WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, July 24, 2008

คนขายชาติ

คอลัมน์ : โต๊ะข่าวประชาทรรศน์

สิ่งที่ตามมาจากการขึ้นทะเบียน “ปราสาทเขาพระวิหาร” เป็นมรดกโลก คือความขัดแย้งกันในเรื่องของเขตแดน จนบานปลายออกไป เมื่อกัมพูชาใช้ทุกช่องทางบนเวทีโลก เพื่อ “ใส่ไฟ” กล่าวหาว่า ถูกไทยรังแก คุกคาม ข่มขู่ พยายามให้สังคมโลกเข้าใจว่า ไทยเป็นฝ่ายผิดมาตลอด

นอกจากนี้ กัมพูชายังฉกฉวยช่วงชิงความได้เปรียบในทุกด้านมาเป็นประโยชน์ให้กับฝ่ายตนเอง ถึงขนาดร้องไปที่ยูเอ็น และจ้องฟ้องศาลโลกให้เข้ามาดูแล

ซึ่ง “ความเข้าใจ” กับ “ความจริง” นั้น เป็นคนละเรื่องกัน

ในขณะเดียวกัน รัฐบาลไทยเองเสียอีก ที่ทำอะไรไม่ถนัดนัก ไม่ว่าจะเป็นการชี้แจง การตอบโต้ เพราะคนที่มีหน้าที่โดยตรงในเรื่องนี้ มีอันต้องถูกพิษ ”เกมการเมือง” เล่นงาน จนต้องออกไปเป็น “คนดู”

การที่มีคนไทยกลุ่มหนึ่ง พยายามขัดขวางการทำงานของรัฐบาลอย่างจริงจังและเปิดเผยในยามหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ ไม่อยากเรียกว่าเป็นสปายให้กัมพูชา แต่ก็จนใจจริงๆ เพราะไม่มีคำไหนจะเหมาะสมเท่านี้อีกแล้ว

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฝ่ายที่ต้องการโค่นล้ม ต้องการให้รัฐบาลนี้ออกไป พยายามใส่สีตีข่าวว่า จะต้องเอาปราสาทเขาพระวิหารกลับคืนมาให้ได้ นั่นหมายความเป็นอย่างอื่นไม่ได้ แสดงว่าเราได้เสียดินแดนไปแล้ว หรือดินแดนนั้นไม่ใช่ของไทย แต่จะคิดกันบ้างไหมว่า ที่พูดที่ออกข่าวไปเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือนั้น ไปเป็น “คุณ” ให้กับทางกัมพูชา

จึงไม่แปลกที่มีการประโคมข่าวตามออกมาว่า ไทยต้องตกเป็นฝ่ายตั้งรับ ในขณะที่กัมพูชาเปิดเกมรุกเต็มอัตราศึก
นี่เป็นผลมาจากความพยายามทำทุกอย่าง ไม่ให้รัฐบาลได้ตั้งตัว และมีโอกาสออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงให้เป็นเรื่องเป็นราวได้ ฝ่ายกัมพูชาจึงได้ที หยิบฉวยไปเป็นข้ออ้างว่า มีคนไทย (กลุ่มหนึ่ง) รู้และยอมรับว่าดินแดนที่ยังเป็นปัญหานี้เป็นของกัมพูชา

ซึ่งเป็นเรื่องน่าอดสูอย่างเหลือหลาย เพราะมาจากการที่จะเอาชนะคะคานกันให้ได้เท่านั้น โดยไม่คำนึงถึงอธิปไตยเหนือดินแดนและเกียรติภูมิของประเทศ ว่าจะเสียหายไปอย่างไร

ทั้งๆ ที่ทางฝ่ายไทยออกมาพูดอย่างชัดเจน หลายครั้งหลายหนแล้วว่า ดินแดนที่มีปัญหานั้นไม่ใช่ของกัมพูชา ซึ่งยังต้องมีการสำรวจตรวจสอบความจริงกันอีก เพราะแต่ละฝ่ายถือแผนที่กันคนละฉบับ

แต่อนิจจา...มีคนไทยบางกลุ่ม ที่แอบอ้างการ “กู้ชาติ” ได้ยกดินแดนให้กัมพูชาไปแล้ว

เห็นใจและเข้าใจรัฐบาลไทยครับ การจะตอบโต้ชี้แจงทำได้ลำบาก เพราะมีความจงใจทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในประเทศ พอจะขยับตัวก็ถูกจับผิด เรียกว่าทำอะไรก็ผิดไปหมด

