอประกันตัวได้ ไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะศาลให้สิทธิยื่นประกันตัวอยู่แล้ว และคุณหญิงพจมานก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมือง

ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังอดีตนายตำรวจคนติดตาม พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับคำตอบว่า คุณหญิงพจมานจะเดินทางไปยังศาลฎีกาฯทันที ดังนั้น สื่อมวลชนไม่ควรมารับที่สนามบิน แต่ควรไปรอที่ศาลฎีกาจะดีกว่า

ด้านนายรักเกียรติ วัฒนพงษ์ เลขานุการศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กล่าวถึงกระแสข่าวที่คุณหญิงพจมาน จำเลยที่ 2 ตามหมายจับคดีดำหมายเลข อม.1/2550 สำนวนคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก จะเดินทางกลับเข้าประเทศว่า หากคุณหญิงพจมานกลับเข้าประเทศจริง ตำรวจจะต้องจับกุมตัวตามหมายจับพร้อมนำตัวไปตรวจสอบว่าเป็นบุคคลตรงตามหมายจับหรือไม่ ถ้าเป็นบุคคลคนเดียวกัน จะต้องนำตัวมาส่งให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ ทันที

นายรักเกียรติกล่าวา หากตำรวจนำตัวคุณหญิงพจมานมาส่งศาลในวันที่ 8 มกราคมจริง องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาก็สามารถออกนั่งบัลลังก์เพื่อสอบคำให้การจำเลยได้ โดยในชั้นนี้เป็นเพียงการสอบคำให้การจำเลย ดังนั้น ผู้พิพากษาเพียง 3 คน จากองค์คณะ 9 คน สามารถออกนั่งบัลลังก์พิจารณาคดีได้ทันทีเพราะยังไม่ใช่ขั้นตอนการพิจารณาคดี ทั้งนี้ จำเลยยังมีสิทธิยื่นขอประกันตัวได้ แต่จะได้ประกันหรือไม่เป็นดุลพินิจของศาล

'จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าคุณหญิงพจมานจะเดินทางกลับมา' เลขานุการศาลฎีกาฯ กล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า คดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาฯ มี พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานเป็นจำเลยร่วมกัน ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณซึ่งเป็นจำเลยที่ 1 ไม่กลับเข้ามามีแต่คุณหญิงพจมาน จำเลยที่ 2 มาต่อสู้คดี องค์คณะผู้พิพากษาสามารถไต่สวนคดีเฉพาะคุณหญิงพจมานได้ตามกฎหมาย โดยไม่ต้องรอจำเลยที่ 1

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษกแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน ยังถูกศาลอาญากรุงเทพใต้ ออกหมายจับคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัท เอสซีแอสเสท ของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ด้วย หากคุณหญิงพจมาน กลับเข้าในประเทศจริง พนักงานสอบสวนดีเอสไอ มีสิทธิขออายัดตัวคุณหญิงพจมานเพื่อดำเนินคดีด้วย หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ สอบคำให้การแล้วในคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ

ที่โรงแรมเรดิสัน ถนนพระราม 9 นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎมหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ และรองเลขาธิการพรรคพลังประชาชน (พปช.) แถลงว่า พรรค พปช.ไม่เคยพูดกันว่าจะออกกฎหมายมายุบคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) และไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน แต่เมื่อมีรัฐธรรมนูญและมีประชาธิปไตยแล้ว คตส.ควรยุติการทำงาน เนื่องจาก คตส.มาจากการยึดอำนาจ ในระบอบประชาธิปไตย คตส.จึงไม่มีบทบาทที่จะทำงาน จึงอยากให้ คตส.พิจารณาตัวเอง และไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีใครมาทำงานแทน เพราะคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีอำนาจหน้าที่ทำงานต่อได้

'ส่วนการต่อสู้คดีต่างๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้นทีมกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณพร้อมที่จะต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย และ พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางกลับประเทศไทยประมาณกลางเดือนเมษายนแน่นอน' นายนพดลกล่าวและว่า ขอยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่เข้าแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม และไม่คิดว่ากระบวนการยุติธรรมไทยนั้นสามารถแทรกแซงได้ หลังเดินทางกลับประเทศไทย พ.ต.ท.ทักษิณจะทำงานสาธารณกุศลโดยไม่ฝักใฝ่ หรือยุ่งเกี่ยวกับการเมือง

