ร่วมกันจัดงานสัมมนาความมั่นคงของพระพุทธศาสนา ในหัวข้อหัวข้อ “ลัทธิสันติอโศก กับความมั่นคงของพุทธศาสนา” พระครูสังฆพินัย เปิดเผยว่าการที่ร่วมกันจัดงานครั้งนี้เพื่อจะชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบว่า ลัทธิสันติอโศกที่มีสมณะโพธิรักษ์ เป็นผู้ก่อตั้งนั้น ไม่ได้ถูกบรรจุให้เป็นพระพุทธศาสนาตามคำพิพากษาของศาลฏีกา และให้พ้นจากความเป็นพระ ฉะนั้นการที่แต่งกายเลียบแบบพระ ใช้วิธีการเลียนแบบพระนั้น และถือว่าได้พ้นจากการปกครองของมหาเถรสมาคม ดังนั้นการที่จะออกมาเคลื่อนไหวต่างๆ ก็เป็นสิทธิแต่ว่าต้องห้ามแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ และทำอาการคล้ายสงฆ์ ถือเป็นการเสื่อมเสียภาพลักษณ์ของพระสงฆ์ในสายตาประชาคมโลก
พร้อมกันนี้พระครูสังฆพินัย เปิดเผยด้วยว่า ในอังคารที่ 22 ก.ค.นี้ จะยื่นหนังสือต่อนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้สั่งการมายังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อดำเนินการต่อไป หากในเวลา 7 วันไม่ดำเนินการอย่างไร ก็ต้องแจ้งความในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
นพ.รัศมี วรรณิสสร กล่าวเพิ่มเติมว่าคำพิพากษาของศาลฏีกา ได้ลงความเห็นแล้วว่า ลัทธิสันติอโศกและคณะไม่ได้อยู่ในพระพุทธศาสนา แต่ลัทธิดังกล่าวยังก่อความวุ่นวายให้เกิดในสังคม
“เราดำเนินการเช่นนี้ ถือว่าเป็นการจี้ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาฯดำเนินการให้เร็วขึ้น เพราะที่ผ่านมาไม่ได้ดำเนินการอย่างไรกับลัทธินี้” นพ.รัศมีกล่าว
อนึ่งก่อนหน้านี้ พระเทพวิสุทธิกวี คณะเลขานุการผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช กล่าวว่า หาก พรบ.อุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนามีผลบังคับใช้ กลุ่มผู้เลียนแบบพระสงฆ์ก็น่าจะมีความผิดตามกฎหมายนี้ ทั้งนี้จะมีการพิจารณาว่าเลียนแบบพระสงฆ์หรือไม่นั้น ไม่ใช่พิจารณาแค่เครื่องนุ่งห่ม เพราะบางกลุ่มอาจห่มจีวรที่มีสีแตกต่างกันออกไป แต่จะพิจารณาหลายองค์ประกอบรวมกันว่า ทำให้ประชาชนไขว้เขวและเข้าใจผิดคิดว่าเป็นพระสงฆ์หรือไม่ เช่นแต่งเครื่องแต่งกายไม่เหมือนแต่มีพฤติกรรมเหมือนออกบิณฑบาตร รวมทั้งท่าทางอิริยาบทต่างๆ
เพื่อไทย
Monday, July 21, 2008
จี้ฟัน “สันติอโศก” ทำเสื่อมเสียภาพลักษณ์พระสงฆ์ไทย สร้างความวุ่นวายในสังคม
องค์กรชาวพุทธและเครือข่ายชาวพุทธในยุโรป จ่อยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เอาผิด “สันติอโศก” ทำเสื่อมเสียภาพลักษณ์พระสงฆ์ไทย สร้างความวุ่นวายในสังคม