เพื่อไม่ให้ปัญหาข้อพิพาทนี้ลุกลามบานปลายขยายวงออกไป กระทรวงการต่างประเทศ ต้องมีรัฐมนตรีมากำกับรับผิดชอบ ต้องได้คนที่มีความรู้ มีความสามารถ และเป็นที่ยอมรับในสายตาของสังคมโลกมาเป็นหลัก เพราะมีภารกิจค่อนข้างมาก ต้องระดมความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญกฎหมายระหว่างประเทศ มาร่วมกันทำงาน มาร่วมกันแก้ปัญหา ให้ “ทันเกม” ที่กัมพูชากำลังดำเนินการอยู่

ได้ยินคนเฒ่าคนแก่เปรยว่า นี่มันเป็นเวรเป็นกรรมอะไรของเรานักหนา

ก็ต้องบอกว่า มันไม่ใช่เวรไม่ใช่กรรมอะไรหรอกครับ แต่มันเป็นความจงใจความตั้งใจของคนไทยกลุ่มหนึ่งที่ต้องการให้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นมา เพื่อจะได้โจมตีว่า รัฐบาลไร้ความสามารถ หมดปัญญาที่จะหาทางแก้ปัญหานี้ได้สำเร็จลุล่วง

เหนือสิ่งอื่นใด กระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับมาใส่เกล้าฯ ในวโรกาสที่เข้าเฝ้าฯ ที่พระราชวังไกลกังวล หัวหิน ให้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาล มีกำลังใจ ทำงานให้ดี ให้สำเร็จเรียบร้อย และขอบใจที่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานให้กิจการต่างๆ ก้าวหน้าด้วยดี ขอให้มีผลสำเร็จในการทำงาน เพื่อให้ผลที่ทำเป็นผลดีต่อส่วนรวม ให้ชาติบ้านเมืองก้าวหน้า ไม่มีความวุ่นวาย มีความก้าวหน้าต่อไป ขอให้มีความสำเร็จในการงานทุกอย่างนั้น

จากพระราชดำรัสดังกล่าว ประชาชนชาวไทยที่รักชาติและหวงแหนแผ่นดิน ต่างเชื่อเหลือเกินว่า จะเป็นกำลังใจ เป็นพลังให้นายกรัฐมนตรี มุ่งมั่นทำงานบริหารประเทศ แก้ปัญหานี้ให้ได้

ในขณะที่มีนักวิชาการ ที่เห็นแก่ชาติบ้านเมือง อย่าง ดร.สมชาย ปรีชาศิลปกุล คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ออกมาขอให้สังคมประณามผู้ที่ทำให้ชาติบ้านเมืองวุ่นวายแตกแยก จนเกิดเป็นความรุนแรงในระดับชาติ เป็นกรณีพิพาทในระดับภูมิภาค ที่ทำให้คนไทยต้องมาทำร้ายกันเอง

เพราะว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้น เป็นผลมาจาก “การเมือง” ภายในประเทศ จึงต้องหยุดกระแส
"คลั่งชาติ" เพื่อยุติความรุนแรง

จึงต้องช่วยกันประณาม ไม่ให้การกระทำเช่นนี้เกิดขึ้นอีก

การใช้ประเด็นค่านิยมปลุกเร้า ให้เกิดความเกลียดชังรัฐบาลและคนไทยด้วยกันเอง ผู้ที่ได้ประโยชน์ไม่ใช่สังคมส่วนรวม แต่เป็นกลุ่มคนบางกลุ่มที่แสวงหาผลประโยชน์ให้แก่ตัวเอง

กลุ่มคนที่ต้องการให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง คงลืมไปแล้วว่า ปรากฏการณ์ที่แสนเจ็บปวด เป็นความอัปยศ ที่มีการจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ชาติไทย เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาได้สำนึก

เมื่อครั้งที่กรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่านั้น ก็เป็นเพราะคนไทยด้วยกันเอง ที่ทรยศยอมเป็นไส้ศึกเข้าข้างศัตรู

การกระทำของคนกลุ่มนี้ มองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากการ “ขายชาติ” เนรคุณแผ่นดินเกิด

บิ๊กโบ๊ต