WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, July 21, 2008

จี้ฟัน “สันติอโศก” ทำเสื่อมเสียภาพลักษณ์พระสงฆ์ไทย สร้างความวุ่นวายในสังคม

องค์กรชาวพุทธและเครือข่ายชาวพุทธในยุโรป จ่อยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เอาผิด “สันติอโศก” ทำเสื่อมเสียภาพลักษณ์พระสงฆ์ไทย สร้างความวุ่นวายในสังคม

ร่วมกันจัดงานสัมมนาความมั่นคงของพระพุทธศาสนา ในหัวข้อหัวข้อ “ลัทธิสันติอโศก กับความมั่นคงของพุทธศาสนา” พระครูสังฆพินัย เปิดเผยว่าการที่ร่วมกันจัดงานครั้งนี้เพื่อจะชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบว่า ลัทธิสันติอโศกที่มีสมณะโพธิรักษ์ เป็นผู้ก่อตั้งนั้น ไม่ได้ถูกบรรจุให้เป็นพระพุทธศาสนาตามคำพิพากษาของศาลฏีกา และให้พ้นจากความเป็นพระ ฉะนั้นการที่แต่งกายเลียบแบบพระ ใช้วิธีการเลียนแบบพระนั้น และถือว่าได้พ้นจากการปกครองของมหาเถรสมาคม ดังนั้นการที่จะออกมาเคลื่อนไหวต่างๆ ก็เป็นสิทธิแต่ว่าต้องห้ามแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ และทำอาการคล้ายสงฆ์ ถือเป็นการเสื่อมเสียภาพลักษณ์ของพระสงฆ์ในสายตาประชาคมโลก

พร้อมกันนี้พระครูสังฆพินัย เปิดเผยด้วยว่า ในอังคารที่ 22 ก.ค.นี้ จะยื่นหนังสือต่อนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้สั่งการมายังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อดำเนินการต่อไป หากในเวลา 7 วันไม่ดำเนินการอย่างไร ก็ต้องแจ้งความในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

นพ.รัศมี วรรณิสสร กล่าวเพิ่มเติมว่าคำพิพากษาของศาลฏีกา ได้ลงความเห็นแล้วว่า ลัทธิสันติอโศกและคณะไม่ได้อยู่ในพระพุทธศาสนา แต่ลัทธิดังกล่าวยังก่อความวุ่นวายให้เกิดในสังคม

“เราดำเนินการเช่นนี้ ถือว่าเป็นการจี้ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาฯดำเนินการให้เร็วขึ้น เพราะที่ผ่านมาไม่ได้ดำเนินการอย่างไรกับลัทธินี้” นพ.รัศมีกล่าว

อนึ่งก่อนหน้านี้ พระเทพวิสุทธิกวี คณะเลขานุการผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช กล่าวว่า หาก พรบ.อุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนามีผลบังคับใช้ กลุ่มผู้เลียนแบบพระสงฆ์ก็น่าจะมีความผิดตามกฎหมายนี้ ทั้งนี้จะมีการพิจารณาว่าเลียนแบบพระสงฆ์หรือไม่นั้น ไม่ใช่พิจารณาแค่เครื่องนุ่งห่ม เพราะบางกลุ่มอาจห่มจีวรที่มีสีแตกต่างกันออกไป แต่จะพิจารณาหลายองค์ประกอบรวมกันว่า ทำให้ประชาชนไขว้เขวและเข้าใจผิดคิดว่าเป็นพระสงฆ์หรือไม่ เช่นแต่งเครื่องแต่งกายไม่เหมือนแต่มีพฤติกรรมเหมือนออกบิณฑบาตร รวมทั้งท่าทางอิริยาบทต่างๆ