วันเดียวกัน ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) นายแก้วสรร อติโพธิ กรรมการและเลขานุการ คตส.ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบและไต่สวนคดีโครงการทุจริตบ้านเอื้ออาทร แถลงผลการประชุมคตส.ชุดใหญ่ว่า ตนได้นำเสนอภาพรวมการดำเนินงานตรวจสอบคดีบ้านเอื้ออาทรให้ที่ประชุมรับทราบ โดยคดีนี้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.คดีการทุจริตรายโครงการ ซึ่งเป็นลักษณะของการสมคบกันระหว่างเจ้าหน้าที่การเคหะแห่งชาติ (กคช.) กับเอกชน ในการนำที่ดินราคาถูกมาขายแพงเกินจริง ซึ่งในส่วนของโครงการร่มเกล้า-บางพลี อยู่ระหว่างสรุปผลการไต่สวน ส่วนอีก 3 คดีคือ โครงการรังสิต คลอง 9 โครงการกบินทร์บุรี และโครงการอรัญประเทศ กำลังอยู่ระหว่างสรุปผลการตรวจสอบเพื่อเสนอตั้งคณะกรรมการไต่สวนในวันที่ 14 มกราคมนี้

นายแก้วสรรกล่าวว่า ส่วนกลุ่มที่ 2 เป็นคดีการทุจริตแบบโควต้า และเรียกรับสินบน ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังจากที่อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรและความมั่นคงของมนุษย์ คนหนึ่งมารับตำแหน่ง และมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินโครงการจากเดิมที่ให้บริษัทจัดหาที่ดินมาเสนอขาย กคช.เป็นแปลงๆ มาเป็นระบบโควต้า โดยเปิดให้บริษัทเอกชนเข้ามารับส่วนแบ่งงานที่เหลืออยู่จำนวน 2 แสนหน่วย ในราคาคงที่ คือ 2 แสนบาทต่อยูนิต ไม่ว่าที่ดินจะถูกหรือแพง ทำให้เกิดการทุจริตขึ้น เพราะเอกชนที่มารับงานจะจ่ายสินบนเพื่อให้ได้โครงการ ในราคาหน่วยละ 1 หมื่นบาท

'หากคิดรวมทั้งหมดจะเป็นเงินถึง 2 พันกว่าล้านบาท ซึ่ง คตส.เข้าตรวจสอบพบว่ามีหลักฐานการทุจริตชัดเจนในกรณีบริษัท พาสทิญ่า ไทย จำกัด มีการจ่ายเงินให้กับนักการเมืองคนหนึ่งโดยมีกระบวนการฟอกเงินผ่านคนขับรถ แม่บ้าน และพนักงานบัญชี ไปเข้าสู่บริษัทผู้ส่งออกข้าวรายหนึ่ง เบื้องต้นมีการแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว 'นายแก้วสรรกล่าว

นายแก้วสรรกล่าวว่า จากการติดตามเส้นทางเงินหลัง กคช.สั่งจ่ายเงิน พบว่ามีบริษัทอื่นๆ นอกจากพาสทิญ่า ที่จ่ายสินบนผ่านนักการเมืองจำนวน 8 บริษัท เบื้องต้นอนุกรรมการ คตส.เคยเสนอ คตส.ชุดใหญ่ไปแล้วว่า หากเอกชนรายใดให้ความร่วมมือ จะไม่ถูกตั้งข้อกล่าวหาในคดีสินบน และจากการเชิญทั้ง 8 ราย มาสอบปากคำ มี 7 บริษัทยอมให้ความร่วมมือ มีเพียงบริษัทเดียวที่ไม่ให้ความร่วมมือ
นายแก้วสรรกล่าวว่า จากการตรวจสอบ ทำให้ได้ข้อมูลชัดเจนมีกระบวนการฟอกเงินเกิดขึ้นจริง และมีการจ่ายสินบนโดยพบยอดเงินทั้งหมดจำนวน 1,200 ล้านบาท พบว่ามีการจ่ายสินบนให้นักการเมือง คนกลาง และพบบุคคลธรรมดาเข้ามาร่วมกระบวนการฟอกเงินมากขึ้น

'คณะอนุกรรมการไต่สวนจึงมีมติที่จะแจ้ง คตส.ชุดใหญ่ให้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับบุคคลที่เกี่ยวข้องในกลุ่มใหม่ ได้แก่ นายพรพรหม วงศ์พิวัฒน์ หน้าห้องอดีตรัฐมนตรี นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย นางรัตนา แซ่เฮ็ง และผู้บริหารหญิงบริษัท ไทยเฉนหยู จำกัด' นายสักกล่าว

ทั้งนี้ ผู้ที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกลุ่มใหม่นี้ อดีตนักการเมืองคนหนึ่งถูกข้อกล่าวหาสนับสนุนการทุจริต ขณะที่อดีตนักการเมืองอีกคนหนึ่งถูกข้อหาเป็นคนกลางเรียกรับสินบน โดยพบว่าได้รับเงินจากส่วนต่างในการทำโครงการบ้านเอื้ออาทร เป็นเงิน 7 ล้านบาท ส่วนเอกชนถูกข้อกล่าวหาเป็นตัวกลางในการกระทำความผิด

ขณะที่กลุ่มผู้ถูกกล่าวหาเดิมก่อนหน้านี้ คือ นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายมานะ วงศ์พิวัฒน์ อดีตกรรมการ กคช. และนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร ผู้บริหารบริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด และผู้บริหารบริษัทพาสทิญ่า
นายแก้วสรรกล่าวว่า ส่วนคดีการทุจริตแบบโควต้า คณะอนุกรรมการไต่สวนยังตรวจการทุจริตส่วนหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้บริหาร กคช.ที่รับหน้าที่เปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำโครงการตามนโยบายของรัฐมนตรี แต่มีการถอนเรื่องออกจากสารบบ และให้ดำเนินการใหม่ เช่น โครงการบางขุนเทียน เดิมมีการเสนอราคาที่ 3.9 แสนบาทต่อยูนิต แต่ต่อมาเปลี่ยนเป็นแบบโควต้า ราคายูนิตละ 4.2 แสนบาท ทำให้รัฐเสียหายไปกว่า 200 ล้านบาท ทำให้การตั้งข้อกล่าวหาในคดีนี้ต้องเพิ่มบุคคลอีก 1 คน คือนางชวนพิศ ฉายเหมือนวงศ์ อดีตผู้ว่าการ กคช. จากเดิมนางชวนพิศถูกตั้งข้อกล่าวหาในโครงการร่มเกล้า-บางพลีไปแล้ว ซึ่งเป็นการตั้งข้อกล่าวหาทุจริตต่อหน้าที่ ยังตรวจไม่พบว่ามีการเรียกรับสินบน

นายแก้วสรรกล่าวว่า สำหรับเงินในการทุจริต 1,200 ล้านบาท เบื้องต้นตรวจพบว่ามีการฟอกเงินโดยผ่านคนขับรถ แม่บ้าน และโอนออกไปยังฮ่องกง โดยอ้างว่ามีการซื้อขายสินค้า และโอนกลับมาที่บริษัทส่งออกข้าว ซึ่งขณะนี้คณะอนุกรรมการอยู่ระหว่างติดตามเงินดังกล่าวว่าไปอยู่ที่ไหน หากพบก็จะใช้อำนาจอายัดไว้ พร้อมทั้งส่งเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อไป

'การตรวจสอบคดีเอื้ออาทร มักจะมีคนบอกว่าไม่ค่อยคืบหน้า และมีการระบุว่า ผมมีการเจรจาตกลงกับใครไว้ แต่จากผลการตรวจสอบวันนี้ คงยืนยันได้ว่าเป็นอย่างไร เชื่อว่าจากหลักฐานที่ชัดเจน น่าจะใช้เวลาเพียง 3 เดือนน่าจะปิดสำนวนได้ ถือว่าคดีบ้านเอื้ออาทรเกมแล้ว' นายแก้วสรรกล่าว

นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า เป็นเรื่องดีที่คุณหญิงพจมานจะมามอบตัวสู้คดี ทุกอย่างจะได้เข้าสู่ขั้นตอน ตามขั้นตอนแล้วหลังจากที่เข้ามอบตัวที่ศาลฎีกา แผนกคดีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว คุณหญิงพจมานต้องเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เนื่องจากคุณหญิงพจมานและ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ต้องหาในคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น บริษัท เอสซี แอสเสท จำกัด (มหาชน) หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนคงให้ประกันตัวชั่วคราวเนื่องจากผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์ที่จะหลบหนี